ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 602 : โต๊ะหลุมไฟสร้างเสร็จแล้ว
ตอนที่ 602 : โต๊ะหลุมไฟสร้างเสร็จแล้ว
เมื่อกลับมาถึงบ้านของหลัวฉางเซิง เจียงเสี่ยวไป๋จึงถามว่า “นายอำเภอหลัว ทำไมหม่าเหวินเจี๋ยและหม่าเหวินยินจึงหยุดเรียน ? ”
หลัวฉางเซิงส่ายหัว “ฉัยเองก็ไม่รู้สถานการณ์เฉพาะเจาะจง”
เซี่ยงหงจวี๋พูดแทรกขึ้นมา “ฉันพอรู้เรื่องนี้มาบ้าง”
จากนั้น เธอก็เริ่มเล่าเรื่องราวให้เจียงเสี่ยวไป๋ฟังทันที
ปรากฏว่า หม่าเหวินเจี๋ยทะเลาะกับเพื่อนร่วมชั้นในช่วงปีสุดท้ายที่เขาเรียนมัธยมปลาย ระหว่างทะเลาะกัน เขาผลักเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งลงจากเนินเขา ทำให้ขาหัก โรงเรียนกำลังจะไล่เขาออก เขาจึงตัดสินใจลาออกด้วยตัวเอง
เหตุผลในของการทะเลาะกันของหม่าเหวินเจี๋ยก็คือเพื่อนร่วมชั้นรังแกน้องสาวของเขา หลังจากที่หม่าเหวินเจี๋ยลาออก หม่าเหวินยินก็ขอร้องพ่อเพื่อให้พี่ชายของเธอกลับเข้าโรงเรียน อย่างไรก็ตาม หม่าเหวินเจี๋ยไม่สามารถกลับเข้าโรงเรียนได้อีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ ทำให้หม่าเหวินยินลาออกจากโรงเรียนตาม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว
ในช่วงสองปีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พี่น้องทั้งสองไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนปกติ แต่พวกเขาใช้เวลาคิดเรื่องทำธุรกิจแทน
หลังจากที่เซี่ยงหงจวี๋อธิบายเสร็จแล้ว เธอก็มองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋แล้วพูดว่า “เสี่ยวไป๋ เนื่องจากคุณทำธุรกิจ ถ้าสะดวกคุณสามารถให้คำปรึกษาสองพี่น้องได้ พวกเขาไม่ใช่เด็กเกเร”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้แสดงท่าทางของเขาในทันที เขาเพียงแค่พูดว่า “เรื่องนี้ต้องรอดูอีกทีครับ”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เซี่ยงหงจวี๋ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
หลังจากนั้น พวกเขาก็เข้านอน ค่ำคืนนี้ผ่านไปอย่างเงียบสงบ
วันรุ่งขึ้น พวกเขาไปที่สำนักงานของหลัวฉางเซิงก่อน
วันนี้หม่าหลี่และหยินซื่อจงใจมาถึงเร็วกว่าปกติ หลังจากที่มารวมตัวกันแล้ว พวกเขาก็ออกเดินทาง ระหว่างทางหยินซื่อก็ไม่สามารถระงับความตื่นเต้นของเขาได้ เขาพูดว่า “มาดูกันว่าโต๊ะหลุมไฟของคุณเป็นอย่างไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าและมองไปข้างหน้า
วันนี้เขาไม่ได้วางแผนที่จะอยู่ในโรงงานเป็นเวลานาน ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋จึงพาเจียงชานไปกับเขา และขับรถไปที่โรงงานด้วยรถของเขา
ไม่นาน รถจี๊ปก็มาถึง
“นายอำเภอหลัว รองนายอำเภอหม่า ผู้อำนวยการหยิน เถ้าแก่เจียง วันนี้พวกคุณมาที่นี่เร็วมาก ! ”
ทันทีที่เขาเข้าไปในลานของโรงงาน กงเจิ้นเย่ก็ทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม
ข้างหลังเขา มีผู้ช่วยห้าคนและช่างตีเหล็กมากกว่าสิบคน รวมทั้งหวังต้าฉุย ทั้งหมดก็อยู่ด้วย ทุกคนรวมตัวกันรอบโต๊ะหลุมไฟที่พวกเขาทำไว้อย่างเร่งรีบเมื่อคืน
ขณะที่หลัวฉางเซิงและคนอื่นเดินเข้ามา พวกเขาเห็นว่าโต๊ะหลุมไฟที่พวกเขาทำนั้นมีลักษณะคล้ายกับพิมพ์เขียวที่เจียงเสี่ยวไป๋วาดไว้อย่างมาก แตกต่างเพียงอันหนึ่งอยู่บนกระดาษ และอีกอันอยู่ตรงหน้าพวกเขา
โต๊ะสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างประมาณ 90 เซนติเมตร สูงประมาณ 60 เซนติเมตร และมีโครงสร้างคล้ายหลุมไฟอยู่ข้างใต้ ตรงกลางมีเสาสี่เหลี่ยมยาวประมาณ 40 เซนติเมตร ด้านบนโต๊ะมีขอบกลวงรอบ ๆ โดยมีลิ้นชักสูงประมาณ 10 เซนติเมตรอยู่ตรงกลาง ด้านหนึ่งมีท่อปล่องไฟเชื่อมต่อกับส่วนกลางของแกนเตาหลอมและตั้งตรงขึ้นนำไปสู่ด้านนอก
โต๊ะหลุมไฟทั้งหมดเป็นเหล็กสีขาว ทำให้ดูแข็งแรง
“นี่คือโต๊ะหลุมไฟสินะ มันดูดีมาก ! ” หยินซื่อกล่าว
หม่าหลี่พูดว่า “ดูเหมือนว่ามันจะดูดีกว่าโต๊ะโทรม ๆ ที่บ้านของคุณนะ”
หยินซื่อโต้กลับ “เมื่อวันก่อน คุณชื่นชมมันไม่หยุด แต่วันนี้กลับรังเกียจมันแล้วหรือ ! ”
หม่าหลี่หัวเราะเบา ๆ “เมื่อเห็นโต๊ะหลุมไฟที่เจียงเสี่ยวไป๋ทำ ผมก็ไม่สามารถชื่นชมโต๊ะที่คุณทำได้อีกต่อไปแล้ว”
หยินซื่อยังคงไม่สะทกสะท้าน “อย่าบอกว่าคุณไม่เห็นคุณค่ามัน แม้ว่ามันจะไม่สวยมากนัก แต่ก็ใช้ได้เหมือนกัน!”
“……”
ขณะที่คนไม่กี่คนพูดคุยและหัวเราะ เจียงเสี่ยวไป๋ก็เดินไปที่ข้างโต๊ะหลุมไฟ หวังเอ้อฉุยก็วิ่งมาทันที ก่อนจะยื่นตะขอที่ทำจากลวดเหล็กโค้งงอหนาให้เขา
เจียงเสี่ยวไป๋ขอบคุณเขา ก่อนจะสอดตะขอเหล็กเข้าไปในรูเล็ก ๆ ตรงกลางโต๊ะ ด้วยการดึงอย่างนุ่มนวล ฝาครอบเหล็กทรงกลมก็ถูกยกขึ้น เผยให้เห็นเตาถ่านหินที่อยู่ด้านใน
อย่างไรก็ตาม ฝาครอบเหล็กนี้มีขนาดค่อนข้างเล็ก ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับถ่านหินรวงผึ้ง
เจียงเสี่ยวไป๋ยังคงดึงต่อไป เผยให้เห็นวงแหวนเหล็กทรงกลมกลวงที่มีความกว้างประมาณ 6 เซนติเมตร
แล้วยังมีอีกฝาหนึ่งรวมเป็นสามฝา ซึ่งประกอบขึ้นเป็นส่วนที่กลวงทั้งหมดของโต๊ะ
ภายในยังแบ่งชั้นเป็นชั้น ๆ โดยแต่ละชั้นจะเข้ากันอย่างลงตัว ครอบคลุมแกนเตาทั้งหมดได้อย่างลงตัว
หลัวฉางเซิงมองดูแล้วอุทานว่า “การออกแบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ปรับขนาดช่องเปิดของเตาได้ตามต้องการ แต่ยังปรับตามขนาดของอุปกรณ์เมื่อใช้เครื่องครัวด้วย มันช่างฉลาดล้ำจริง ๆ ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “เมื่อไฟกำลังลุกไหม้ หากคุณต้องการเปลวไฟที่แรง เพียงเปิดฝาออกแล้ววางอุปกรณ์ลงบนกองไฟโดยตรง ในทางกลับกัน หากไม่ต้องการใช้ ๆ ไฟแรง ก็สะดวกที่จะปิดฝาแล้ววางกาต้มน้ำไว้ด้านบน”
หลัวฉางเซิงพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าและชี้ไปที่ลิ้นชักที่อยู่ติดกัน แล้วถามว่า “คุณออกแบบสิ่งนี้มาเพื่ออะไร?”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เหล็กนำความร้อน ดังนั้นสามารถใส่เมล็ดแตงโมและถั่วลิสงไว้ในลิ้นชัก เพื่อย่างและปรุงให้สุกได้”
หลัวฉางเซิงหัวเราะชอบใจ “คุณเป็นนักธุรกิจอย่างแท้จริง ไม่ลืมที่จะสร้างรายได้ แม้แต่ตอนทำโต๊ะหลุมไฟ”
แต่เขาต้องยอมรับว่ามันสะดวกจริง ๆ
จากนั้น เขาก็ชี้ไปที่แท่งเหล็กบาง ๆ สองสามท่อนในส่วนกลวงข้าง ๆ แล้วถามว่า “แล้วสิ่งนี้ใช้ทำอะไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ประการแรก มีไว้สำหรับรองรับโครงสร้าง ประการที่สองเพื่อลดน้ำหนัก จึงทำให้กลวง ประการที่สามเพื่อความสวยงาม ดูเป็นชิ้นเดียวกัน ประการที่สี่เพื่อการใช้งานจริง เช่น แขวนถุงเท้า หรือผ้าเช็ดหน้าหลังซัก แขวนไปครู่เดียวก็แห้งแล้ว”
หลัวฉางเซิงอ้างปากค้างด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าการออกแบบของโต๊ะหลุมไฟขนาดเล็กเช่นนี้จะสามารถใช้งานได้หลากหลายขนาดนี้
จากนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็เปิดลิ้นชักขนาดใหญ่ที่ฐานกว้างประมาณ 25 เซนติเมตร สูง 8 เซนติเมตร มีลักษณะคล้ายกล่องเหล็กที่ไม่มีฝาปิด ซึ่งมีเพียงที่จับด้านนอก
“นี่สำหรับเก็บขี้เถ้าถ่านหิน ขี้เถ้าจากถ่านหินที่กำลังลุกไหม้ในเตาจะตกลงไป และเมื่อจำเป็นต้องเททิ้ง คุณก็แค่ดึงมันออกมา”
หม่าหลี่มองดู แล้วอุทานออกมา “อันนี้ดี สะดวกและช่วยขจัดหลายปัญหา ที่สำคัญคือสะอาดด้วย”
หยินซื่อพยักหน้า สมัยก่อนต้องขูดขี้เถ้าออกจากเตาด้วยตะขอจากด้านใน และพื้นที่สะสมขี้เถ้าในเตาก็น้อย ต้องทำความสะอาดบ่อย มิฉะนั้นจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของเตา
ด้วยการออกแบบของเจียงเสี่ยวไป๋ มันจะไม่เกิดปัญหาใด แม้ว่าขี้เถ้าจะไม่ถูกเทออกเป็นเวลาหลายวันก็ตาม
“อย่าพูดถึงฟังก์ชั่นและสไตล์เลย ในอนาคตการทานอาหารที่โต๊ะไฟนี้แม้จะไม่ได้ปรุงหม้อไฟ แต่อาหารบนจานก็จะไม่เย็น ! ” หลัวฉางเซิงกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “แน่นอนว่าด้วยโต๊ะหลุมไฟนี้ หากต้องการย่าง เราก็สามารถปิดฝาด้านบนได้ ซึ่งต่างจากเตาทั่วไปที่เปิดอยู่ด้านบน ซึ่งจะช่วยลดการไหลเข้าของออกซิเจน และทำให้ถ่านหินเผาไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
“นอกจากนี้ เนื่องจากเหล็กมีค่าการนำความร้อน ความร้อนจากเตาจึงถูกถ่ายโอนไปยังโต๊ะ ซึ่งให้ความอบอุ่นมาก ให้ความอุ่นกว่าการย่างบนเตาถ่านหินโดยตรงด้วยซ้ำ”