ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 606 : คำที่จะเป็นประโยชน์ไปตลอดชีวิต
- Home
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 606 : คำที่จะเป็นประโยชน์ไปตลอดชีวิต
ตอนที่ 606 : คำที่จะเป็นประโยชน์ไปตลอดชีวิต
เมื่อเข้ามาก็เป็นร้านที่มีสินค้าประเภทธูป เทียนวางซ้อนกันอยู่ด้านใน พวกเขาเดินตามหวงเผิงจู่เข้าไป แล้วเดินออกไปทางประตูหลังของร้าน นำไปสู่ลานเล็ก ๆ ที่มีห้องสองห้องอยู่ด้านหลัง
มันคือรูปแบบอาคารที่มีร้านค้าอยู่ด้านหน้าและมีลานบ้านอยู่ด้านหลังทั่วไป
ตอนนี้ภายในบ้านมีเพียงหวงเผิงจู่เท่านั้น หลังจากงานศพของพ่อของเขา สมาชิกในครอบครัวทั้งหมดก็กลับไปที่ชิงโจว และเขาเป็นเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่คอยดูแลบ้าน
หลังจากพูดคุยกันสักพัก หวงเผิงจู่กล่าวว่า “ผมไม่คิดว่าเสี่ยวหม่าจะรู้จักคุณเจียง ก่อนหน้านี้ผมและเขาตกลงกันว่า ผมจะมอบบ้านให้กับเสี่ยวหม่าก่อน จากนั้นเขาจะผ่อนจ่ายให้ผมจนครบภายใน 1 ปี”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบว่า “ไม่จำเป็น ผมค่อนข้างพอใจกับบ้านหลังนี้ บ้านนี้ราคา 1,200 หยวนใช่ไหม ? ผมจะจ่ายให้เต็มจำนวน”
จากนั้น เขาก็เปิดกระเป๋าเอกสาร หยิบเงินออกมาสองปึก ยื่นให้หวงเผิงจู่หนึ่งปึก และเริ่มนับอีกปึกหนึ่ง
หวงเผิงจู่รีบพูด “โอ้ ไม่นะ คุณเจียง ถ้าคุณต้องการบ้าน ผมจะขายให้ในราคา 1,000 หยวน และคุณไม่จำเป็นต้องจ่ายส่วนที่เหลืออีก 200 หยวน”
เจียงเสี่ยวไป๋ยังคงนับธนบัตรอีก 20 ฉบับต่อไป โดยพูดว่า “คุณหวง บ้านราคา 1,200 หยวนนั้นถูกมากแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องลดราคาให้ผม”
หวงเผิงจู่ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากรับเงินอย่างถ่อมตัว
จากนั้น หวงเผิงจู่พาเจียงเสี่ยวไป๋ไปรอบ ๆ บ้าน ก่อนจะเก็บข้าวของของเขาใส่กระเป๋าเดินทาง ยื่นกุญแจให้เจียงเสี่ยวไป๋ และทั้งสองคนก็ดำเนินขั้นตอนการโอนบ้านให้เสร็จสิ้น
กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
หลังจากที่หวงเผิงจู่จากไปแล้ว หม่าเหวินเจี๋ยจึงพูดว่า “อาเจียง ผมไม่คิดว่าอาจะรู้จักพี่หวงด้วย ! ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและแก้ไขคำพูด “ไม่ใช่สิ เป็นพี่หวงที่รู้จักคุณ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “คำพูดเมื่อครู่นี้ของนายน่าสนใจมาก เหมือนฉันจะสอนอะไรนายสักหน่อยแล้วกัน ถ้านายเรียนรู้แล้วจะได้ประโยชน์ไปตลอดชีวิต”
หม่าเหวินเจี๋ยพูดทันทีว่า “อาเจียง บอกผมหน่อยสิ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ในโลกนี้ไม่สำคัญว่านายจะรู้จักใครกี่คน แต่สิ่งสำคัญคือมีคนรู้จักนายกี่คนต่างหาก”
หม่าเหวินเจี๋ยไม่ค่อยเข้าใจและถามว่า “ผมรู้จักคนอื่นกับคนอื่นรู้จักผม มันต่างกันอย่างไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบว่า “นายจะเข้าใจมันด้วยตัวเอง ฉันทำได้เพียงเตือนนายว่าอย่าเข้าใจคำว่า ‘รู้จัก’ เพียงด้านเดียว”
หม่าเหวินยินที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นว่า “อาเจียง ฉันคิดว่าฉันเข้าใจสิ่งที่อาหมายถึง ตัวอย่างเช่น พี่หวง เขาเป็นตัวแทนแฟรนไชส์ของอา เขารู้จักอาเพราะอามีความสำคัญต่อเขา แต่อาไม่รู้จักเขา เพราะเขาไม่สำคัญสำหรับอาใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋มองดูเธอและพยักหน้า แล้วพูดว่า “นั่นก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการจะบอกอย่างแท้จริง ค่อย ๆ คิดดู เพราะความจริงมากมายในชีวิตจำเป็นต้องมีประสบการณ์ก่อน จึงจะสามารถเข้าใจได้อย่างแท้จริง”
“ครับ ! ”
“ค่ะ ! ”
หม่าเหวินเจี๋ยและหม่าเหวินยินต่างก็พยักหน้า
หม่าเหวินยินถามว่า “อาเจียง อาซื้อร้านต่อจากพี่หวงมา อาวางแผนจะทำธุรกิจอะไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋มองเธอแล้วพูดว่า “ถ้าเธอต้องการทำธุรกิจ อาจะมอบร้านนี้ให้จัดการ เป็นอย่างไร ? ”
หลังจากการพูดคุยเมื่อคืนนี้และวันนี้ เขาพบว่าหม่าเหวินยินมีความรอบครอบมากกว่าหม่าเหวินเจี๋ย และเธอก็สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดี เธอสามารถเก็บความรู้สึกและอดทนได้ดีกว่า
หม่าเหวินยินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หน้าแดงแล้วพูดว่า “ฉันจะทำได้ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ไม่ว่าเธอจะทำได้หรือไม่ ฉันไม่รู้ เพราะเธอจะได้ผลลัพธ์หลังจากที่เธอทำมันแล้วเท่านั้น แต่ตราบเท่าที่เธอเต็มใจจะทำ นั่นคือสิ่งที่สำคัญ”
“พ่อของฉันบอกว่าอาเจียงเก่งเรื่องธุรกิจมาก ถ้าอาเจียงให้โอกาสฉันและพี่ชาย ฉันก็เต็มใจจะทำ” หม่าเหวินยินกล่าว
เจียงเสี่ยวไป๋หยิบกุญแจบ้านที่เขาเพิ่งซื้อบนถนนถู่หวังออกมา และโยนให้หม่าเหวินยิน “ถ้าอย่างนั้นเธอก็เอาไปสิ”
หม่าเหวินยินรับกุญเจด้วยความตกตะลึง เธอไม่คาดคิดว่าอาเจียงจะมอบกุญแจให้เธอในทันทีแบบนี้
หม่าเหวินเจี๋ยไม่คาดคิดว่าอาเจียงจะมอบกุญแจให้น้องสาวของเขา เขาถามด้วยความสงสัยว่า “อาเจียง แล้วผมล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋มองเขาแล้วพูดว่า “ให้น้องสาวของนายเป็นผู้จัดการร้าน ส่วนนายออกไปวิ่งขายของ นายเต็มใจไหม ? ”
“ออกไป……ขายของเหรอ ? ”
หม่าเหวินเจี๋ยเกาหัวแล้วถามว่า “มันเหมือนกับการขายทั่วไปหรือเปล่า ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ในปีนี้นายช่วยน้องสาวของนายก่อน ปีหน้า ฉันจะให้นายไปที่ชิงโจว ไปเรียนรู้วิธีขับรถก่อน เมื่อนายอยู่ที่ชิงโจว ฉันจะหาคนมาสอนวิธีวิ่งขายของให้”
หม่าเหวินเจี๋ยประหลาดใจและอุทานว่า “อาเจียง อาจะให้ผมเรียนขับรถจริง ๆ เหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “การขับรถเป็นทักษะพื้นฐานที่ทุกคนควรมี ฉันมีโรงเรียนสอนขับรถที่ชิงโจว หลังจากนายไปที่ชิงโจว นายสามารถไปเรียนขับรถได้โดยตรง หลังจากที่นายได้รับใบขับขี่แล้ว นายก็สามารถเริ่มทำงานได้”
“เยี่ยมมาก ! ”
หม่าเหวินเจี๋ยลูบมืออย่างตื่นเต้น เขาอยากเรียนขับรถมาโดยตลอด แต่ไม่มีโอกาสเลย
ตอนนี้อาเจียงกำลังให้โอกาสเขา และเขาแทบรอไม่ไหวที่จะไปชิงโจว
แต่เจียงเสี่ยวไป๋ขอให้เขาช่วยน้องสาวของเขาจนถึงสิ้นปี เขาจึงเชื่อฟังและทำตามข้อตกลงดังกล่าว
“อาเจียง ผมจะทำตามคำแนะนำของอา”
หลังจากตื่นเต้น หม่าเหวินเจี๋ยก็ตบหน้าอกของเขาแล้วพูดขึ้น
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เอาล่ะ พวกนายสองคนจะไปที่ว่าการอำเภอพร้อมกับอาตอนนี้ อามีบางอย่างให้ทำบ่ายวันนี้”
“ไปที่ว่าการอำเภอ……ทำไม ? ”
หม่าเหวินเจี๋ยรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยและถามอย่างอ่อนแรง
เขาเพิ่งถูกพ่อลงโทษเมื่อคืนนี้ เขาไม่อยากไปที่ว่าการอำเภอ เพราะถ้าพ่อของเขาอารมณ์เสียกับเขาอีกครั้งในที่ว่าการอำเภอ มันจะน่าอายขนาดไหน
เมื่อเห็นความกังวลของหม่าเหวินเจี๋ย เจียงเสี่ยวไป๋ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร มากับอา อาจะโชว์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของอาให้ดู”
เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ หม่าเหวินเจี๋ยก็ปฏิเสธไม่ได้ เขาติดตามเจียงเสี่ยวไป๋ไปที่รถจี๊ป
ในทางกลับกัน หม่าเหวินยินเต็มไปด้วยความคาดหวัง เธอสงสัยว่าอาเจียงอยากให้เธอขายอะไร ?
ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงที่ว่าการอำเภอ
เจียงเสี่ยวไป๋พาลูกสาวของเขาและสองพี่น้องครอบครัวหม่าไปที่ห้องทำงานของหลัวฉางเซิง
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ไปที่ทำงานของพ่อ หม่าเหวินเจี๋ยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และคิดว่าจะเป็นการดีที่สุดที่จะไม่พบกับพ่อของเขาในหน่วยงาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องทำงานของหลัวฉางเซิง เขาเห็นหม่าหลี่นั่งอยู่ข้างใน
“พ่อ ! ”
หม่าเหวินเจี๋ยทักทายผู้เป็นพ่อของเขาอย่างประหม่า จากนั้นจึงทักทายหลัวฉางเซิงอย่างรวดเร็ว “สวัสดีครับลุงหลัว”
หลัวฉางเฉิงยิ้ม “ดูหลานสิ หลานไม่คิดว่าจะเจอพ่อของตัวเองที่ห้องทำงานของลุงใช่ไหม ? ”
หม่าเหวินเจี๋ยฝืนยิ้ม
“รองนายอำเภอหม่า ผมพาเสี่ยวเจี๋ยและเสี่ยวยินมาที่นี่ เพราะผมต้องการทำธุรกิจร่วมกับพวกเขาในอนาคต”
โชคดีที่ในเวลานี้ เจียงเสี่ยวไป๋พูดขึ้นมา
หลัวฉางเซิงเหลือบมองเจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความประหลาดใจ เขาจำได้ว่าเมื่อคืนเซี่ยงหงจวี๋ขอให้เจียงเสี่ยวไป๋พาเด็กสองคนไปทำธุรกิจ และเจียงเสี่ยวไป๋ก็บอกว่าเขาจะพิจารณาเรื่องนี้ เขาไม่คิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะตัดสินใจเร็วขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นสิ่งที่เขาหวังจะได้เห็นเช่นกัน
เหล่าหม่ากำลังเป็นกังวลเรื่องหน้าที่การงานของเด็กสองคนนี้ ตอนนี้มีเจียงเสี่ยวไป๋คอยดูแลพวกเขาแล้ว นับว่าพวกเขามีเส้นทางอนาคตที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว