ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 61 :ไม่เรียกทรัพย์ให้ แถมยังตัวซวยด้วย
- Home
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 61 :ไม่เรียกทรัพย์ให้ แถมยังตัวซวยด้วย
ตอนที่ 61 :ไม่เรียกทรัพย์ให้ แถมยังตัวซวยด้วย
“อะไรนะ ? ”
“คุณยังจะเอาเงินที่เป็นส่วนแบ่งรายได้ของผมไปอีกหรือ ? ”
หลิวซือกั๋วไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เจิ้งต้าเป่าเพิ่งพูดออกมา
“ทำไม ? นายมีปัญหากับเรื่องนี้หรือเปล่า ? ”
เจิ้งต้าเป่าถามอย่างดูถูกเหยียดหยาม
แม้หลิวซือกั๋วอยากจะคัดค้าน แต่เขาจะกล้าโต้แย้งกับเจิ้งต้าเป่าได้อย่างไร ?
ดูแขนของจิ้งต้าเป่าหนากว่าต้นขาของเขาเสียอีก
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น หลิวซือกั๋วจึงต้องนำเงินที่เขาหามาได้จากสองวันที่ผ่านมามอบให้กับเจิ้งต้าเป่า
วันแรก 47 หยวน วันที่สอง 110.5 หยวน
รวมทั้งหมด 157.5 หยวน
เจิ้งต้าเป่าขมวดคิ้วและพูดว่า “นายช่วยควักเงินตัวเองเพิ่มให้มันเป็นเลขกลม ๆ ได้ไหม ? ”
หลิวซือกั๋วพูดอย่างเชื่องช้า “พี่เจิ้ง ที่บ้านผมมีเงินไม่มาก”
เจิ้งต้าเป่ากล่าวว่า “ถ้านายลงทุนมากก็รับค่าตอบแทนมาก เงินเหล่านี้จะนำซื้อมันฝรั่งลูกเล็กทั้งหมด พรุ่งนี้หลังจากขายมันฝรั่งหมด ฉันจะคืนให้นายทันที”
หลิวซือกั๋วไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากควักเงินทั้งหมดที่มีเหลืออยู่ในบ้านออกมา ซึ่งมีเพียง 11.4 หยวนเท่านั้น
เมื่อบวกกับ 157.5 หยวน จึงเท่ากับ 168.9 หยวน
“เอาล่ะ งั้นนับว่าฉันยืมมา 170 หยวนแล้วกัน พรุ่งนี้เมื่อเราขายผัดมันฝรั่งได้อีก ฉันจะเพิ่มให้นายอีก 30 หยวน จะได้รวมเป็น 200 หยวน”
เจิ้งต้าเป่าพูดพร้อมกับโบกมือ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิวซือกั๋วและจูเยี่ยนผิงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในตอนแรกพวกเขากังวลว่าจะสูญเสียส่วนแบ่งรายได้ที่เพิ่งได้รับ แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะได้รับผลประโยชน์มหาศาลเช่นนี้จากเจิ้งต้าเป่า
เพราะเขาเพิ่มให้อีกตั้ง 30 หยวนเชียวนะ
พอให้ซื้อจักรยานปั่นแล้ว
“ขอบคุณครับพี่เจิ้ง”
หลิวซือกั๋วขอบคุณเขาอย่างรวดเร็วและไปรับซื้อมันฝรั่งกับเจิ้งต้าเป่าอย่างมีความสุข พวกเขาทำงานหนักจนดึกดื่นถึงรับซื้อมันฝรั่งลูกเล็ก ๆ จากหมู่บ้านใกล้เคียงมาได้เกือบหมด
ในขณะเดียวกัน เขาได้ยินว่าเจียงเสี่ยวไป๋พยายามทุกวิถีทางเพื่อหาซื้อมันฝรั่งลูกเล็กในหมู่บ้าน แต่กลับหาซื้อไม่ได้เลย เรื่องนี้ทำให้เขายิ่งมีความสุขมากขึ้น
เช้าวันรุ่งขึ้น จูเยี่ยนผิงเห็นหลินเจียอินนั่งซ้อนจักรยานอีกแล้ว คราวนี้ในใจของเธอก็ยิ่งอิจฉาริษยายิ่งขึ้น
“เฮอะ รอให้พวกเธอเจ๊งก่อนเถอะ แล้วฉันจะเป็นคนที่ปั่นจักรยาน ส่วนเธอจะต้องเป็นคนเดินอย่างฉันนี่” จูเยี่ยนผิงพึมพำกับตัวเองด้วยความไม่พอใจ
เจียงเสี่ยวไป๋มาถึงที่ร้านน้ำชา ในเวลานี้หวังผิงเดินเข้ามาคุยกับเขาอย่างดีใจ “เมื่อคืนนี้เราหาซื้อมันฝรั่งลูกเล็กบรรทุกรถแทรกเตอร์กลับมาได้สองคัน ซื้อมาในราคาชั่งละ 5 หลี รวมแล้วมีน้ำหนักประมาณ 6,000 กว่าชั่งได้”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า เขาไม่รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้
เมื่อเห็นเจียงเสี่ยวไป๋ไม่มีปฏิกิริยา หวังผิงจึงถามอีกครั้งว่า “วันนี้เราควรทำอย่างไรดี ? ควรจะขายแค่ครึ่งวันไหม ? ”
“ไม่แล้ว ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมือและมองไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารฝั่งตรงข้าม แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นเฉียบคม “วันนี้เราจะจัดโปรโมชั่นซื้อ 1 ชามแถม 1 ชาม”
เขายังเน้นย้ำอีกว่า “ไม่ว่าลูกค้าจะซื้อกี่ชามก็ตาม เราจะแถมเพิ่มให้ตามจำนวนที่พวกเขาซื้อ สำหรับวันนี้วันเดียวเท่านั้น”
หวังผิงผงะและอุทานว่า “หมายความว่าเราขายเพียงชามละ 2 เหมาอย่างนั้นหรือ ? ”
หลินเจียอินพูดอย่างตื่นเต้นว่า “พวกหลิวซือกั๋วขายชามละ 3.5 เหมา แต่เราขายชามละ 2 เหมา โปรโมชั่นนี้ทำให้พวกเขาขายไม่ออกได้เลยนะ”
“ใช่แล้ว น้าเบื่อกับความเย่อหยิ่งของจูเยี่ยนผิงมานานแล้ว มาดูกันว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับเรื่องนี้” เจี่ยงชุ่ยหยูพูดอย่างโมโหจากด้านข้าง
จะว่าไปเรื่องราวทั้งหมดนี้มันก็มีสาเหตุมาจากเธอเช่นกัน
เธอทำงานช่วยเจียงเสี่ยวไป๋ที่นี่ และเมื่อเธอเห็นเขาทำเงินได้เยอะ เธอรู้สึกภูมิใจในตัวหลานจึงอดไม่ได้ที่จะพูดอวดคนในหมู่บ้าน
ในตอนแรก เธอมีความปรารถนาดี เธอแค่ต้องการให้คนในหมู่บ้านรู้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋ได้กลับตัวกลับใจแล้ว
ใครจะไปคิดว่าหลังจากที่หลิวซือกั๋วได้ยิน เขาก็มีความคิดอื่น สิ่งนี้นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างหลิวซือกั๋วและหลินเจียอิน โดยเขาขอให้เธอขึ้นราคารับซื้อมันฝรั่ง จนเรื่องนี้ลุกลามทำให้เจียงเสี่ยวไป๋ทะเลาะกับหลิวซือกั๋ว และคืนมันฝรั่งลูกเล็กที่ซื้อมาจากเขา จากนั้น หลิวซือกั๋วก็ไปร่วมมือกับนักเลงเฉินเพื่อมาเปิดร้านขายผัดมันฝรั่งแข่งกับเจียงเสี่ยวไป๋
สองสามวันที่ผ่านมานี้ เธอรู้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋ยังหาซื้อมันฝรั่งจากที่ไหนไม่ได้เลย ทำให้เธอรู้สึกผิดกับสิ่งที่เธอก่อขึ้น
ถ้าเธอไม่พูดออกไป จะมีปัญหามากมายขนาดนี้ได้อย่างไร ?
เธอกังวลด้วยซ้ำว่าหากธุรกิจของเจียงเสี่ยวไป๋พังเพราะเรื่องนี้จริง ๆ แม้ว่าเธอจะเป็นอาสะใภ้สามของเจียงเสี่ยวไป๋ แต่เธอก็จะรู้สึกผิดและไม่กล้าสู้หน้าเขาอีก
อย่างไรก็ตาม เจียงเสี่ยวไป๋ไม่เคยตำหนิเธอเลย ทำให้เธอรู้สึกทั้งขอบคุณและรู้สึกผิดในเวลาเดียวกัน
จนกระทั่งเมื่อเช้านี้ เมื่อเธอได้ยินว่าหวังผิงนำมันฝรั่งลูกเล็กบรรทุกรถแทรกเตอร์สองคันกลับมาจาก ทั้งยังรับซื้อมาได้ในราคาเพียงชั่งละ 5 หลี ซึ่งถูกกว่าที่หลิวซือกั๋วรับซื้อเกือบร้อยเท่า ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจมาก
ตอนนี้เธอรู้สึกชื่นชมและชอบเจียงเสี่ยวไป๋มากขึ้นไปอีก
เจียงเสี่ยวไป๋ลงมือเขียนป้าย “ซื้อ 1 แถม 1” สองแผ่น และติดป้ายโฆษณาไว้ข้างถนน ซึ่งทำให้เกิดความฮือฮาในหมู่ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาทันที พวกเขาสามารถดึงดูดลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ร้านของเขากลับมาขายดิบขายดีอีกครั้ง
ที่ประตูสถานีรอรถโดยสาร หลังจากที่หลิวซือกั๋วตั้งแผงขายของแล้ว จูเยี่ยนผิงก็เร่งให้หลิวซือหมิงรีบขูดมันฝรั่งลูกเล็กอย่างรวดเร็ว
หลิวซือหมิงนั่งทำงานงก ๆ ในขณะที่หลิวซือกั๋วและจูเยี่ยนผิงต่างตื่นเต้นที่มีคนมาช่วยงานในวันนี้ พวกเขาจะต้องขายได้มากขึ้นเป็นหลายร้อยหยวนแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงได้ ดูเหมือนว่ากิจการในวันนี้จะไม่ดีเท่าที่ควร
“เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมวันนี้ถึงขายไม่ดีเลย ? ”
เมื่อเห็นว่ายังขายไม่ค่อยได้ จูเยี่ยนผิงรู้สึกหงุดหงิดและเริ่มบ่นกับหลิวซือกั๋ว
หลิวซือกั๋วไม่รู้เช่นกัน หากเป็นเมื่อวาน ตอนนี้พวกเขาคงทำเงินได้หลายร้อยหยวนแล้ว แต่วันนี้พวกเขาทำเงินได้เพียง 20-30 หยวนเท่านั้น
มันผิดปกติ
“เป็นเพราะน้องชายของคุณอยู่ด้วยหรือเปล่า เขาอาจเป็นตัวซวยก็ได้”
จูเยี่ยนผิงชี้ไปที่หลิวซือหมิงแล้วกระซิบ
วันนี้ขายได้ไม่ดีนัก มันฝรั่งที่ขูดแล้วจึงเหลือเต็มกะละมังพลาสติกขนาดใหญ่ หลิวซือหมิงไม่มีอะไรทำจึงเริ่มมองไปรอบ ๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามาในเมือง เขาจึงรู้สึกแปลกตากับทุกสิ่ง
“คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกมั้ง”
เสียงของหลิวซือกั๋วแผ่วลงเล็กน้อย “ให้ฉันไปดูสถานการณ์ฝั่งตรงข้ามไหม ? ”
“ไม่ต้องไป ปล่อยให้น้องคุณไปดีกว่า”
จูเยี่ยนผิงเหลือบมองหลิวซือหมิงอย่างหงุดหงิด เธอคิดว่าการที่ธุรกิจซบเซาในวันนี้เป็นเพราะเขามันตัวซวย เธอจึงอยากผลักไสให้เขาออกไปไกล ๆ
หลิวซือกั๋วไม่ต้องการเห็นเจียงเสี่ยวไป๋เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าเห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าน้องชายไม่ค่อยฉลาดนัก ดังนั้นเขาจึงให้คำแนะนำอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะปล่อยให้หลิวซือหมิงไป
“เถ้าแก่ ผัดมันฝรั่งสองชาม”
หลังจากหลิวซือหมิงออกไปสักพัก ลูกค้าสองคนที่เพิ่งลงจากรถโดยสารก็มาซื้อผัดมันฝรั่งสองชาม
จากนั้น ก็เริ่มมีคนมาซื้อผัดมันฝรั่งอีกสองสามคน
ตอนนี้ยิ่งทำให้จูเยี่ยนผิงมั่นใจมากขึ้นว่าหลิวซือหมิงเป็นตัวปัญหา หลังจากทำงานเสร็จ เธอพูดกับหลิวซือกั๋วว่า “เห็นไหม ทันทีที่น้องชายของคุณออกไปก็ขายดีขึ้นมา ไม่ให้บอกว่าเขาเป็นตัวซวยแล้วจะให้ฉันพูดว่าอะไร ? ”
หลิวซือกั๋วก็งงไม่แพ้กัน
จูเยี่ยนผิงกล่าวว่า “คุณควรไปขอให้เจิ้งต้าเป่าหาสถานที่อื่นที่ห่างไกลจากเราไว้ ให้น้องชายของคุณขูดมันฝรั่ง พอขูดเสร็จค่อยให้เขายกมาให้”
แม้ว่าเธอจะคิดว่าหลิวซือหมิงเป็นตัวซวย แต่เธอก็ไม่อยากไล่แรงงานฟรีคนนี้ออกไป
หลิวซือกั๋วเองก็ลังเลเช่นกัน เพราะการมีหลิวซือหมิงอยู่ใกล้ ๆ จะทำให้เขาเบางานลงไปเยอะมาก
หลังจากพูดคุยกับเจิ้งต้าเป่าแล้ว ทั้งสองก็ยังคงดูแลลูกค้าต่อไป หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีลูกค้าอีกสี่หรือห้าคนเข้ามา
“ฉันได้ยินมาว่าผัดมันฝรั่งของคุณชามละ 3.5 เหมาเท่านั้นหรือ ? ”
ลูกค้าหนึ่งในนั้นถามขึ้น
ทันทีที่หลิวซือกั๋วได้ยิน เขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้เป็นลูกค้าที่เคยซื้อผัดมันฝรั่งจากร้านของเจียงเสี่ยวไป๋
เขาดีใจมากที่สามารถขโมยลูกค้าของเจียงเสี่ยวไป๋มาได้
“ใช่ ผัดมันฝรั่งของเราราคาถูกและอร่อย แค่ชามละ 3.5 เหมาเท่านั้น ถูกกว่าอีกฝั่งถึง 5 เฟิน”
หลิวซือกั๋วพูดอย่างภาคภูมิใจ
“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอชามนึง”
“ฉันก็เอาชามหนึ่งเหมือนกัน”
“ฉันด้วย”
“……”
พวกเขาทั้งห้าคนสั่งผัดมันฝรั่งคนละชาม จูเยี่ยนผิงเตรียมน้ำซอสให้พวกเขาอย่างดีใจขณะยิ้มกว้าง
“แย่แล้ว…แย่แล้ว…”
ทันใดนั้น หลิวซือหมิงก็วิ่งเข้ามาในร้าน แยกคนทั้งห้าที่กำลังรอผัดมันฝรั่งออก เขาตะโกนขึ้นว่า “มีหลายคนกำลังต่อคิวซื้อผัดมันฝรั่งที่ร้านของเจียงเสี่ยวไป๋ เพราะพวกเขาจัดโปรโมชั่นซื้อหนึ่งชามแถมหนึ่งชาม”
“อะไรนะ ? ”
“ปกติร้านนั้นขายผัดมันฝรั่งชามละ 4 เหมา ตอนนี้ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง เท่ากับว่าตกชามละ 2 เหมาเองน่ะสิ”
“ที่นี่ขายชามละ 3.5 เหมา แต่ที่นั่นขายตกชามละ 2 เหมา ไปซื้อที่ร้านนั้นกันเถอะ”
“เอาล่ะ ไปที่ร้านนั้นกันเถอะ”
เมื่อลูกค้าห้าคนที่กำลังรอผัดมันฝรั่งของพวกเขาได้ยินสิ่งที่หลิวซือหมิงพูด ทั้งห้าคนจึงทิ้งผัดมันฝรั่งที่จูเยี่ยนผิงกำลังเตรียมไว้ทันที และรีบเดินข้ามถนนไปอย่างรวดเร็ว
ในเมื่อพวกเขายังไม่ได้กินผัดมันฝรั่ง และอีกฝั่งก็ราคาถูกกว่ามาก ใครจะอยากอยู่ที่นี่เพื่อซื้อของแพงกัน ?
เมื่อเห็นลูกค้าออกไปกันหมด ความโกรธของจูเยี่ยนผิงปะทุขึ้น เธอชี้หน้าหลิวซือหมิงด่าเขาเสียงดัง “เจ้าโง่ นายมีสมองไว้คั่นหูหรือไง ! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันนี้ร้านเราขายไม่ดี ทั้งหมดเป็นเพราะนายคนเดียว นอกจากจะไม่นำโชคมาให้แล้ว ยังเป็นตัวทำลายโชคอีกด้วย”
หลิวซือหมิงถูกด่าจนงง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพี่สะใภ้ถึงโกรธเขามากขนาดนี้