ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 615 : นั่งเครื่องบินมา
ตอนที่ 615 : นั่งเครื่องบินมา
เจียงเสี่ยวไป๋อธิบายว่า “เนื่องจากเรามีสถานีโทรทัศน์และสำนักข่าวหนังสือพิมพ์ประจำมณฑลเป็นผู้นำ ผมจึงคิดที่จะจัดนิทรรศการผลิตภัณฑ์ในช่วงก่อตั้งเจียงเจียกรุ๊ป คว้าโอกาสให้พวกเขาโฆษณาให้ผม ซึ่งช่วยประหยัดค่าโฆษณาได้บ้าง”
ฟู่เต๋อเจิงกระตุกปาก “คุณนี่มันฝันหวานจริงนะ ! ”
สถานีโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์มาที่นี่เพื่อรายงานข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบัน และเพื่อรายงานผลกระทบทางเศรษฐกิจของเจียงเจียงกรุ๊ปที่มีต่อมณฑลจีนตอนกลางและเมืองชิงโจว ไม่ใช่เพื่อดำเนินแคมเปญส่งเสริมการขาย
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “มันไม่ใช่แค่ฝันหวานเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการกล้าที่จะฝันให้ไกล เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้สำเร็จ ! ” เขามองฟู่เต๋อเจิงอย่างมีความหมายและกล่าวเสริมว่า “แทนที่จะให้คุณช่วยเปล่า ผมยังมีอะไรที่ดีกว่าไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้ง แล้วผมจะให้คุณเมื่อถึงเวลา”
ฟู่เต๋อเจิงพูดว่า “บอกผมก่อนว่ามันคืออะไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ปิดบังอะไร และพูดว่า “คุณไม่ได้เจอผมหลายวันใช่ไหม ผมไปที่ถู่เฉิงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เรียกว่าโต๊ะหลุมไฟ ……”
เขารีบอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับโต๊ะหลุมไฟให้ฟู่เต๋อเจิงทราบทันที
“คุณพูดจริงเหรอ ? ” ฟู่เต๋อเจิงถามด้วยความประหลาดใจ
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ทำไมผมต้องโกหกคุณ ผมมีสามโต๊ะติดตั้งที่บ้าน และกำลังขนส่งอีกชุดหนึ่งมายังชิงโจว วันมะรืนนี้ ผมจะติดตั้งหนึ่งโต๊ะในสำนักงาน หากคุณไม่เชื่อก็ไปดูได้”
ฟู่เต๋อเจิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “เอาล่ะ คราวนี้ฉันจะเชื่อคุณ แล้วฉันจะแจ้งให้เหล่าจางทราบในภายหลัง เขาสามารถส่งคำเชิญไปยังรัฐบาลมณฑลและเมืองอื่น ๆ และสื่อในนามของรัฐบาลเมืองได้ จากนั้นฉันจะเชิญบุคคลระดับสูงเป็นการส่วนตัว แบบนี้คุณพอใจไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ระเบิดเสียงหัวเราะ “เยี่ยม คุณยังคงเป็นขิงแก่ที่เผ็ดได้ใจจริง ๆ ”
จากนั้น ทั้งสองคุยกันเรื่องการเตรียมการต้อนรับนักข่าวหลังจากที่พวกเขามาถึง ซึ่งเจียงเสี่ยวไป๋ยินดีที่จะรับผิดชอบค่าอาหารและที่พักทั้งหมด
ฟู่เต๋อเจิงพอใจกับข้อเสนอนี้มากและแนะนำว่า “ในเมื่อคุณเชิญหนังสือพิมพ์ ทำไมไม่คุยกับผู้อำนวยการเจิ้งด้วยล่ะ”
แน่นอนว่าเจียงเสี่ยวไป๋เห็นด้วย กล่าวคำอำลาฟู่เต๋อเจิงและตรงไปที่สถานีโทรทัศน์
เมื่อมีฟู่เต๋อเจิงอยู่ด้วย เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋พูดถึงเรื่องนี้กับเจิ้งเจียฮุ่ย เธอก็เห็นด้วยทันที
หลังออกมาจากสถานีโทรทัศน์ เจียงเสี่ยวไป๋มองดูเวลาและเห็นว่าเป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว เขาจึงตรงกลับไปที่สำนักงานของโรงงานเครื่องปรุงรสทันที
“กลับมาแล้วเหรอ ? กินข้าวเที่ยงหรือยัง ? ” หลินเจียอินถาม
เจียงเสี่ยวไป๋พูดว่า “ยังเลย พวกคุณกินข้าวกันหรือยัง ? ”
หลินเจียอินกล่าวว่า “ชานชานและเสี่ยวกังกินแล้ว แต่ฉันกับเยี่ยนหงไม่อยากกิน ดังนั้นเราจึงยังไม่กิน”
เจียงเสี่ยวไป๋ตกใจและพูดว่า “พวกคุณตั้งท้องอยู่ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณไม่กินข้าวตรงเวลา ? ไปกินอะไรก่อน”
เฝิงเยี่ยนหงพูดว่า “พี่เสี่ยวไป๋ ไม่เป็นไร วันนี้ฉันไม่อยากกินจริง ๆ ถ้าเราหิว เราจะกินแน่นอน”
หลินเจียอินพยักหน้า “ใช่ ถ้าเราหิวจริง ๆ เราจะกินแน่นอน”
เจียงเสี่ยวไป๋เห็นว่าพวกเธอยืนกราน ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรอีกและพูดว่า “เอาล่ะ มารับประทานอาหารกลางวันกันตอนบ่ายกันดีกว่า วันนี้ผมจะเลี้ยงอาหารจางหงเซี่ยและหยินเจิ้งลูกชายของเธอ”
หลินเจียอินได้ยินเจียงเสี่ยวไป๋พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อคืนนี้ จึงพยักหน้าเห็นด้วย
หลังจากนั้นก็ไม่มีงานสำคัญให้ทำมากนัก เจียงเสี่ยวไป๋คุยกับหลินเจียอินในออฟฟิศสักพัก
พวกเขานั่งอยู่ในออฟฟิศแบบนี้ก็รู้สึกหนาว เขาเสียใจที่ไม่ได้จัดการให้ดี รู้งี้ควรจะตั้งโต๊ะหลุมไฟก่อนก็ดี
ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะอันดังก้องดังขึ้นจากด้านนอกประตู “อืม ที่นี่แหละ ไม่ผิดแน่ ! เสี่ยวไป๋ คุณอยู่ในนั้นหรือเปล่า ! ”
สำเนียงที่คนด้านนอกพูดเป็นภาษาจีนกลาง และเสียงของเขาฟังดูคุ้นเคยมาก
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและลุกขึ้นยืนเพื่อออกไปข้างนอก หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็เห็นร่างสองร่างเดินเข้ามา
“พี่เจียจวิน ! ”
“พี่เจียหง ! ”
“ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ? ”
“ก่อนที่จะมา น่าจะโทรหาเราก่อน ! ”
เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋เห็นผู้มาเยือนชัดเจนก็อุทานด้วยความประหลาดใจ
หลินเจียจวินหัวเราะ “โทรหานายเหรอ ? ฉันโทรหานายสามหรือสี่ครั้งแล้ว แต่นายไม่รับสาย จนเราต้องเสี่ยงมาที่นี่กันเอง”
ในขณะที่พูด หลินเจียอินก็เดินเข้ามาแล้วพูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาม พี่หง ! ”
หลินเจียจวินหัวเราะ “อ่า อินอิน พี่เกือบจะจำเธอไม่ได้ ระวัง ระวัง เธอกำลังท้องอยู่ เธอต้องระวังและอย่าตื่นเต้นเกิน”
หลินเจียหงยังกล่าวอีกว่า “อินอิน ถ้าเจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้อยู่ที่นี่ ฉันคงจำเธอตอนนี้ไม่ได้ เธอดูสวยมาก ใช่แล้ว เธอต้องตั้งท้องลูกสาวใช่ไหม พวกเขาบอกว่าแม่จะสวยขึ้นเมื่อตั้งท้องลูกสาว ! ”
หลินเจียอินเม้มริมฝีปากของเธอแล้วยิ้ม “พี่หง หยุดล้อเล่นฉันเถอะ ฉันอ้วนขึ้นเยอะตั้งแต่ฉันท้อง”
หลินเจียหงกล่าวว่า “ไม่ ฉันไม่ได้ล้อเธอเล่นนะ เธอสวยขึ้นมากจริง ๆ ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เอาล่ะ เราอย่ายืนคุยกันตรงนี้เลย ทุกคนเชิญเข้ามานั่งก่อน ! ”
พวกเขาทั้งหมดนั่งลงบนโซฟา
“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า ! ”
ในขณะนี้ เจียงชานก็วิ่งไปทักทายพวกเขาอย่างมีความสุข
หลินเจียจวินดึงเธอเข้ามากอดและหอมแก้ม เจียงชานก็หัวเราะคิกคัก “คุณลุง โกนหนวดมานานแค่ไหนแล้วคะ ? หนวดทิ่มหนูจนเจ็บหมดแล้ว ! ”
หลินเจียจวินหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะปล่อยเธอไปแล้วพูดว่า “ลุงไว้หนวดเพื่อหนูเลยนะ หนูรู้สึกประทับใจไหม ? ”
พวกเขาสองสามคนหัวเราะและพูดคุยกันสักพัก หลังจากแนะนำทั้งสองให้รู้จักกับเฝิงเยี่ยนหงแล้ว พวกเขาก็เริ่มนั่งพูดคุยกันต่อ
เจียงเสี่ยวไป๋จึงถามว่า “พวกพี่มาโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า เกิดเราไม่อยู่ที่นี่ขึ้นมา พวกพี่จะทำอย่างไร ? ”
หลินเจียจวินกล่าวว่า “เราติดต่อนายไม่ได้หลายวัน เมื่อวานฉันโทรไปที่ถู่เฉิง นายอำเภอหลัวบอกว่านายกลับไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ฉันคิดว่าน่าจะได้พบนาย ดังนั้นฉันจึงมา”
เขาบ่นออกมาว่า “ยังมาบ่นเราอีก ? ว่าแต่นายเถอะ ? กลับจากถู่เฉิงแล้วทำไมไม่โทรหาฉันเลย”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวขอโทษ “ผมกลับมาเมื่อวานแต่ไม่ได้มาที่ออฟฟิศ ผมเพิ่งรู้เมื่อเช้านี้ว่าพี่โทรมา อีกอย่างผมมีเรื่องด่วนสองสามเรื่องที่ต้องจัดการ ตั้งใจจะโทรหาพี่ตอนบ่าย แต่ผม……ไม่คิดว่าพี่จะมาหาก่อน”
หลินเจียจวินยิ้ม “ไม่เป็นไร ฉันโทรหานายเพื่อบอกว่าฉันกำลังมา”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าแล้วมองไปที่หลินเจียหง เขาพูดด้วยความประหลาดใจว่า “พี่หง ทำไมถึงว่างมาที่นี่ล่ะ ? พี่ไม่ไปทำงานเหรอ ? ”
หลินเจียหงจ้องมองเขาและพูดด้วยความโกรธ “ทำไม ? นายไม่ต้อนรับฉันเหรอ ? ”
“ไม่เลย ไม่ใช่แบบนั้น ! ” เจียงเสี่ยวไป๋รีบตอบกลับทันที
หลินเจียหงยิ้มแล้วพูดว่า “ในช่วงเวลานี้มีการทดสอบบินจากเจียงเฉิงมายังชิงโจว ฉันบอกพี่สะใภ้รองไว้แล้วก็นั่งเครื่องเที่ยวทบสอบมาที่นี่ทันที”
ฮะ ?
ตอนนี้เจียงเสี่ยวไป๋เข้าใจแล้วว่าหลินเจียจวินและหลินเจียหงมาที่ชิงโจวด้วยเที่ยวบินทดสอบ