ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 634 ไปดูว่ามีอะไรเซอร์ไพรส์หรือไม่
- Home
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 634 ไปดูว่ามีอะไรเซอร์ไพรส์หรือไม่
ตอนที่ 634 ไปดูว่ามีอะไรเซอร์ไพรส์หรือไม่
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “การนวดเท้าที่นี่ใช้เวลา 90 นาทีหรือหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้ผมตั้งราคาไว้ที่ 10 หยวน ! ”
ฮะ ?
นายกเทศมนตรีจางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “10 หยวนเป็นเงินเดือนครึ่งเดือนของคนทำงานธรรมดาเลยนะ มันไม่แพงเกินไปเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเบา ๆ “ผมไม่ได้ตั้งใจทำธุรกิจนี้เพื่อคนธรรมดาอยู่แลว แล้วอีกอย่างนะพี่จาง คุณคิดว่าบริการนี้ไม่คุ้มกับเงิน 10 หยวนเลยเหรอ ? ”
นายกเทศมนตรีจางเม้มริมฝีปากของเขา นั่นยังต้องถามอีกหรือ ?
แน่นอนว่ามันคุ้มค่า !
อย่าพูดว่า 10 หยวนเลย ต่อให้ 20 หยวน เขาก็ยอมจ่าย !
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เขาก็พูดว่า “คุณพูดถูก สถานที่นี้ไม่เหมาะสำหรับคนทั่วไป และการจ่ายเงิน 10 หยวนซื้อบริการแบบนี้ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ที่นี่จะทำเช่นเดียวกับร้านกุ้งอบน้ำมัน เราก็มีบัตร VIP ที่นี่ โดยจะมีส่วนลดตั้งแต่ 20 – 40% ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่เติม เมื่อคำนวณแล้วสมาชิกจะจ่ายเพียง 6 ถึง 8 หยวนต่อคนเท่านั้นในแต่ละครั้ง”
“เอาล่ะ ตอนเปิดรับสมัครบัตรก็อย่าลืมแจ้งให้ฉันรู้หน่อย ฉันจะทำเพื่อรับส่วนลด 40% ! ”
“ไม่มีปัญหา ! ” เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม
เมื่อหยวนหยวนและเฉินเจียได้ยินครั้งแรกก็ตกใจที่เจียงเสี่ยวไป๋พูดว่าราคาค่าบริการชั่วโมงละ 10 หยวน ราคาสูงขนาดนี้ ใครที่ไหนเขาจะมาใช้บริการ ?
หลังจากได้ยินลูกค้าที่ชื่อ “พี่จาง” บอกว่าเขาจะเป็นคนเติมเงินคนแรก ทำให้จิตใจที่วิตกกังวลของพวกเธอผ่อนคลายลง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำพูดของเจียงเสี่ยวไป๋ “คุณคิดว่าบริการนี้ไม่คุ้มกับ 10 หยวนเหรอ ? ” ทำให้พวกเธอรู้สึกถึงคุณค่า ราวกับว่าการติดตามผู้ช่วยเจียงมาทำงานจะช่วยให้พวกเธอตระหนักถึงคุณค่าของตนเอง
ความคิดของพวกเธอเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “พี่จาง ในอนาคตแม้จะคุยกันเรื่องงาน เราก็สามารถทำได้ในขณะที่แช่เท้า พนักงานนวดถูกฝึกมาแล้ว รับรองว่าพวกเธอจะไม่เปิดเผยเรื่องที่เราคุยกันแน่นอน”
เขาหยุดชั่วคราวและเสริมว่า “แน่นอน ยกเว้นเรื่องที่เป็นความลับจริง ๆ ”
นายกเทศมนตรีจางพยักหน้า “ฉันก็คิดว่านี่เป็นสถานที่ที่ดีในการพูดคุยเรื่องงาน ทำงานให้เสร็จได้อย่างสบายใจ เยี่ยมมาก”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ “พี่จาง บทสรุปของคุณตรงประเด็น ผมจะใช้เป็นสโลแกนโฆษณาในอนาคต”
นายกเทศมนตรีจางก็หัวเราะเช่นกัน
ขณะที่พวกเขาคุยกัน เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว การบริการทั้งหมดเสร็จสิ้นลงแล้ว หยวนหยวนและเฉินเจียออกจากห้องไปแล้ว ทว่านายกเทศมนตรีจางยังคงดื่มด่ำกับประสบการณ์นี้
ทั้งสองเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองแล้วออกไปที่ลานด้านหน้า เด็กน้อยกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะน้ำชากำลังฝึกชงชา ใบหน้าอ่อนเยาว์ของเธอเต็มไปด้วยความจริงจัง แม้ว่าการเคลื่อนไหวของเธอจะดูไม่คุ้นเคย แต่เธอก็ทำได้อย่างถูกต้อง
“สวัสดีค่ะผู้ช่วยเจียง ! ”
“สวัสดีแขกผู้มีเกียรติ ! ”
จางหงหยูเห็นทั้งสองคนออกมาแล้ว เธอจึงรีบลุกขึ้นเพื่อทักทาย
เมื่อหนูน้อยได้ยินดังนั้น เธอก็ทิ้งชามชาในมือทันที เธอเลื่อนตัวลงจากเก้าอี้ชงชาทรงสูง จากนั้นวิ่งไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ และตะโกนอย่างตื่นเต้น “ป่าป๊า หนูชงชาได้แล้ว พี่หงหยูสอนหนู ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่แสดงสีหน้าใด ๆ และพูดอย่างใจเย็น “แบบที่ลูกทำเรียกว่าชงชาได้แล้วงั้นหรือ ? ”
เด็กน้อยสังเกตเห็นว่าพ่อของเธอดูไม่มีความสุข จึงพูดด้วยความสงสัย “ใช่ หนูทำอะไรผิดหรือเปล่า ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดในการชงชาไม่ใช่ทักษะ เทคนิค หรือกระบวนการ แต่เป็นจิตใจที่จะฝึกฝนตัวเองอย่างสงบ” จากนั้น เขาชี้ไปที่ชามชาที่ลูกสาวทิ้งเอาไว้ แล้วพูดต่อ “ลูกทิ้งมันไปครึ่งทางอย่างใจร้อน ลูกไม่เหมือนคนกำลังชงชาเลย ลูกคิดว่าลูกได้เรียนรู้การชงชาแล้วจริง ๆ เหรอ ? ”
เจียงซานรู้สึกท้อแท้ทันทีและทำหน้ามุ่ย “ป่าป๊าหายไปนานมาก หนูจึงวิ่งมาหาเพราะดีใจหรอก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ถ้าลูกทำผิดพลาดและไม่ไตร่ตรอง แต่กลับมองหาข้อแก้ตัว มันจะเกิดอะไรขึ้น ? ”
เจียงชานได้ยินแบบนั้นก็พูดเสียงแผ่วว่า “ทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “แล้วลูกจะทำอย่างไร ? ”
หนูน้อยเหลือบมองเขา แล้วกลับไปปีนเก้าอี้น้ำชาทรงสูงอย่างเชื่อฟัง ปรับตำแหน่ง หยิบชามชาที่เธอทิ้งไว้ก่อนหน้านี้และเริ่มชงชา
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “การรับรู้ถึงข้อผิดพลาดและแก้ไขมันดีกว่าแค่พูด ครั้งนี้ลูกทำถูกแล้ว”
นายกเทศมนตรีจางมองดูและพูดด้วยรอยยิ้ม “ปกติคุณสอนเธอแบบนี้เหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ไม่ใช่หรอกครับ ผมแค่จัดการตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”
นายกเทศมนตรีจางพยักหน้า “การสอนเด็กและการจัดการผู้ใต้บังคับบัญชาก็คล้ายกัน การเรียนรู้เกิดขึ้นทุกที่ทุกเวลา อาศัยการเรียนในตำราเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ”
หลังจากนั้น เขาก็มองไปที่เจียงชานที่กำลังชงชาและถามจางหงหยูว่า “คุณสอนเทคนิคการชงชาให้เธอหรือเปล่า ? ”
จางหงหยูพยักหน้า “ฉันก็เป็นมือใหม่เหมือนกันค่ะ”
นายกเทศมนตรีจางกล่าวว่า “ทักษะมาจากการฝึกฝน และที่สำคัญกว่านั้นต้องใช้ความเข้าใจส่วนตัว”
ดังนั้น เขาจึงพูดถึงประสบการณ์การชงชาของเขา จางหงหยูตั้งใจฟังและรู้สึกว่าเธอได้รับประโยชน์มากมาย
ในขณะที่พูด หนูน้อยก็ทำตามขั้นตอนการชงชาเสร็จเรียบร้อย หลังจากเก็บโต๊ะเสร็จแล้ว เธอถึงได้กล้าลงมา
“ป่าป๊า แบบนี้โอเคแล้วใช่ไหม ? ”
“เอาล่ะ จำเอาไว้ในอนาคต ไม่ว่าลูกจะทำอะไร จงทำมันตั้งแต่ต้นจนจบ”
“อื้ม ! ” หนูน้อยแลบลิ้นออกมา
นายกเทศมนตรีจางเห็นท่าทางน่ารักของเธอจึงพูดว่า “เจียงชาน หนูยังเด็กมาก แต่หัดชงชาแล้ว หนูไม่ร้อนมือเหรอ ? ”
เจียงชานส่ายหัว “พี่หงหยู่ให้หนูใช้น้ำอุ่นเพื่อฝึกขั้นตอนให้คล่องก่อนค่ะ”
นายกเทศมนตรีจางยิ้มและพูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ “พนักงานของคุณไม่เลวเลย รอบคอบมาก”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ธุรกิจการให้บริการแบบนี้ ความใส่ใจในรายละเอียดถือเป็นสิ่งสำคัญ ต้องช่างสังเกต เข้าใจดี มีความอดทน และเต็มใจที่จะอดทนต่อความยากลำบาก เพื่อให้งานบริการเป็นเลิศอย่างแท้จริง”
จางหงหยูจดบันทึกอย่างระมัดระวังอย่างรวดเร็ว
เจียงเสี่ยวไป๋เหลือบมองเธอแล้วพูดว่า “ลำบากคุณแล้ว พวกเราต้องไปแล้ว ! ”
หลังจากนั้น เขาก็พูดกับนายกเทศมนตรีจางว่า “ไปกันเถอะ ไปที่ออฟฟิศที่โรงงานผลิตเครื่องปรุงรสกัน”
“ผู้ช่วยเจียง เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ ! ”
“แขกผู้มีเกียรติ เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพนะคะ โอกาสหน้าแวะมาอีกนะคะ ! ”
“ชานชานจ๊ะ แล้วเจอกันใหม่จ้ะ ! ”
จางหงหยูเดินตามทั้งสามคนไปที่ประตู แล้วพูดขณะที่พวกเขาเดิน
เจียงชานหันกลับมาและโบกมือให้เธอ “แล้วเจอกันค่ะพี่หงหยู”
หลังจากขึ้นรถจี๊ปแล้ว นายกเทศมนตรีจางก็หยิบบุหรี่ออกมายื่นให้เจียงเสี่ยวไป๋ แล้วพูดว่า “การนวดเท้า ทำให้ฉันไม่ได้สูบบุหรี่มาครึ่งวันแล้ว ทำเอาฉันอยากแทบแย่”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็หยิบไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งออกมาจุด และพ่นควันออกมา ก่อนจะพูดว่า “ใกล้จะเลิกงานแล้ว ทำไมคุณอยากให้ผมไปที่ทำงานของคุณ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “ไปดูสิว่าจะมีเรื่องเซอร์ไพรส์อะไรอีกไหม ? ”
นายกเทศมนตรีจางตกตะลึง “เรื่องเซอร์ไพรส์อะไรกัน ? คุณซ่อนสมบัติบางอย่างไว้หรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เมื่อเห็นแล้วคุณจะรู้เอง บางทีคุณอาจจะชอบมัน ! ”
เมื่อพูดเช่นนั้น จู่ ๆ นายกเทศมนตรีจางก็เริ่มสนใจ
“ไปดูกันเถอะ ! ”