ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 637 ฉันชอบคุณ ไม่ได้ชอบเขา
ตอนที่ 637 ฉันชอบคุณ ไม่ได้ชอบเขา
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋ออกจากห้องทำงานของเซี่ยงเฉียนจิ้นมา เขามองไปทางสำนักข่าว แต่เขาไม่ได้ขึ้นไป แค่เดินตรงไปที่รถจี๊ปเพื่อเตรียมตัวกลับ เมื่อเขาขับออกไปเจอลุงยามเย่ ลุงยามได้เอ่ยทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม “เถ้าแก่เจียง โต๊ะหลุมไฟที่คุณติดตั้งในสำนักงานของกวงโต้วนั้นยอดเยี่ยมมาก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและยื่นบุหรี่ให้เขาแล้วพูดว่า “ในอีกไม่กี่วัน ให้กวงโต้วนำกลับไปไว้ที่บ้านสักตัวนะครับ ! ”
ลุงเย่ตอบอย่างร่าเริง “อ่า กวงโต้วได้ทำงานกับคุณ นับเป็นความโชคดีของพวกเขาแล้ว ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ลุงเย่ อย่าพูดอย่างนั้น กวงโต้วเป็นคนมีความสามารถมาก”
ลุงเย่พูดว่า “กวงโต้วบอกแล้วว่าคุณสอนเขาทีละขั้นตอน เขาบอกว่าการทำงานร่วมกับคุณทำให้เขาเรียนรู้มากกว่าที่เขาเรียนในวิทยาลัยในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา”
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมือ “เอาล่ะ ลุงเย่ ผมจะไม่รบกวนลุงแล้ว ผมไปทำงานก่อน ตอนนี้อากาศหนาวแล้ว ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ”
“ขอบคุณเถ้าแก่เจียง ดูแลสุขภาพของคุณด้วยเช่นกัน ! ”
ลุงเย่โบกมือลาเจียงเสี่ยวไป๋ หลังจากดูรถของเขาหายไป ลุงเย่ก็กลับไปที่ป้อมยามและจุดบุหรี่สูบอย่างพึงพอใจ
ก่อนที่เขาจะสูบบุหรี่เสร็จ ฟู่เต๋อเจิงก็กลับมาและเดินผ่านห้องยาม
“สวัสดีครับท่านประธานฟู่ ! ”
ลุงเย่ทักทายเขาตามปกติ
ฟู่เต๋อเจิงพยักหน้าและพูดอย่างไม่เป็นทางการ “ลุงเย่ อากาศเริ่มหนาวแล้ว ดูแลสุขภาพตัวเองด้วย ระวังเป็นหวัดล่ะ”
ลุงเย่ยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ผมใส่เสื้อผ้าหนา ! ถ้ามันหนาวเกินไป ผมจะไปที่ออฟฟิศของกวงโต้วเพื่ออบอุ่นร่างกายที่โต๊ะหลุมไฟ ใช้เวลาไม่นานก็อุ่นแล้ว”
ฟู่เต๋อเจิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็จำโต๊ะหลุมไฟที่เจียงเสี่ยวไป๋พูดถึงได้ เขาจึงพูดว่า “เจียงเสี่ยวไป๋ส่งโต๊ะหลุมไฟไปที่แผนกโฆษณาเหรอ ? ”
ลุงเย่พยักหน้า “ก่อนหน้านี้ เถ้าแก่เจียงก็อยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้เขากลับไปที่โรงพิมพ์แล้ว”
ฟู่เต๋อเจิงพยักหน้ารับแล้วเดินต่อไป เมื่อเขาไปถึงกลางบริเวณ เขาก็มองไปที่อาคารสำนักงานและโรงพิมพ์ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เดินไปทางโรงพิมพ์
ไม่นาน เขาก็มาถึงห้องทำงานของเซี่ยงเฉียนจิ้น
“เฮ้ ประธานฟู่ ทำไมคุณถึงว่างมาที่นี่ล่ะ ? ” เซี่ยงเฉียนจิ้นทักทายด้วยรอยยิ้ม
ฟู่เต๋อเจิงเหลือบมองไปรอบห้องทำงานของเซี่ยงเฉียนจิ้นอย่างรวดเร็ว มันเหมือนเดิมทุกประการ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เขาพูดว่า “ฉันคิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋น่าจะนำโต๊ะหลุมไฟมาให้คุณแล้ว ขอฉันดูหน่อย”
เซี่ยงเฉียนจิ้นตกตะลึง “โต๊ะหลุมไฟคืออะไร ? ”
ฟู่เต๋อเจิงเหลือบมองเขา “คุณไม่รู้ งั้นก็ช่างมันเถอะ ! ”
เซี่ยงเฉียนจิ้นนำบุหรี่ออกมา มอบมวนหนึ่งให้กับฟู่เต๋อเจิงแล้วใส่อันหนึ่งเข้าไปในปากของเขาเอง
ฟู่เต๋อเจิงหยิบไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งออกมาจุดไฟให้ตัวเอง แล้วจุดไฟให้เซี่ยงเฉียนจิ้น
“ผมก็มี ! ”
เซี่ยงเฉียนจิ้นยิ้ม และหยิบไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งออกมาจุดบุหรี่อย่างมีความสุข
ฟู่เต๋อเจิงตกใจเล็กน้อย เขาตั้งใจจะนำไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งมาอวดเสียหน่อย
ไม่คิดว่าเซี่ยงเฉียนจิ้นจะมีด้วย
แต่หลังจากคิดถึงการมาเยี่ยมของเจียงเสี่ยวไป๋ เขาก็เข้าใจและถามอย่างเป็นกันเอง “ทำไมเจียงเสี่ยวไป๋ถึงมาหาคุณล่ะ ? ”
เซี่ยงเฉียนจิ้นกล่าวว่า “เขาต้องการพิมพ์อะไรบางอย่าง”
“อ้อ ! ”
ฟู่เต๋อเจิงรู้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋มักจะมาหาเซี่ยงเฉียนจิ้นเพื่อพิมพ์สิ่งต่าง ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ถามอีกและพูดว่า “ไม่เป็นไร ผมแค่แวะมาดูและกำลังจะไป ! ”
พูดอย่างนั้น เขาก็สูบบุหรี่แล้วจากไป
เซี่ยงเฉียนจิ้นสับสนเล็กน้อย วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับประธานฟู่ ? เขาพูดบางอย่างเกี่ยวกับโต๊ะหลุมไฟ แต่ก็ไม่อธิบายหรือพูดอะไรอีกหลังจากนั้น
หลังจากคิดมาได้สักพัก เขาก็ไม่เข้าใจจึงหยุดคิดไป
เขาวางก้นบุหรี่ในมือแล้วเดินไปที่เวิร์คช็อป
จำนวนสิ่งที่เจียงเสี่ยวไป๋ต้องการพิมพ์ในครั้งนี้มีจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงต้องเร่งงานหน่อย
ฟู่เต๋อเจิงกลับมาที่ออฟฟิศและอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเพราะความหนาว
บ้าเอ๊ย อากาศเริ่มหนาวขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
เมื่อจำได้ว่าลุงเย่บอกว่ามีโต๊ะหลุมไฟอยู่ในห้องทำงานของเย่กวงโต้ว เขาจึงเดินไป
ขณะที่เขาผ่านแผนกบรรณาธิการ เขาก็ได้ยินเสียงพูดคุยอยู่ข้างใน
หงเหว่ยกล่าวว่า “เจียงเสี่ยวไป่ไม่ใช่คนดี แต่สิ่งที่เขาผลิตก็ไม่เลว ให้ตายเถอะ โต๊ะหลุมไฟนั่น ฉันอยากจะซื้อสักตัวหนึ่ง”
เสียงของหวังเสี่ยวหยาพูดว่า “หัวหน้าหง เรื่องมันนานมากแล้ว ทำไมคุณถึงยังยึดติดกับมันอยู่ล่ะ ? ”
หวังเสี่ยวหยากล่าวว่า “ใช่ แผนกโฆษณายังคงให้งานเขียนบทความแก่เราเป็นจำนวนมาก หัวหน้าหงหยุดอคติ และอย่าได้โกรธเคืองเจียงเสี่ยวไป๋อีกเลย”
หงเหว่ยกล่าวว่า “ต่อให้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ฉันก็จะไม่ให้อภัยเขา เขามันชอบชี้นำพวกคนหนุ่มสาวหัวอ่อน”
ในเวลานี้ เฉินไป๋เซิงกล่าวว่า “มู่เสี่ยวชิงก็บอกแล้วว่าเธออยากย้ายไปแผนกโฆษณาด้วยตัวเธอเอง หัวหน้าหงอย่าตำหนิเจียงเสี่ยวไป๋เลย”
หงเหว่ยทำเสียงไม่พอใจ “มู่เสี่ยวชิงถูกเจียงเสี่ยวไป๋หลอก ไม่เช่นนั้นเด็กผู้หญิงไร้เดียงสาเช่นนี้จะขอย้ายไปที่แผนกโฆษณาด้วยตัวเองได้อย่างไร ? ”
หวังเสี่ยวหยากล่าวว่า “หัวหน้าหง ที่คุณพูดมาทำให้ฉันคิดว่าคุณอาจกล่าวโทษเจียงเสี่ยวไป๋อย่างไม่ยุติธรรม ที่มู่เสี่ยวชิงต้องการย้ายไปที่แผนกโฆษณาอาจไม่ใช่เพราะเจียงเสี่ยวไป๋ แต่เป็นคนอื่นก็ได้”
หงเหว่ยอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “แล้วมันใครกันล่ะ ? ”
“แค่ก ๆ ……”
ฟู่เต๋อเจิงซึ่งฟังอยู่ข้างนอกมาระยะหนึ่งแล้วรู้สึกว่าจำเป็นต้องชี้แจงสิ่งต่าง ๆ ให้กระจ่าง เขาจึงจงใจส่งเสียงไอ
หงเหว่ยและคนอื่น ๆ ต่างก็มองมาที่เขา
“ประธานฟู่ คุณ… มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ” หงเหว่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและเขินอายเล็กน้อย สงสัยว่าประธานฟู่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาเพิ่งพูดไปหรือไม่
“ผมได้ยินทุกสิ่งที่พวกคุณพูด” ฟู่เต๋อเจิงเงยหน้าขึ้นมองและมองไปที่หงเหว่ย “มู่เสี่ยวชิงย้ายไปที่แผนกโฆษณาไม่เกี่ยวอะไรกับเจียงเสี่ยวไป๋ มู่เสี่ยวชิงมาที่ห้องทำงานของผมและอ้อนวอนผมเพื่อขอย้ายไปที่นั่นเอง”
“เสี่ยวหง อย่าตำหนิเจียงเสี่ยวไป๋เลย ! ”
หงเหว่ยอ้าปากค้าง แต่ในใจของเขาไม่เชื่อ
ฟู่เต๋อเจิงกล่าวว่า “ไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ แต่การพูดถึงคนอื่นลับหลังไม่ใช่นิสัยที่ดี”
หงเหว่ยพูดอย่างเร่งรีบ “ท่านประธาน ฉันเข้าใจแล้ว”
“อืม ! ” ฟู่เต๋อเจิงพยักหน้า หันหลังกลับแล้วเดินต่อไปยังแผนกโฆษณา
ไม่นาน เขาก็มาถึงประตูแผนกโฆษณา ประตูปิดอยู่ แต่ได้ยินเสียงของเย่กวงโต้วและมู่เสี่ยวชิงอยู่ข้างใน
“กวงโต้ว คุณคิดว่าหัวหน้าเจียงเป็นอัจฉริยะหรือเปล่า? เขาสามารถสร้างโต๊ะหลุมไฟที่สร้างสรรค์ได้เช่นนี้”
“สหายมู่เสี่ยวชิง ฉันบอกแล้ว อย่าเรียกฉันว่ากวงโต้ว เรียกฉันว่าผู้จัดการเย่ ฉันบอกเธอหลายครั้งแล้ว”
“เอาล่ะ ผู้จัดการเย่ ! ผู้จัดการเย่…กวงโต้ว ! บอกฉันหน่อย หัวหน้าเจียงเป็นอัจฉริยะหรือเปล่า ? ”
“คุณชื่นชมเขามาก ชอบเขาใช่ไหม ? ฉันจะบอกให้เลยนะว่าเขาเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ! ”
“บ้า ! ฉันชอบคุณ ไม่ได้ชอบเขา ! ฉันแค่ชื่นชมเขา แค่ชื่นชม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการชอบด้วย ? ”