ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 651 เปลี่ยนความคิด
ตอนที่ 651 เปลี่ยนความคิด
“พี่จะทำอะไรงั้นหรือ ? ”
จู่ ๆ เสียงของหลินเจียหงก็ดังมาจากทางด้านหลังของเขา
หลินเจียจวินหันกลับไปมอง ก่อนที่จะเจอกับหลินเจียหง หลินเจียอินและเฝิงเยี่ยนหงที่ยืนอยู่ด้วยกัน เขาจึงพูดติดตลกออกมาว่า “ไม่มีอะไรหรอก เสี่ยวไป๋เขาก็แค่ขอให้ฉันมาช่วยรับผิดชอบดูแลกิจกรรมในพิธีก่อตั้งเจียงเจียกรุ๊ปเฉย ๆ ”
หลินเจียหงมุ่ยปากอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันนึกว่าพี่กำลังคุยกับเสี่ยวไป๋ถึงเรื่องเปิดสปานวดเท้าที่เจียงเฉิงเสียอีก”
หลินเจียจวินยิ้ม ก่อนที่จะพูดต่ออีกว่า “เธอไม่ต้องกังวลไปหรอก เราค่อยกลับไปเปิดร้านสปานวดเท้าหลังจากเสร็จสิ้นพิธีก่อตั้งเจียงเจียกรุ๊ปในชิงโจวก็ได้”
หลินเจียหงพูดต่ออีกว่า “จะไม่รีบได้อย่างไรล่ะ ? ถึงเรายังไม่ทำตอนนี้ แต่ในอนาคตเราก็ต้องปรึกษาแผนการตลาดให้ดี จะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง”
หลินเจียจวินที่ไม่อยากโต้เถียงอะไรกับเธอได้พูดออกมาว่า “เอาล่ะ งั้นเธอคุยเรื่องนี้กับเสี่ยวไป๋ต่อเถอะ”
พูดจบ เขาก็ทำเสียงไม่พอใจ “ฉันไม่เคยเห็นเธอให้ความสนใจกับอะไรแบบนี้เลยตั้งแต่เด็ก เพราะงั้นฉันเลยยอมเธอเลย ! ”
หลินเจียหงยิ้ม ก่อนที่จะไปนั่งลงข้างเจียงเสี่ยวไป๋
“เสี่ยวไป๋ เราคุยเรื่องนี้กันต่อเลยได้ไหม ? ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็บอกให้หลินเจียอินและเฝิงเยี่ยนหงนั่งลง “ไม่มีปัญหา ! ”
ในตอนนี้ เจียงชานและหวังกังยังไม่มา เพราะงั้นพวกเขาจึงสามารถนั่งคุยกันที่นี่ต่อได้
หลินเจียอินที่ไม่เห็นว่าเจียงชานและหวังกังอยู่ด้วยจึงถามออกมาว่า “ว่าแต่เด็ก ๆ สองคนนั้นล่ะ ? ”
เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินแบบนั้นก็บอกว่า “ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ยินมาว่าคุณและเยี่ยนหงกำลังทำสปาเท้าอยู่ พวกเขาก็อยากทำด้วยเหมือนกันเลยขอให้จางหงหยูพาพวกเขาไปที่นั่น”
หลินเจียอินพยักหน้ารับ
เฝิงเยี่ยนหงกล่าวว่า “พวกเขายังเด็กมาก ทำไมพวกเขาจะต้องทำสปาเท้าด้วย ? ”
หลินเจียหงกล่าวต่ออีกว่า “เยี่ยนหงไม่ต้องเป็นห่วง พวกเขาแค่ไปสปาเท้าเอง เธอเองก็ยังทำได้เหมือนกันนะถ้าอยากไปอีก เพราะมันสบายเท้ามาก”
หลินเจียอินที่ได้ยินแบบนั้นก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้
เฝิงเยี่ยนหงจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากพูดว่า “ฉันก็แค่พูดว่าทำไมถึงให้พวกเขาไปเอง”
ในตอนนี้ เธอยังรู้สึกสบายตัวอยู่หลังจากที่เพิ่งไปแช่เท้ามา
ในใจของเธอคิดว่า: สมแล้วที่เป็นพี่เสี่ยวไป๋ จะคิดจะทำอะไรล้วนน่าทึ่งอยู่เสมอ
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็พูดว่า “พี่ ฉันยังไม่ได้บอกพี่ใช่ไหมว่าฉันมีที่ทำเลดีอยู่อีกสองแห่ง ? ฉันตั้งใจไว้ว่าจะแบ่งเอามาสร้างบ้านที่หนึ่ง ส่วนอีกที่พี่ก็เอาไปเปิดร้านแบบนี้สิ”
ในตอนแรกที่เพิ่งรู้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋กำลังจะเปิดร้านดื่มชาสปาเท้า เธอกับหลินเจียอินต่างก็มีท่าทางต่อต้านอย่างรุนแรง แต่ไม่อยากจะเชื่อว่าหลังจากที่เธอได้ใช้บริการสปาเท้ามาแล้ว เธอกลับสนับสนุนให้เจียงเสี่ยวไป๋เปิดร้านเพิ่มซะงั้น
มันช่างน่า……เหลือเชื่อมาก !
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็มองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋อย่างคาดหวัง
อืม ถ้าหากว่าลูกพี่ลูกน้องของฉันเห็นด้วย ก็เอาที่ดินผืนนั้นไปสร้างได้เลย
หลินเจียหงเองก็มองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋เช่นกัน เดิมทีเธอก็ต้องการที่จะคุยกับเขาเกี่ยวกับการเปิดร้านสปาเท้าในเจียงเฉิงเหมือนกัน แต่เฝิงเยี่ยนหงกลับพูดขึ้นมาก่อนโดยไม่คาดคิด
เจียงเสี่ยวไป๋มองไปที่เฝิงเยี่ยนหง ก่อนที่จะรู้สึกประหลาดใจกับการเปลี่ยนท่าทีของเธอ ทว่าเขากลับส่ายหน้าและพูดว่า “ฉันคิดว่าน่าจะไม่ได้นะ”
ฮะ ?
คำพูดของเจียงเสี่ยวไป๋เพียงไม่กี่คำไม่ได้ทำให้เฝิงเยี่ยนหงตกตะลึงอยู่คนเดียว แต่ยังทำให้หลินเจียอิน หลินเจียจวินและหลินเจียหงมองเขาด้วยความสงสัยด้วยเหมือนกัน
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ที่ฉันเลือกเปิดสปาเท้าในเหมียววาน เพราะหลัก ๆ ต้องการไว้เป็นสถานที่รับรองแขกและพูดคุยธุรกิจ หากจะเปิดร้านเพิ่ม ไม่สามารถเปิดในสถานที่ที่เงียบสงบแบบนั้นได้แล้ว ฉันน่าจะเปิดในตัวเมืองเหมือนตอนที่เราเลือกทำเลเปิดร้านขายกุ้งอบน้ำมันนั่นแหละ”
เมื่อหลินเจียหงได้ยินแบบนั้นก็ตกใจเล็กน้อย “ถ้านายบอกฉันเร็วกว่านี้ ฉันก็สามารถหาบ้านแบบที่นายต้องการในเมืองเจียงเฉิงได้นะ”
“อืม แต่ถ้าเกิดหาเป็นห้อง มันก็น่าจะหาได้ง่ายกว่านะ”
เฝิงเยี่ยนหงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในตอนแรก แต่หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของเจียงเสี่ยวไป๋ เธอก็พูดขึ้นมาในทันที “ยิ่งพี่ต้องการจะเปิดในเมือง บอกเลยว่ามันเป็นเรื่องง่ายมาก เพราะฉันมีบ้านอยู่มากมายที่อยู่ในเมือง ฉันสามารถเลือกบ้านใดก็ได้ที่ว่างอยู่”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้ว่าเธอและหวังผิงต่างก็ซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้จำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจที่ได้ยินแบบนี้ เขาเลยพูดต่ออีกว่า “เอาล่ะ งั้นเธอเลือกสถานที่ที่ค่อนข้างกว้างขวางไว้สักแห่งก่อน พวกเราจะเปิดหนึ่งแห่ง รอให้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว เราค่อยทยอยเปิดสาขาอื่น ๆ ”
“มีทั้งเงิน พนักงาน และที่ดิน ยังกังวลว่าสปาเท้าจะไม่รุ่งอีกเหรอ ? ”
คำพูดนี้ทำให้เฝิงเยี่ยนหงมีความสุขมาก เธอแอบดีใจอยู่ลึก ๆ ที่ฟังตามคำแนะนำของเขาโดยซื้ออสังหาริมทรัพย์เก็บไว้มากมาย ไม่เช่นนั้นหากเธอต้องการลงทุนเปิดร้านร่วมกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ เธอคงไม่กล้าพูดมันออกมา
“เอาล่ะ เยี่ยนหงเธอยังต้องไปเลือกบ้านก่อน ดังนั้นไม่ต้องรีบร้อน เดี๋ยวฉันจะคุยกับเสี่ยวไป๋เรื่องการเปิดร้านสปาเท้าในเจียงเฉิงก่อน” หลินเจียหงพูดออกมาอย่างอดไม่ได้
เมื่อเฝิงเยี่ยนหงได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า “เอาล่ะ พวกพี่คุยกันไปเถอะ ฉันก็แค่บอกเขาถึงเรื่องนี้ หลังจากนี้ฉันจะได้จัดการให้ดี”
หลังจากรู้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋รับปากให้เธอเป็นหุ้นส่วนแล้ว เธอก็รู้สึกดีขึ้นมาก
หลินเจียหงรีบพูดขึ้นว่า “เสี่ยวไป๋ ฉันคิดว่าถ้าจะเปิดในเจียงเฉิง ฉันอยากเปิดพร้อมกันสามแห่งไปเลย”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า เพราะเขาเองก็คิดแบบนี้เช่นกัน
หลินเจียหงกล่าวต่อ “โอเค เรื่องนี้เอาไว้ค่อยพูดกันทีหลัง หลังจากที่หาร้านและหารับสมัครคนแล้ว นายช่วยจัดหาพนักงานชำนาญสักสามคนไปที่นั่นเพื่อสอนพนักงานได้ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ไม่มีปัญหา เดี๋ยวผมจะให้หมอหลี่ไปช่วยสอนอีกแรง และพนักงานทุกคนจะต้องผ่านการทดสอบก่อนถึงจะบรรจุเป็นพนักงานได้”
หลินเจียหงรู้สึกดีใจมากหลังจากที่ได้ยินสิ่งนี้ และเธอก็กำลังที่จะพูดต่อ แต่เจียงชานและหวังกังก็ออกมาจากลานภายในพอดี
“หม่าม๊า หนูไปแช่เท้ามาเหมือนกัน ! ”
เจียงชานวิ่งไปหาหลินเจียอินและพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ
หลินเจียอินที่ได้ยินแบบนั้นก็ถามออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “แช่เท้าสบายไหม ? ”
“สบายค่ะ สบายมาก ๆ เลย ! ” เจียงชานพูดออกมาอย่างมีความสุข แถมใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอนั้นก็ยังเป็นสีแดงก่ำอีกด้วย
หลังจากพูดจบ เธอก็หันไปพูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ในทันที “ป่าป๊า การแช่เท้ามันสบายขนาดนี้นี่เอง ทำไมก่อนหน้านี้ป่าป๊าถึงไม่ให้หนูแช่เท้าล่ะ ฮึ่ม ! ”
เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินแบบนั้นก็พูดไม่ออกเล็กน้อย ภรรยาและลูกสาวของเขาต่างก็ชอบการแช่เท้ากันทั้งนั้น และเขาเองก็กลัวเหมือนกันว่าพวกเธอจะได้กลายเป็นแขกประจำร้านสปาในอนาคต
แต่ไม่ว่าอย่างไร ร้านสปานี้ก็มีไว้เพื่อความบันเทิงอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ?
ไม่เพียงแต่เขาที่จะสนุกกับมันอย่างเดียว ภรรยาและลูกของเขาก็ควรที่จะได้สนุกกับมันด้วย
หลังจากดูเวลาก็เกือบจะหกโมงแล้ว เขาจึงพูดว่า “ไปกันเถอะ กลับบ้านกันก่อน”
ทุกคนเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ยืนขึ้นพร้อมกัน
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดกับเฝิงเยี่ยนหงว่า “วันนี้เหมือนจะสายไปหน่อย ฉันคิดว่าหวังผิงน่าจะรออยู่ที่ออฟฟิศนานแล้ว”
เฝิงเยี่ยนหงพูดต่ออีกว่า “เฉินซินอยู่ที่นั่น เขาจะต้องรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่เหมือนกัน ที่เขาไม่มารับฉันคงเพราะรู้สึกผิดแน่นอน ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋เองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน
หวังผิงโกหกภรรยาไว้ จะไม่รู้สึกผิดได้อย่างไร ?
แต่ที่จริงเขาเองก็เริ่มโกรธหวังผิงแล้วเหมือนกัน ลูกสาวของเขาอุตส่าห์บอกไปแล้วว่าให้มารับเฝิงเยี่ยนหงและลูกชายโดยเร็ว จะได้แสดงความรับผิดชอบหน่อย
ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดอยู่นั้น พวกเขาก็กำลังเดินไปที่ประตูด้านนอกด้วยเหมือนกัน
จางหงหยูกล่าวลากับเธอด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ เธอหวังว่าครูหวังจะสามารถคุยปรับความเข้าใจได้ดี หลังจากที่ชานชานบอกมาแบบนั้น