ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 652 รู้สึกโดดเดี่ยวอย่างบอกไม่ถูก
- Home
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 652 รู้สึกโดดเดี่ยวอย่างบอกไม่ถูก
ตอนที่ 652 รู้สึกโดดเดี่ยวอย่างบอกไม่ถูก
ทันทีที่เจียงเสี่ยวไป๋ออกไป เขาก็เห็นรถบรรทุก 130 จอดอยู่ที่หน้าประตูด้านนอก
ในตอนนี้ หวังผิงกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างรถ โดยมีก้นบุหรี่มากกว่าหนึ่งโหลถูกทิ้งอยู่ที่เท้าของเขา
เมื่อเห็นแบบนั้น เขาก็ยิ้มออกมา ที่จริงเขารออยู่ที่นี่มานานแล้ว แต่แค่ไม่กล้าเข้าไปเพราะเขารู้ตัวดี
อืม ความหนาวข้างนอกนี้ทำอะไรเขาไม่ได้เหมือนกัน
เฝิงเยี่ยนหงที่เพิ่งมองเห็นหวังผิงก็รู้สึกสับสนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเพิ่งบ่นไปก่อนหน้านี้ว่าเขาไม่มารับ คิดไม่ถึงเลยว่าจะออกมาเจอเขารออยู่ข้างนอกแล้ว
ดูจากก้นบุหรี่แล้ว เขาก็คงจะรอมาสักพักใหญ่แล้ว แต่พอเธอมองไปที่เขา มันก็รู้สึกโกรธอย่างบอกไม่ถูกเลยจริง ๆ
เจียงเสี่ยวไป๋เลยพูดออกมาว่า “นู่น มีคนมารับเธอแล้ว เพราะงั้นพวกฉันกลับก่อนนะ ! ”
หลังจากที่เฝิงเยี่ยนหงได้ยินแบบนี้ก็ขานรับ
ก่อนที่หลินเจียอินจะกลับ เธอก็กระซิบบอกกับเขาไปว่า “อย่าทะเลาะกันเลยนะ”
เฝิงเยี่ยนหงพยักหน้า
หลินเจียจวินและหลินเจียหงต่างก็บอกลาและเร่งฝีเท้าเดินไปด้วยกัน
เจียงเสี่ยวไป๋มาถึงตัวหวังผิงก่อน เขาโบกมือทักทายและพูดเสียงดังว่า “ไง วันนี้มารับถึงที่นี่เลยหรือ งั้นพวกฉันกลับก่อนนะ ! ”
พูดจบ เขาก็เดินไปที่รถจี๊ปของเขาทันที
แต่นั่นมันก็ทำให้หวังผิงรู้สึกกังวลขึ้นมา เพราะหากเจียงเสี่ยวไป๋และพวกหลินเจียอินอยู่ที่นี่ด้วย อย่างน้อยเฝิงเยี่ยนหงก็น่าจะไว้หน้าพวกเขา และเธอคงไม่แสดงท่าทีโมโหออกมาต่อหน้าคนอื่น
เขาเตรียมจะขอให้เจียงเสี่ยวไป๋ช่วยเขา คิดไม่ถึงเลยว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะปลีกตัวหนีไปเร็วขนาดนี้
ใช้ได้ที่ไหนกัน ?
ในเมื่อเขาไปแล้ว งั้นฉันคงจบเห่แล้วล่ะ !
เขาพูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า “อย่าเพิ่ง นี่มันก็จะหกโมงแล้ว เราไปกินข้าวเย็นด้วยกันเถอะ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ไม่ดีกว่า วันนี้ครอบครัวของฉันตุ๋นหางหมูไว้แล้ว เดี๋ยวพวกเราจะกลับไปกินข้าวที่บ้าน”
หวังผิงที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกกังวลมากขึ้น ปกตินายฉลาดมีไหวพริบมาตลอดไม่ใช่หรือไง ?
ทำไมวันนี้ถึงไม่เข้าใจฉันเลย ?
เขาเหลือบมองหลินเจียจวิน แล้วพูดว่า “เสี่ยวไป๋ พี่เจียจวินและพี่เจียหงมาที่ชิงโจวทั้งที ฉันยังไม่มีโอกาสได้ชวนพวกเขาไปทานอาหารเย็นเลย วันนี้ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว ฉันจะเลี้ยงข้าวพวกเขา ไปกินข้าวต้มหัวปลาหรือโจ๊กซีฟู๊ดก็ได้”
หลินเจียจวินโบกมือพร้อมกับบอกว่า “ช่างเถอะ นี่มันก็เริ่มมืดแล้ว พวกเรากลับกันก่อนนะ”
หวังผิงได้ยินแบบนั้นก็ตกใจเล็กน้อย เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ยอมอยู่ต่อ ขนาดหลินเจียจวินเองก็ยังไม่อยู่ต่อเหมือนกัน
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะหันไปขอความช่วยเหลือจากหลินเจียหงและพูดว่า “พี่เจียหง ขอบคุณที่บอกฉันว่าภรรยาของผมกำลังตั้งท้องลูกสาว ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ให้ผมได้เลี้ยงข้าวพี่เถอะ ! ”
หลินเจียหงจึงพูดออกมาว่า “เรื่องเล็กน้อยเอง ไม่ต้องเกรงใจ หากคุณต้องการที่จะเลี้ยงข้าวฉัน ไว้เป็นวันอื่นเถอะ ! ”
หวังผิงตกตะลึง นี่ไม่มีใครไว้หน้าเขาเลย !
ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฉันจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่โดดเดี่ยวจนทำอะไรไม่ถูกแบบนี้มาก่อน
นึกไม่ออกเลยว่าเขาจะได้เจอพายุแบบไหน ?
แต่ก็หวังว่าเธอจะไม่มาระเบิดมันออกมาตอนนี้ จนกว่าจะถึงบ้าน
แบบนี้เขาจะได้มีหน้ามีตาเหลืออยู่บ้าง
หวังกังน้อยเองก็มองดูเฝิงเยี่ยนหงด้วยท่าทีประหม่าและยังเป็นห่วงพ่อของเขาอีกด้วย
“ปี๊บ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋บีบแตร ก่อนที่รถจี๊ปจะขับออกจากลานไปอย่างช้า ๆ
หวังผิงกลับมามีสติอีกครั้ง ก่อนที่จะเห็นว่าเฝิงเยี่ยนหงเดินเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก เขาตกใจมากจึงพูดออกมาอย่างรวดเร็ว “เยี่ยนหง ผมขอโทษ ผม…”
“ไว้คุยกันที่บ้าน ! ” เฝิงเยี่ยนหงเหลือบมองเขา ก่อนที่จะพูดตัดบทก่อน
เมื่อเห็นแบบนั้น หวังผิงก็ตกตะลึงอีกครั้ง พายุรุนแรงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกลับปกติ เขาทั้งประหลาดใจและมีความสุขไปในเวลาเดียวกัน ตอนนี้เขาไม่รู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“พ่อ เปิดประตูรถสิ ! ” หวังกังเขย่าแขนของหวังผิง
“ใช่ ๆ เปิดประตูหน่อย ! ”
จากนั้น หวังผิงก็เปิดประตูรถอย่างรวดเร็วแล้วก็ช่วยประคองเฝิงเยี่ยนหงเข้าไปในรถอย่างระมัดระวัง
“ถ้าครั้งนี้ฉันถูกภรรยาลงโทษจนสาหัส ฉันจะให้เจียงเสี่ยวไป๋ชดใช้ด้วยการซื้อรถจี๊ปให้ ! ” หวังผิงได้แต่แอบรู้สึกว่ามันโหดร้ายอยู่ในใจ
เขาเหลือบมองเฝิงเยี่ยนหงที่นั่งอยู่บนที่นั่งคนขับพร้อมกับอุ้มหวังกังขึ้นรถ หลังจากที่ปิดประตูแล้ว เขาก็เดินไปขึ้นฝั่งคนขับ
เขาไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง ได้แต่ขับไปอย่างเงียบ ๆ
อีกด้านหนึ่ง เจียงเสี่ยวไป๋เองก็กำลังขับออกจากถนนเหมียววาน ออกจากเมืองเพื่อกลับบ้าน
ด้านในรถ หลินเจียจวินพูดขึ้นว่า “เสี่ยวไป๋ นายคิดว่าเยี่ยนหงจะจัดการหวังผิงอย่างไร ? เขาจะถูกลงโทษให้คุกเข่าบนไม้กระดานซักผ้าไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบว่า “ผมจะไปรู้ได้อย่างไร ? ”
หลินเจียหงพูดต่ออีกว่า “แล้วนี่พี่จะสนใจไปทำไม ? เรามาคุยเรื่องร้านสปาเท้ากันดีกว่า”
หลินเจียจวินพูดต่อว่า “ไม่ใช่ว่าคุยเรื่องนี้กันไปแล้วเหรอ ? ทำไมยังชวนคุยอยู่อีก ยังคุยไม่เสร็จอีกเหรอ ? ”
หลินเจียหงพูดว่า “ฉันยังบอกแค่ว่าฉันต้องการพนักงานชำนาญสามคน แต่ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าฉันต้องการใครบ้าง”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เขาจึงพูดไปว่า “พี่เจียหง อย่าบอกนะว่าพี่เลือกคนไว้เสร็จสรรพแล้ว ! ”
หลินเจียหงพยักหน้า “ใช่ ฉันอยากให้เป็นหยวนหยวน จางหงหยู และเฉินเจีย”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดออกมาโดยไม่คิด “ไม่ได้ ทั้งสามคนนี้เก่งที่สุดแล้วในบรรดาพนักงานทั้งหมด หากผมยกให้พี่หมด แล้วร้านดื่มชาสปาเท้าของผมล่ะ ? ”
“พี่เลือกมาหนึ่งในสามคนนี้ แล้วเดี๋ยวผมจะหาเพิ่มอีกคนให้พี่”
หลินเจียหงพูดต่อว่า “แต่ฉันรู้จักแค่สามคนนี้เท่านั้น ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดต่ออีกว่า “มันไม่สำคัญหรอกว่าพี่จะรู้จักหรือเปล่า ผมจะจัดการให้เอง”
หลินเจียหงพูดต่ออีกว่า “เอาล่ะ ฉันจะไม่เถียงนายแล้ว งั้นฉันขอเป็นหยวนหยวนแล้วกัน ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ที่กำลังจะตอบตกลง แต่หลินเจียจวินก็พูดออกมาก่อนว่า “ฉันว่าเฉินเจียก็ไม่เลวนะ”
หลินเจียหงที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดว่า “ไม่ ฉันจะเลือกหยวนหยวน ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดต่ออีกว่า “อะไรกัน พี่สองคนเลือกกันคนละคนเลยหรือไง ! ”
หลินเจียหงกล่าวว่า “ก็ไม่มีอะไรหรอก เราคุยเรื่องนี้กันตอนที่เราสปาเท้ากัน และฉันบอกเธอว่าจะไปขอเธอมาจากนายไง”
เจียงเสี่ยวไป๋ถามหลินเจียจวิ้นอีกครั้ง “แล้วพี่ล่ะ ? ”
หลินเจียจวินพูดว่า “เธอเคยสปาเท้าให้ฉันไง ฉันคิดว่าเธอนิสัยน่ารักเลยทีเดียว”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เอาล่ะ งั้นเป็นหยวนหยวนแล้วกัน ! เพราะพี่หงรับปากเธอไว้แล้ว”
หลินเจียจวินไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ก็รู้สึกเสียใจอยู่เล็กน้อย
หลินเจียหงพูดออกมมาอย่างมีความสุขว่า “เอาล่ะ ตกลงตามนี้นะ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า
เสียงของหลินเจียหงเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น “แล้วเย็นนี้เราจะกินอะไรดีล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดว่า “กลับบ้านไปดูกันเถอะ ผมไม่รู้ว่าแม่ทำอาหารเสร็จแล้วหรือยัง”
“เอาล่ะ ถึงแม้ว่าแม่จะไม่ได้ทำ แต่นายก็ต้องเป็นคนทำอาหารอร่อย ๆ ให้ฉันกินแทน” หลินเจียหงพูด
และสองสามคนก็คุยกันไปตลอดทางจนถึงเจียงวาน
ก่อนที่จะเดินเข้าประตู เจียงเสี่ยวไป๋ได้พูดว่า “อย่างไรก็ตาม สายจูงของสุนัขมันไม่ค่อยดี เพราะงั้นระวังด้วยนะ”
“กรี๊ด ! ” หลินเจียหงกรีดร้องออกมา ก่อนที่จะรีบซ่อนตัวทางด้านหลังของหลินเจียจวินแล้วพูดออกมาอย่างไม่พอใจ “ทำไมนายยังไม่ซื้อสายจูงสุนัขล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวต่ออีกว่า “ผมสั่งทำไว้แล้ว พรุ่งนี้ก็น่าจะได้มาแล้ว”
แล้วเขาก็หันไปพูดกับเจียงชานว่า “ลูกเข้าไปก่อน แล้วพาเจียงซือไปที่สวนหลังบ้าน”
“อ้อ ค่ะ ! ” หนูน้อยตอบรับ ก่อนที่จะรีบวิ่งกระโดดโลดเต้นเข้าบ้านไป