ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 653 อย่างที่คิดไว้ คนมีไอเดียมักทำเงินได้เสมอ
- Home
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 653 อย่างที่คิดไว้ คนมีไอเดียมักทำเงินได้เสมอ
ตอนที่ 653 อย่างที่คิดไว้ คนมีไอเดียมักทำเงินได้เสมอ
ในวันรุ่งขึ้น ได้มีโฆษณาหนึ่งติดกระจายไปทั่วเมืองชิงโจว
ข้อความที่เขียนบนป้ายโฆษณานั้นมีเนื้อความว่า “โอกาสถูกล็อตเตอรี่ 100% ใช้เงินเพียง 2 เหมา โอกาสคว้าเงินหมื่นหยวนอยู่ไม่ไกลแล้ว”
ป้ายโฆษณานี้ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นต่างก็ตกใจเล็กน้อย
และทางด้านล่างนั้นเอง ก็ได้มีกติกาการรับรางวัลเขียนอยู่
ให้ตายเถอะ เงินรางวัล 10,000 หยวนมีตั้ง 10 รางวัล !
และไม่ใช่แค่นี้เท่านั้น แต่ยังมีทั้งรางวัลใหญ่มูลค่า 3,000 หยวน รองลงมาคือ 100 หยวนและยังมีอีกหลายจำนวนที่เราไม่รู้
“เฮ้ พวกนายว่าโฆษณานี้มันบอกว่าเราจะถูกรางวัล 100% เลยใช่ไหม ? ”
“โฆษณาออกมาขนาดนี้แล้ว มันจะเป็นของปลอมได้อย่างไร ? ”
“ใช่แล้ว มันเป็นของปลอมไม่ได้หรอก ! ”
“หมายความว่าหากเราจ่ายค่าล็อตเตอรี่แค่ 2 เหมา หากถูกรางวัลมีโอกาสได้รางวัลใหญ่ 10,000 หยวน แบบนี้ก็อาจจะได้กลายเป็นเศรษฐีหมื่นหยวนน่ะสิ มันน่าสนใจมาก”
“แล้วนายจะซื้อล็อตเตอรีไหม ? ”
“บ้ารึเปล่า ราคาแค่ 2 เหมาแต่อาจถูกรางวัลใหญ่ตั้ง 10,000 หยวน ถ้าฉันไม่ซื้อก็คงจะเป็นอะไรที่โง่มากจริง ๆ ? ”
“ก็จริง ฉันก็คิดว่าจะซื้อด้วยเหมือนกัน ! ”
“ช่วงนี้ฉันคิดว่าฉันน่าจะมีโชค บางทีฉันอาจถูกรางวัลและได้กลายเป็นเศรษฐีหมื่นหยวน ! ”
“อืม ตั้ง 10 รางวัลเชียวนะ ฉันคิดว่าฉันอาจจะได้เป็นหนึ่งในนั้น”
“แต่ก็นะ ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรเหมือนนาย แค่ฉันถูกรางวัล 3,000 หยวน ฉันก็พอใจแล้ว”
“เงิน 3,000 หยวนก็ถือว่ามากแล้วนะ ? กล้าพูดมาได้ว่าไม่เยอะ ฉันน่ะแค่ได้รางวัลที่ 2 รับเงิน 100 หยวนก็ดีใจมากแล้ว”
“คนที่อาจจะได้รางวัลนี้มีตั้ง 2,000 คน ฉันเลยคิดว่าโอกาสที่จะได้มันสูงมาก”
“รางวัลที่สองและสามก็ยังถือว่าดีอยู่เหมือนกัน ถึงแม้จะแค่สิบหยวนก็เถอะ แต่ก็มีตั้ง 10,000 รางวัล โอกาสถูกเยอะกว่ามาก”
“ทำไมถึงพูดอย่างนั้น รางวัลที่ 4 มีตั้ง 50,000 รางวัลนะ มีโอกาสถูกเยอะกว่ามาก”
“อืม พวกนายพูดถูก ต่อให้เราได้รางวัลที่ 5 ก็ยังไม่ถือว่าขาดทุน เพราะเราสามารถใช้ล็อตเตอรี่แทนเงินสดเป็นส่วนลดสินค้าในเครือเจียงเจียกรุ๊ปได้”
“ถ้าพูดกันตามตรง มันก็เหมือนกับว่าเราไม่ได้ใช้เงินเลย เพราะถ้าเกิดเราถูกรางวัลใหญ่ เราก็จะได้เงินจำนวนมาก แต่ถ้าเราไม่ถูกรางวัลใหญ่ เราก็เสียเงินไปแค่ไม่เท่าไหร่”
“ใช่ นั่นแหละที่ฉันต้องการจะสื่อ”
“ที่เจียงเจียกรุ๊ปมีของหลายอย่างที่สามารถบริโภคได้ ดูอย่างร้านโยวผิ่นสิ ใครบ้างที่ไม่เคยซื้อเมล็ดแตงโมห้ารสสักถุง ? ”
“ก็ใช่ ที่จริงก็ไม่ได้เสียเงินอะไรมากหรอก เมื่อถึงเวลานั้นฉันก็จะใช้เงินเดือนของฉันที่เหลือจากเดือนที่แล้วไปซื้อล็อตเตอรี่ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าถ้าฉันใช้เงิน 30 หยวนซื้อล็อตเตอรี่แล้ว ฉันจะไม่ถูกรางวัลใหญ่สักรางวัลน่ะ”
“ใช่ ฉันเองก็ยังมีเงินส่วนตัวที่เหลือเก็บไว้อยู่บ้าง ฉันจะใช้เงินส่วนนั้นซื้อของต่าง ๆ แต่มันจะเป็นอย่างไรถ้าเกิดว่าเราถูกรางวัลขึ้นมา ? ”
“ถึงตอนนั้นไว้เราไปซื้อพร้อมกัน ! ”
“ใช่ ไว้ไปด้วยกัน”
“……”
วันนี้ทุกคนต่างก็ได้เห็นโฆษณาของสำนักข่าวรายวันที่ติดอยู่ตามหน่วยงานและทั่วทุกมุมถนนต่าง ๆ ในเมืองชิงโจว พวกเขาต่างตื่นเต้นและพูดคุยถึงโฆษณานี้ไม่หยุด
แม้แต่คนที่ไม่รู้หนังสือและคนที่ไม่ได้สมัครรับหนังสือพิมพ์รายวันต่างก็อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน
“พวกคุณหมายถึงถูกรางวัลอะไรหรือ ? ”
“แล้วเงิน 2 เหมาเปลี่ยนเป็นเงิน 10,000 หยวนมันคืออะไรกัน ? ”
“เฮ้ นี้มันคือเรื่องจริงเหรอ ? ”
“จริงสิ ครูหวังเป็นคนบอกมา เขาเป็นนักวิชาการเลยได้อ่านโฆษณานี้จากหนังสือพิมพ์ มันก็คงจะเป็นเรื่องจริงอยู่แล้วใช่ไหม ? ”
“แล้วจะไปหาซื้อล็อตเตอรี่นี้ได้จากที่ไหน ? ”
“ดูเหมือนว่าจะจะหาซื้อได้ที่เกสต์เฮาส์ชิงเจียงนะ”
“แล้วจะรออะไรล่ะ ? รีบไปซื้อกันเถอะ เพราะอย่างไรมันก็ราคาแค่ 2 เหมา ฉันสามารถซื้อมันได้สบาย ๆ อยู่แล้ว”
“อย่าเพิ่ง เขาจะเริ่มขายวันที่ 12 นี้ ! ”
“โอ้ วันนี้วันที่ 9 อยู่เลย ยังเหลือเวลาอีกตั้ง 3 วัน ! ”
“เมื่อถึงวันนั้นแล้ว อย่าลืมบอกฉันมาด้วยนะ ! ”
“ฉันจะไม่ลืม เมื่อถึงตอนนั้นเราค่อยไปด้วยกัน ! ”
“……”
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นที่พูดถึงในบรรดาคนที่ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ แต่ข่าวที่ว่าล็อตเตอรี่ราคา 2 เหมามีสิทธิ์ถูกรางวัลใหญ่ 10,000 หยวนก็ได้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้ทุกคนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอ
แม้ว่าส่วนใหญ่อาจจะยังไม่ได้ข่าว แต่เชื่อได้เลยว่าคนกลุ่มนั้นจะต้องรู้ข่าวในไม่ช้า
“ประกาศ ! ประกาศ ! ประกาศ ! ”
“เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการก่อตั้งเจียงเจียกรุ๊ป เราจึงขอคืนกำไรเป็นเงินสดนับล้านหยวนให้กับทุกคน โดยจะเริ่มจำหน่ายสลากล็อตเตอรี่ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ราคาสลากแต่ละใบอยู่ที่ 2 เหมา โดยโอกาสถูกรางวัลแน่นอน 100% แถมรางวัลพิเศษอีก 10 รางวัล ได้แก่เงินสดมูลค่า 10,000 หยวน รางวัลที่ 1 เงินสดมูลค่า 3,000 หยวนจำนวน 50 รางวัล……”
เสียงลำโพงได้ดังขึ้นตามถนนและตรอกซอกซอยของเมืองชิงโจว
แน่นอนว่าหลังจากที่ได้ประกาศออกมาแล้ว ทุกคนทั้งที่รู้อยู่แล้วหรือว่าไม่เคยรู้มาก่อนในตอนนี้ต่างก็รู้กันหมดแล้ว
ทำให้ในตอนนี้ต่างก็มีเสียงพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันมากขึ้น
ไม่เพียงแต่ประชาชนเท่านั้นที่พูดถึงเรื่องนี้ แต่ยังรวมถึงหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ ที่ตกตะลึงกับการกระทำของเจียงเสี่ยวไป๋ในครั้งนี้ด้วยเหมือนกัน
นายกเทศมนตรีจางจ้องดูหนังสือพิมพ์อยู่นาน ก่อนที่จะพึมพำกับตัวเองว่า “ที่เขาพูดว่าจะหาเงินห้าล้าน หมายถึงแบบนี้เองเหรอ ? ”
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาก็กำลังคิดอยู่เลยว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะหาเงินห้าล้านได้อย่างไร แต่ไม่ว่าเขาจะนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก
จนกระทั่งเขาได้เห็นโฆษณาในสำนักข่าวรายวันชิงโจว เขาถึงตระหนักได้ในทันที
นายกเทศมนตรีจางจึงเริ่มคิดคำนวณตัวเลขในใจ
มูลค่ารางวัลที่เจียงเสี่ยวไป๋กำหนดไว้มีรางวัลพิเศษ 10 รางวัล รวมเป็นเงิน 100,000 หยวน รางวัลที่หนึ่ง 50 รางวัลรวมเป็นเงิน 150,000 หยวน รางวัลที่สอง 2,000 รางวัลรวมเป็นเงิน 200,000 หยวน รางวัลที่สาม 10,000 รางวัลรวมเป็นเงิน 100,000 หยวน และรางวัลที่ 4 มี 50,000 รางวัล รวมเป็นเงิน 100,000 หยวน
เท่ากับว่าเจียงเสี่ยวไป๋ต้องจ่ายเงินรางวัลสูงถึง 650,000 หยวน
รวมกับค่าประชาสัมพันธ์ วัสดุ และแรงงานต่าง ๆ ก็น่าจะปาไปถึง 700,000 หยวน ถึงจะสามารถทำกิจกรรมนี้ได้สำเร็จ
ดังนั้น ถ้าเกิดว่าขายล็อตเตอรี่เพียงแค่ใบละ 2 เหมา และเป้าหมายที่เจียงเสี่ยวไป๋ต้องการก็คือ 5 ล้านหยวน ดังนั้นเขาจะต้องขายล็อตเตอรี่ให้ได้อย่างน้อย 30 ล้านใบ
เจียงเสี่ยวไป๋จะสามารถขายได้ 30 ล้านใบไหม ?
ในเมืองชิงโจวมีประชากรอยู่แค่ 800,000 คน หากแต่ละคนซื้อตั๋วเฉลี่ยที่คนละ 40 ใบ พวกเขาจะใช้เงินประมาณ 8 หยวนเท่านั้น
แนะนอนว่าคนจากหมู่บ้านอื่นหรือคนจากที่อื่นอาจจะต้องมาซื้อล็อตเตอรี่กันที่นี่……
นายกเทศมนตรีจางบอกว่า “ให้ตายเถอะ เขาจะต้องขายได้มากขนาดนั้นแน่นอน”
ไม่สิ !
หลังจากที่เขาเห็นโฆษณาแบบนี้แล้ว ตัวเขาเองยังอยากควักเงินซื้อล็อตเตอรี่สัก 100 หยวนหรือ 200 หยวนด้วยซ้ำ
ด้วยรายได้ของครอบครัวเขา ราคานี้สามารถจ่ายได้โดยไม่กระทบต่อคุณภาพชีวิตของเขา
ยิ่งไปกว่านั้น เงินที่จ่ายไปเหล่านี้ยังสามารถนำไปหักเป็นส่วนลดตอนซื้อผลิตภัณฑ์ของเจียงเจียกรุ๊ปได้ด้วย
“แม่เจ้า ! ”
นายกเทศมนตรีจางร้องอุทานขึ้นมาในทันที เขาคิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋อาจจะไม่ได้ขายสลากได้แค่ 30 ล้านใบเพียงเท่านั้น แต่อาจขายได้มากกว่า 50 ล้านใบหรือมากกว่านั้นก็ยังได้
เพราะถึงอย่างไรล็อตเตอรี่หนึ่งใบราคาแค่ไม่กี่เหมาเท่านั้น
นี่ถือเป็นมูลค่าการขายที่สูงเทียมฟ้า !
นายกเทศมนตรีจางรู้สึกทึ่งที่ตระหนักได้ว่าแท้จริงแล้วเงินสามารถหามาได้ง่ายขนาดนี้เอง !
คุณสามารถสร้างรายได้หลายร้อยหรือหลายสิบล้านหยวนเพียงแค่ขายกระดาษพวกนี้ !
อย่างที่คิดไว้ คนมีไอเดียมักทำเงินได้เสมอ
แน่นอนว่าเขาต้องยอมรับว่ามีเพียงแค่เจียงเสี่ยวไป๋ในชิงโจวเท่านั้นที่สามารถใช้เงินได้มากถึง 700,000 หยวนสำหรับกิจกรรมนี้
ส่วนคนอื่น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีแนวคิดแบบนี้ แต่ก็ไม่มีเงินมากพอที่จะทำแบบนี้ได้