ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 655 โทรมาถึงโรงงานฟิล์มพลาสติก
ตอนที่ 655 โทรมาถึงโรงงานฟิล์มพลาสติก
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋ได้เข้าเมืองมาในตอนเช้าแล้ว เขาก็ส่งหลินเจียอินและคนอื่นที่สำนักงานก่อน จากนั้นจึงพาหลินเจียจวินไปที่โรงงานฟิล์มพลาสติก
“เดี๋ยวผมจะฝากพี่ไว้กับผู้จัดการเมิ่งแล้วกันนะ เธอจะเป็นคนช่วยพี่จัดสรรคน 300 คนสำหรับกิจกรรมจับรางวัลล็อตเตอรี่ เวลาที่ผมไม่อยู่ ถ้าพี่อยากได้อะไรเพิ่มก็ไปหาเธอได้เลย”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวขณะที่เขาเดินไปที่ห้องทำงานของเมิ่งเสี่ยวเป่ย
หลินเจียจวินกล่าวว่า “นายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทิ้งจริง ๆ นายจะทิ้งให้ฉันอยู่กับคนแซ่เมิ่งนี้เหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “จะใช้คนก็อย่าระแวง หากระแวงใครก็อย่าใช้เขา ในเมื่อผมมอบหมายให้พี่ทำแล้ว ผมก็ต้องทิ้งอำนาจตัดสินใจของตัวเองลง อีกอย่างผมยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ เพราะงั้นผมจะมาดูแลพี่ตลอดเวลาได้อย่างไร”
หลินเจียจวินเม้มริมฝีปาก “เอาล่ะ ใครขอให้ฉันขึ้นเรือโจรสลัดของนายล่ะ ? ”
ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน ทั้งสองก็ได้มาถึงห้องทำงานของเมิ่งเสี่ยวเป่ยที่ประตูได้เปิดไว้อยู่แล้ว ก่อนที่เจียงเสี่ยวไป๋จะเดินไปเคาะประตู
เมิ่งเสี่ยวเป่ยที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนที่จะเห็นว่าเป็นเจียงเสี่ยวไป๋ เธอจึงชี้ไปที่โทรศัพท์และโบกมือให้พวกเขาเข้ามาก่อน และนั่งรอสักครู่
ตอนที่หลินเจียจวินเห็นเมิ่งเสี่ยวเป่ย เขาก็ตกใจเล็กน้อย อ่า คุณเมิ่งคนนี้เธอสวยมาก
เขาถึงกับอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ ไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาไปหาผู้หญิงที่สวยและมีความสามารถมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหน
ไม่นานหลังจากที่ทั้งสองนั่งลง เมิ่งเสี่ยวเป่ยก็ได้วางสายโทรศัพท์แล้วเดินมาหาพวกเขา
“ผู้ช่วยเจียง โทษทีนะคะ ฉันมีเรื่องต้องคุยโทรศัพท์นิดหน่อย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยืนขึ้น ก่อนที่จะโบกมือ “ไม่เป็นไรหรอก ฉันมีคนมาแนะนำให้รู้จัก” เขาชี้ไปที่หลินเจียจวิน ก่อนที่จะพูดต่อ “นี่คือหลินเจียจวิน เป็นผู้รับผิดชอบงานทางเจียงเฉิงในตอนนี้ เขาจะเข้ามามีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลองการก่อตั้งเจียงเจียกรุ๊ปด้วย และเขารับผิดชอบเรื่องล็อตเตอรี่”
เมิ่งเสี่ยวเป่ยยื่นมือออกมาแล้วพูดกับหลินเจียจวินว่า “สวัสดีคุณหลิน คุณอุตส่าเดินทางมาจากเจียงเฉิง และยังต้องมาทำงานหนักอีก ฉันชื่อเมิ่งเสี่ยวเป่ย ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
หลินเจียจวินจับไปที่มือของเธอเบา ๆ แล้วพูดว่า “คุณเมิ่ง คุณสุภาพเกินไปแล้ว ผมต่างหากที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับชิงโจวเท่าไหร่ เพราะงั้นต้องรบกวนคุณแล้ว”
เมิ่งเสี่ยวเป่ยเม้มริมฝีปากแล้วยิ้ม “คุณสองคนนั่งลงก่อน เดี๋ยวฉันจะชงชาให้”
หลังจากที่หลินเจียจวินและเจียงเสี่ยวไป๋นั่งลงอีกครั้ง เมิ่งเสี่ยวเป่ยก็นำชาสองถ้วยมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว
ซึ่งใบชาที่นำมาใช้ในการชงนั้นล้วนเป็นชาหลงจิ่งจากทะเลสาบตะวันตก
แต่สำหรับถ้วยชาที่เจียงเสี่ยวไป๋และหลินเจียจวินได้รับ มันเป็นแค่ถ้วยพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งเท่านั้น
หลินเจียจวินอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา เพราะสิ่งที่อยู่ในนั้นกับสิ่งที่ใช้ใส่มันแตกต่างกันเกินไป
เมิ่งเสี่ยวเป่ยพูดออกมาด้วยท่าทีสบาย ๆ แต่กับตั้งใจที่จะพูดถึงมันอย่างเจาะจง “คุณหลิน ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เวลาที่ผู้ช่วยเจียงเขามาที่นี่ เขาก็จะมีถ้วยชาพิเศษของเขาเองมาด้วย”
หลินเจียจวินที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยกว่าก่อนหน้านี้
แต่ก็ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะเขาพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร เขาเองก็รังแกฉันอยู่บ่อย ๆ เหมือนกัน ! ”
ในขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้น เขาก็นึกถึงตอนที่เจียงเสี่ยวไป๋ไปพบลุงโฮ่ว ตอนนั้นลุงโฮ่วเองก็ปฏิบัติกับเขาและเจียงเสี่ยวไป๋แตกต่างกัน ลุงโฮ่วให้เจียงเสี่ยวไป๋นั่งดื่มชาอยู่ในห้อง แต่กลับขอให้เขาไปขนเหล้า
เมิ่งเสี่ยวเป่ยยิ้มบาง ๆ “ฉันไม่คิดเลยว่าคุณหลินจะเป็นคนตลก พวกคุณดูสนิทกันเหมือนเป็นพี่น้องกันเลยนะคะ”
หลินเจียจวินยิ้มและพูดว่า “เราเป็นพี่น้องกัน ที่จริงแล้วเขาจะต้องเรียกฉันว่าพี่จวิน”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หัวใจของเมิ่งเสี่ยวเป่ยก็สั่นไหวเล็กน้อย เพราะเหมือนเธอจะคาดเดาตัวตนของหลินเจียจวินออกแล้ว
เขามาจากเจียงเฉิงและแซ่ของเขาคือหลิน และเจียงเสี่ยวไป๋เองก็เชื่อใจเขามาก……
และแน่นอนว่าเมื่อนำเงื่อนไขเหล่านี้มารวมกันจะสามารถเชื่อมโยงพวกเขาเข้าหากันได้อย่างง่ายดาย
แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
บางเรื่อง แค่รู้อยู่ในใจก็พอแล้ว คิดได้ดังนั้นเธอจึงพูดว่า “ฉันได้อ่านโฆษณาในหนังสือพิมพ์เมื่อเช้านี้ ฉันยังคิดอยู่ว่างานใหญ่แบบนี้น่าจะต้องมีบุคคลที่มีความสามารถรอบด้านเป็นผู้ดูแล ก่อนหน้านี้ฉันก็กำลังคิดอยู่ว่าจะมีเวลาเพียงพอที่จะทำไหม ? ฉันไม่รู้เลยว่าผู้ช่วยเจียงเขาจะจัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว”
พูดถึงโหยวโหย่วหยูแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็รีบพูดขึ้นมาว่า “ผู้จัดการเมิ่ง คุณให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลออกหนังสือแจ้งให้เฝิงเจียเหอมารับหน้าที่แทนโหยวโหย่วหยูเป็นการชั่วคราวที”
“ค่ะ ฉันจะจัดการในทันที ! ” เมิ่งเสี่ยวเป่ยรับคำสั่ง
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวต่อีกว่า “สำหรับโหยวโหย่วหยู ฉันให้เขาไปเป็นผู้จัดการโรงงานโต๊ะหลุมไฟในถู่เฉิงชั่วคราว คุณสามารถทำประกาศแจ้งได้”
เมิ่งเสี่ยวเป่ยพยักหน้าและเมื่อเห็นว่าเจียงเสี่ยวไป๋ไม่มีคำแนะนำอื่นแล้ว เธอจึงพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปที่แผนกบุคคลก่อน และส่งเอกสารทั้งสองฉบับไปให้โหยวโหย่วหยู แล้วเราค่อยมาคุยเรื่องล็อตเตอรี่กันต่อ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า
เมิ่งเสี่ยวเป่ยกล่าวต่ออีกว่า “เพราะงั้นคุณก็อุ่นร่างกายข้างกองไฟและดื่มชารอก่อนสักพัก แล้วเดี๋ยวฉันจะกลับมา” พอพูดเสร็จ เธอก็ออกจากสำนักงานและไปที่แผนกบุคคลในทันที
“นายทำให้ที่นี่ดูเหมือนสำนักงานใหญ่ของเจียงเจียกรุ๊ปเลย ! ” หลินเจียจวินพูดด้วยรอยยิ้มหลังจากที่เมิ่งเสี่ยวเป่ยเดินออกไปแล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ตอนนี้เจียงเจียกรุ๊ปยังไม่มีพื้นที่สำนักงาน และเมิ่งเสี่ยวเป่ยเธอเป็นคนรับผิดชอบการดำเนินงานเป็นหลัก เพราะงั้นเธอยังเป็นผู้จัดการโรงงานฟิล์มพลาสติกอยู่ และแผนกต่าง ๆ ที่เธอจัดการยังคงอยู่ในโรงงานฟิล์มพลาสติกชั่วคราว”
หลินเจียจวินกล่าวว่า “น่าจะต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งหรือสองปีก่อนที่อาคารชิงโจวของนายจะสร้างเสร็จ นายจะปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปนานไม่ได้ ไม่อย่างนั้นนายจะไม่มีพื้นที่สำนักงานสักที ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “มันไม่ได้แน่นอน ผมกำลังมองหาสถานที่อยู่เหมือนกัน ผมอยากได้พื้นที่ที่ใหญ่กว่านี้ก่อน แล้วค่อยเริ่มตกแต่งมัน”
หลินเจียจวินยิ้มและพูดว่า “แทนที่จะมองหาสถานที่อื่น นายน่าจะหาที่ดินผืนเล็ก ๆ และสร้างอาคารแนวราบ แบบนี้น่าจะเร็วกว่า”
เจียงเสี่ยวไป๋สะดุ้งเล็กน้อย เขาไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย
หลังจากที่หลินเจียจวินพูดเตือนสติเขา เขาก็คิดว่าแบบนั้นมันได้
“ข้อเสนอแนะของพี่ค่อนข้างดีเลย ไว้ถ้าผมมีเวลา ผมจะไปหารองนายกเทศมนตรีถังและขอที่ดินเชิงพาณิชย์กับเขาดู จะได้สร้างสำนักงานขายที่นั่นด้วยเลย”
“อย่างงั้นก็ดีเลย ! ”
หลินเจียจวินพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มพูดคุยกันต่อ
หลังจากนั้นไม่นาน เมิ่งเสี่ยวเป่ยก็กลับมา เจียงเสี่ยวไป๋จึงเริ่มเปลี่ยนหัวข้อมาเป็นพูดคุยเกี่ยวกับล็อตเตอรี่แทน
พวกเขาทั้งสามคุยกันนานกว่าสิบนาที ก่อนที่จู่ ๆ โทรศัพท์จะดังขึ้น
“ขอโทษทีค่ะ ฉันขอไปรับสายก่อน”
เมิ่งเสี่ยวเป่ยพูดอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะลุกไปรับโทรศัพท์
“ค่ะ ! ”
“ใช่ค่ะ ! ”
“อ๋อ ได้ค่ะ ! ”
หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่กี่คำ เมิ่งเสี่ยวเป่ยก็วางสายและพูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ว่า “ผู้ช่วยเจียงคะ เลขาเฉินของเทศบาลเมืองอยากคุยกับคุณค่ะ”
เจียงเสี่ยวไป๋สงสัยอยู่ครู่หนึ่งว่าทำไมต้องอยากคุยกับเขา ?
เขายืนขึ้นและเดินไปรับโทรศัพท์จากมือของเมิ่งเสี่ยวเป่ย
“สวัสดีเลขาเฉิน ฉันเจียงเสี่ยวไป๋ ! ”
“สวัสดีครับเถ้าแก่เจียง นายกเทศมนตรีจางขอให้คุณมาที่ออฟฟิศ ผมโทรไปโรงงานเครื่องปรุงแล้ว แต่ประธานหลินบอกว่าคุณไปที่โรงงานฟิล์มพลาสติก ผมเลยโทรมาที่นี่แทน”
“ไม่เป็นไร ให้ฉันไปหาตอนนี้เลยเหรอ ? ”
“ใช่แล้ว นายกเทศมนตรีจางกำลังรออยู่”
“โอเค ฉันจะไปถึงที่นั่นภายใน 20 นาที”
“ครับ แล้วพบกันนะครับเถ้าแก่เจียง”
“แล้วพบกันเลขาเฉิน ! ”