ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 659 ปรับแผน
ตอนที่ 659 ปรับแผน
หลินเจียเหว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้คนงานในโรงงานต่างก็ต้องการที่จะซื้อล็อตเตอรี่เหมือนกันหลังจากที่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ในตอนเช้าของวันนี้ แต่พวกเขาไม่สามารถมาที่ชิงโจวได้เลยในทันที”
เขาเหลือบมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋แล้วพูดว่า “พวกเขารู้ว่าฉันเป็นพี่ชายของอินอิน เลยถามว่านายพอจะมีวิธีที่ทำให้พวกเขามาซื้อล็อตเตอรี่ไหม ? ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็นึกขึ้นมาได้ว่าถ้าหากเป็นยุคสมัยหลัง การสื่อสารก็คงจะสะดวกกว่า แถมอินเทอร์เน็ตก็ได้รับการพัฒนาไปไกลแล้ว ทุกอย่างสามารถเข้าถึงได้ง่าย แต่นี่ยังเป็นปี 1983 อยู่ เพราะงั้นกิจการขายล็อตเตอรี่ในระยะทางที่ไกลกันน่าจะยังไม่เหมาะกับสมัยนี้
เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “แล้วคนที่สนใจจะซื้อล็อตเตอรี่ในเจี้ยนหยางมีเยอะไหม?”
หลินเจียเหว่ยตอบไปว่า “ยังบอกไม่ได้ แต่มันจะมีใครบ้างล่ะที่จะไม่ยอมเสียแค่ 2 เหมาเพื่อลุ้นรางวัลที่มีมูลค่ามากถึง 10,000 หยวน ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋คิดแล้วพูดต่อ “งั้นตอนนี้พวกพี่รีบสปาเท้าให้เสร็จก่อนเถอะ แล้วเดี๋ยวผมจะเอากลับไปคิดคืนนี้ จะมาให้คำตอบพรุ่งนี้”
หลินเจียเหว่ยยิ้มและพูดว่า “ได้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว งั้นนายคงต้องคิดจนหัวล้านแล้วล่ะ นายจะต้องคิดหาแผนที่ดีให้ได้นะ ฉันจะรอ”
เจียงเสี่ยวไป๋มองไปที่เขาด้วยความโกรธในทันที เพราะเขาไม่อยากเป็นคนหัวล้าน
หลังจากที่ทักทายหานหยุนอิงเสร็จแล้ว เขาก็เดินออกมาจากห้อง 012 และกลับไปที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อไปนั่งพิงไฟ
เมื่อหลินเจียหลินเห็นแบบนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “คุณได้คุยกับพี่ใหญ่และพี่สะใภ้แล้วใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ได้คุยกันแล้ว เขาทำให้ผมเจอเรื่องยากเล็กน้อย แต่หากแก้ปัญหานี้ได้ กิจกรรมล็อตเตอรี่จะสร้างกำไรให้เราได้มากขึ้น”
“มันมีวิธีใช่ไหม ? ” หลินเจียอินถามอย่างกังวล
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ทุกปัญหามันมีทางออกเสมอ แต่ผมต้องลองคิดดูก่อน พรุ่งนี้ผมอาจจะคิดออกก็ได้”
หลินเจียอินกล่าวว่า “คุณจะต้องทำได้อย่างแน่นอน”
เธอเหลือบมองเขา ก่อนที่จะถามออกมาว่า “ว่าแต่พี่จวินอยู่ไหน ? เมื่อเช้าเขาไม่ได้ออกไปข้างนอกกับคุณเหรอ ? ทำไมเขาไม่มาด้วยล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋มองดูเวลา ก่อนที่จะพูดว่า “จริงสิ ตอนนี้เขาก็น่าจะเสร็จธุระแล้ว ผมโทรไปถามเขาก่อน”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรไปยังสำนักงานของเมิ่งเสี่ยวเป่ย
ใช้เวลาไม่นาน ปลายสายก็รับสายและเป็นเมิ่งเสี่ยวเป่ยที่ตอบกลับมาว่าเธอได้ให้คนไปส่งหลินเจียจวินที่คลับเฮ้าส์แล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋ขอบคุณเสร็จ กำลังจะวางสาย
แต่เมิ่งเสี่ยวเป่ยก็ได้พูดต่อว่า “โรงน้ำชาที่คุณเปิดไม่ได้มีไว้เพื่อดื่มชาอย่างเดียว แต่ยังมีไว้สำหรับสปาเท้าและนวดด้วยใช่ไหม ? คุณหลินบอกว่ามันดีมาก ผู้ช่วยเจียง คุณจะชวนฉันไปเมื่อไหร่ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวต่อว่า “ตอนนี้ไฮไลท์ของเราคือพิธีเปิดเจียงเจียกรุ๊ป ดังนั้นสักวันที่ 13 เป็นต้นไป คุณก็สามารถมาได้ตลอด”
เมิ่งเสี่ยวเป่ยได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะวางสายไป
เจียงเสี่ยวไป๋กลับไปที่โต๊ะหลุมไฟแล้วพูดว่า “พี่จวินเขากำลังเดินทางมาที่นี่ อีกไม่นานก็น่าจะมาถึงแล้ว”
หลินเจียหงกล่าวต่ออีกว่า “จริงสิ ว่าแต่นายได้เตรียมโซ่ล่ามสุนัขไว้แล้วหรือยัง ? ”
พอคิดได้ว่าอีกสักพักก็จะกลับเจียงวานแล้ว เธอถึงได้นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาที่ถ้าหากว่าไม่มีโซ่ เธอก็คงไม่กล้าเดินเข้าไปเข้าห้องน้ำด้วยซ้ำ
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “สบายใจได้ มันอยู่บนรถแล้ว”
หลินเจียหงหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ประตู พร้อมหลินเจียจวินที่เปิดประตูและเดินเข้ามา เขาดึงเก้าอี้ออกมานั่งลงแล้วพูดออกมาว่า “ฉันรู้ว่าทุกคนอยู่ที่นี่ ฉันก็เลยรีบมาที่นี่ทันที”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มทันที เพราะเขาเดาว่าชายคนนี้จะต้องโทรหาเฉินซินมาก่อนแล้วแน่นอน แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร และเริ่มเปิดประเด็นเรื่องอื่นขึ้นมา “ทำงานวันแรกรู้สึกอย่างไรบ้าง ? ”
หลินเจียจวินยื่นมือออกมา “ฉันขอสูบบุหรี่ก่อน ฉันอดทนไม่สูบมาครึ่งค่อนวันแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋หยิบห่อบุหรี่ที่เหลือส่วนใหญ่ออกมาแล้วส่งให้เขา โดยพูดว่า “อย่าบอกนะว่าพี่เอาเงินมาพอซื้อแค่ซองเดียวน่ะ ? ”
หลินเจียจวินพูดขึ้นมาในขณะที่หยิบบุหรี่ออกมา “วันนี้ฉันยุ่งมากจนไม่มีเวลาซื้อบุหรี่ต่างหาก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋เหลือบมองเขาด้วยความประหลาดใจ แล้วพูดว่า “ผมให้พี่ทำความคุ้นเคยกับบุคลากรและสถานที่ วันนี้พี่ทำอะไรไปแล้วบ้าง ? ”
หลินเจียจวินจุดบุหรี่พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าออกยาว ๆ แล้วพูดว่า “ฉันไปที่เกสต์เฮาส์ชิงเจียง จากนั้นก็เดินไปตามถนนสายหลักของเมืองชิงโจว ก่อนที่จะพบว่าแผนงานที่นายกล่าวถึงก่อนหน้านี้จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนด้วยเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นจะทำงานได้ไม่มีระบบ”
เจียงเสี่ยวไป๋ปรับสีหน้าของเขาให้จริงจัง และถามออกมาในทันทีว่า “ทำไมล่ะ ? ”
หลินเจียจวินกล่าวว่า “ถ้านายต้องการขายล็อตเตอรี่หลายสิบล้านใบในสามวัน เกสต์เฮาส์ชิงเจียงน่าจะเล็กเกินไปที่จะทำแบบนั้นได้นะ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “แต่ลานที่นั่นมันใหญ่พอแล้วนะ ! ”
หลินเจียจวินโบกมือ “พวกเราคนจีนต่างก็ชอบความตื่นเต้น นอกจากนี้หลังจากที่ซื้อล็อตเตอรี่ ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะได้รางวัล คนส่วนใหญ่ก็คงจะรู้สึกติดค้าง เหมือนกับลานของเกสต์เฮาส์ชิงเจียงที่คิดว่าน่าจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ยังเล็กเกินไปสำหรับคนที่คาดว่าจะมาเข้าร่วมงานอยู่ดี”
เจียงเสี่ยวไปตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เพราะที่จริงแล้วเขาก็ยังไม่ได้คำนึงถึงเรื่องที่ชาวจีนชอบเข้าร่วมกิจกรรม โชคดีที่หลินเจียจวินเขาเจอปัญหานี้ได้ทันเวลา
“พี่จวิน โชคดีจริง ๆ ที่พี่เจอปัญหานี้ ไม่เช่นนั้นเราคงจะเดือดร้อน สมแล้วที่ให้พี่มาดูแลเรื่องล็อตเตอรี่” เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวออกมาอย่างจริงใจ
หลินเจียจวินกล่าวว่า “ดังนั้นฉันก็เลยคิดหาวิธีแก้ได้มาได้หนึ่งข้อ”
เจียงเสี่ยวไป๋สนใจทันที “บอกมาเลย ! ”
หลินเจียจวินกล่าวต่อว่า “ก็แยกสถานที่ในการขายล็อตเตอรี่ออกไป ! ร้านกุ้งอบน้ำมันก็มีตั้ง 30 ร้านไม่ใช่เหรอ ? ฉันลองไปสำรวจดูมาแล้ว ทุกร้านล้วนต่างก็อยู่ในทำเลที่ดีและอยู่ในพื้นที่ที่มีคนและการจราจรหนาแน่น”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็เข้าใจในทันที “พี่หมายถึงให้ขายล็อตเตอรี่ในร้านกุ้งอบน้ำมันงั้นเหรอ ? ”
หลินเจียจวินพยักหน้า “ฉันคิดว่าหากเราวางขายหลายที่น่าจะขายได้เร็วกว่าด้วย แถมยังสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการลุ้นรางวัล หลังจากซื้อเสร็จ พวกเขาสามารถไปที่เกสต์เฮาส์ชิงเจียงเพื่อลุ้นการจับรางวัลได้เลย”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “วิธีการที่พี่บอกมามีเหตุผลและก็เป็นทางออกที่ดี”
หลินเจียจวินกล่าวต่ออีกว่า “และฉันยังได้แบ่งลานกิจกรรมของเกสต์เฮาส์ชิงเจียงไว้แล้ว ให้มีพื้นที่แลกรางวัลตรงกลาง โซนขายล็อตเตอรี่อยู่ทางด้านซ้ายและด้านขวา ผู้คนดูน่าจะสนุกสนานกันมาก ถ้าทำแบบนี้ พื้นที่ก็น่าจะกว้างพอที่จะสามารถจุคนได้เยอะขึ้น”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า แม้ว่าจุดขายล็อตเตอรี่จะตั้งขึ้นในร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงทั้ง 30 แห่ง แต่การขายล็อตเตอรี่ที่เกสต์เฮาส์ชิงเจียงนั้นยังคงมีความจำเป็นอยู่
เพราะถ้าหากว่าชนะก็จะสามารถรับรางวัลได้ในทันที และจะยิ่งกระตุ้นให้ผู้ชมกลับมาซื้ออีกครั้งได้
“ได้ พี่จวิน เอาตามแบบแผนของพี่เลย”
หลินเจียจวินกล่าวว่า “ดีเลย ฉันได้แจ้งเยว่กวงโต้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้วด้วย ฉันได้ขอให้เขาติดป้ายโฆษณาไว้หน้าร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงทั้ง 30 แห่ง แล้วก็โฆษณาลงหนังสือพิมพ์ในวันพรุ่งนี้ด้วยว่าร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงจะเป็นที่จำหน่ายตั๋วล็อตเตอรี่”