ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 661 คนเรามักจินตนาการถึงสิ่งสวยงาม
ตอนที่ 661 คนเรามักจินตนาการถึงสิ่งสวยงาม
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และแล้วก็มาถึงวันที่ 12 ธันวาคม
ในตอนเช้าหลังมื้ออาหาร ครอบครัวของเจียงเสี่ยวไป๋ หลินต้าเหว่ยและภรรยาของเขา หลินเจียจวิน หลินเจียหง และครอบครัวของเจียงเสี่ยวเฟิง แต่งตัวออกจากเจียงวานเพื่อเข้าไปในเมืองแต่เช้าตรู่
เนื่องจากมีคนเยอะ เจียงเสี่ยวเฟิงจึงขับรถบรรทุกมินิแวน 130 ส่วนหลินเจียจวินขับรถตู้บรรทุกทุกคนเข้าไปในเมือง
แน่นอนว่าเจียงเสี่ยวไป๋และครอบครัวไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่เข้ามาในเมือง ยังมีชายหญิงและเด็กเกือบทั้งหมดในเจียงวานที่เดินทางเข้ามาในเมืองตั้งแต่เช้าตรู่
ตอนนี้ทุกครัวเรือนในเจียงวานมีทีวีให้ดูทุกบ้าน ทำให้ทุกคนรู้ว่าวันนี้เป็นวันประกาศก่อตั้งเจียงเจียกรุ๊ป อีกทั้งในงานไม่เพียงแต่มีการแสดงโชว์เท่านั้น แต่ยังมีนิทรรศการและการจับรางวัลอีกมากมายให้ร่วมสนุกด้วย
พวกเขาจึงอยากไปร่วมพิธีเปิดบริษัทเพื่อจับรางวัล !
ทำให้ตอนนี้ชาวเจียงวานจำนวนมากบ้างก็ขี่รถจักรยานยนต์ บ้างก็ปั่นรถจักรยานเข้าไปในเมืองเป็นขบวน
“เหล่าเฉิน นายคิดว่านายจะถูกรางวัลด้วยไหม ? ”
หูฉางจวินถามด้วยรอยยิ้มขณะที่เขาขี่ตามเฉินหยวนชางด้วยมอเตอร์ไซค์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่
เฉินหยวนชางกล่าวว่า “แน่นอนสิ ล็อตเตอรี่ราคา 2 เหมา ถ้าฉันถูกรางวัลใหญ่ขึ้นมา ลองคิดดูสิว่าจะคุ้มแค่ไหน ? ”
หูฉางจวินหัวเราะและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ฉันขอให้นายถูกรางวัลใหญ่ละกันนะ ! ”
“เช่นเดียวกัน ฉันก็ขอให้นายถูกรางวัลใหญ่นะ ! ”
“ฉันเตรียมเงินไปซื้อ 200 หยวน รอดูละกันว่าซื้อเยอะขนาดนี้จะไม่ถูกสักรางวัลก็ให้มันรู้ไป เหล่าเฉินล่ะ คิดไว้หรือยังว่าจะซื้อเท่าไหร่ ? ”
“นายซื้ออะไรเยอะแยะขนาดนั้น ! ฉันเตรียมมาแค่ 100 หยวนเท่านั้นแหละ ! ”
“นั่นก็ไม่น้อยนะ”
“ฉันหวังว่าฉันจะถูกสักรางวัลหนึ่ง แต่หากไม่ถูกก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรมันก็คือบัตรกำนัล สามารถนำไปเป็นส่วนลดได้”
“ได้ ไว้ไปลุ้นกันที่งาน ! ”
“ตกลง ! ”
ฉากที่คล้ายกันเกิดขึ้นทุกที่ระหว่างทางจากเจียงวานไปยังเมืองชิงโจว
ไม่เพียงแต่ผู้คนในเจียงวานเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนอีกหลายเมืองที่อยู่ใกล้กับเมืองชิงโจวเดินทางเข้ามาในเมืองเพื่อเข้าร่วมงานเปิดบริษัท
ทว่าคนส่วนใหญ่จากเมืองต่าง ๆ เลือกที่จะเดินเท้ามา
เพราะพวกเขาคิดว่าเงินที่ต้องจ่ายค่าโดยสารนั้นสามารถซื้อล็อตเตอรี่ได้ 2-3 ใบ ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสให้พวกเขาได้เงินรางวัล 10,000 หยวนมากขึ้น
เจียงเสี่ยวไป๋เฝ้าดูฉากนี้ตลอดทาง ซึ่งค่อนข้างชวนให้นึกถึงช่วงเวลาที่จักรพรรดิไท่จงแห่งราชวงศ์ถังใช้ระบบตรวจสอบของจักรพรรดิและเห็นผู้สมัครยื่นคำร้องบนหอคอย โดยกล่าวว่า “วีรบุรุษทุกคนในใต้หล้ากำลังเดินเข้าสู่พระราชวังของข้าแล้ว”
อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างมันอยู่ที่สิ่งที่จักรพรรดิไท่จงแห่งราชวงศ์ถังกำลังพูดคือเขาได้คัดเลือกผู้ที่มีความสามารถทั้งหมดในโลกมา แต่สิ่งที่เจียงเสี่ยวไป๋กำลังทำคือสร้างโอกาสในการถูกแจ็คพอตให้กับทุกคน
วิธีการนั้นอาจแตกต่าง แต่ความสุขนั้นกลับเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
เขาพอใจกับภาพบรรยากาศอันยิ่งใหญ่เช่นนี้
หลินเจียจวินที่กำลังขับรถตู้อยู่ก็ได้แต่ถอนหายใจ เมื่อเห็นผู้คนมากมายกำลังเดินทางเข้าไปในเมือง คนเหล่านี้ต่างมาด้วยความหวัง แต่สุดท้ายเงินเหล่านั้นกลับไปตกอยู่ในมือคนรวย
ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไรถ้าพวกเขารู้ความจริงในเรื่องนี้
แต่ความจริงก็เป็นเช่นนี้ ตราบใดที่คุณถูกกระตุ้นด้วยความปรารถนา คุณก็จะตกลงไปในหลุมพรางที่แสนจะเย้ายวนนั้นด้วยฝีมือของใครบางคน
หลายคนอาจคิดว่าชีวิตนั้นเป็นอิสระ และเราสามารถเลือกชีวิตของตัวเองได้โดยที่คนอื่นไม่สามารถมาบงการ แต่ที่จริงแล้ว พวกเขาไม่รู้ว่าการตัดสินใจหลายอย่างของพวกเขาถูกชักใยโดยใครบางคน คนที่ควบคุมการตัดสินใจของพวกเขาอาจไม่จำเป็นต้องเป็นคนรู้จัก เขาแค่ศึกษาธรรมชาติของมนุษย์ แล้วเหวี่ยงแหที่มองไม่เห็นโยนลงมาใส่เหยื่อที่อ้าปากรออยู่ข้างล่าง ไม่นานแหนั้นก็จะจับผู้คนนับไม่ถ้วนเข้าไป
หลินเจียหงเห็นผู้คนมากมายบนท้องถนนจึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า “เมืองชิงโจวน่าจะเป็นเมืองที่คึกคักที่สุดเเล้วในวันนี้”
หลินเจียจวินยิ้ม “งั้นดีเลย เธอไม่ได้ชอบดูความสนุกเหรอ ? ”
หลินเจียหงถอนหายใจ “ไอ้หยา… ฉันก็ต้องรอดูความสนุกก่อนสิ ? แล้วถึงจะกลับไปที่เจียงเฉิงหลังจากงานเสร็จสิ้น ! ”
หลินเจียจวินสะดุ้งเล็กน้อย เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เขามัวยุ่งอยู่กับการเตรียมล็อตเตอรี่และเกือบจะคิดไปว่าเขาเป็นคนของเมืองชิงโจว แต่เมื่อได้ยินที่หลินเจียหงพูดออกมา เขาก็ตระหนักได้ว่าหลังจากจบกิจกรรมจับรางวัลล็อตเตอรี่แล้ว เขาก็ต้องกลับไปที่เจียงเฉิงเหมือนเดิม
เขายิ้มและพูดว่า “เธอมาที่นี่นานแล้ว ได้เวลากลับแล้ว ตอนบ่ายก็กลับพร้อมพ่อก็ได้ ! ”
หลินเจียหงถามว่า “แล้วพี่ล่ะ ไม่กลับด้วยกันเหรอ ? ”
หลินเจียจวินกล่าวว่า “กว่าล็อตเตอรี่จะออกก็อีกสามวัน อย่างที่ทราบกันดีว่าฉันต้องรับผิดชอบงานนี้ ฉันยังไม่สามารถกลับไปได้จนกว่างานจะจบลง”
หลินเจียหงพยักหน้า “เอาล่ะ ฉันจะกลับไปหาทำเลเปิดร้านสปาก่อนก็แล้วกัน”
หลินเจียเหว่ยก็กล่าวว่า “พรุ่งนี้ฉันก็ว่าจะกลับไปหาที่ว่างทำเลดีในเจี้ยนหยางเหมือนกัน”
พวกเขาเริ่มคุยกันในรถ หลังจากนั้นประมาณ 10 นาทีต่อมา พวกเขาก็มาถึงเมืองชิงโจว รถได้ขับตรงไปที่เกสต์เฮาส์ชิงเจียง
……
ในเมืองชิงโจว วันนี้ผู้คนนับไม่ถ้วนตื่นนอนแต่เช้าตรู่
ท่ามกลางแสงสลัวยามเช้า แต่ละคนกำธนบัตรจำนวนหนึ่งไว้ในมือแน่น สวมเสื้อแขนยาวต้านลมหนาวรีบไปที่ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงสาขาที่ใกล้ที่สุด
ไม่ว่าอากาศจะหนาวแค่ไหนก็ไม่สามารถหยุดความกระตือรือร้นของพวกเขาที่จะลุ้นรางวัลกลายเป็นเศรษฐีรับเงินรางวัล 10,000 หยวนได้
หลายคนคิดว่าตัวเองมาเร็วแล้ว แต่เมื่อพวกเขามาถึงประตูร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงสาขาที่ใกล้ที่สุด พวกเขาก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงคำพูดที่ว่า ‘ต่อให้มาเร็วแค่ไหนก็มีคนมาถึงก่อนอยู่ดี’
“เฮ้ พี่หวัง พี่เพิ่งมาเหรอ ! ”
“นายมาเร็วมากเลยนะ ? ประตูร้านยังไม่เปิดเลย ! ”
“ฉันเพิ่งมาถึงก่อนหน้าพี่แค่แปปเดียวเอง ป้าจางมาเร็วกว่าฉันเสียอีก เธอเป็นคนแรกของแถวเลยนะ ! ”
“ฮ่าฮ่า ไม่ว่าจะทำอะไร เธอก็กระตือรือร้นที่สุดในหมู่บ้านแล้วล่ะ ! ”
“พี่หวัง วันนี้เอาเงินมาซื้อล็อตเตอรี่่กี่ใบ ? ”
“ฉันไม่ได้จะซื้ออะไรมาก เตรียมเงินมาแค่สามหยวนเท่านั้น ! แล้วนายล่ะ ? ”
“ฉันก็เหมือนกัน ซื้อบางส่วนก่อน แล้วค่อยมาดูอีกที ! ”
“ใช่แล้ว ! ”
“มา มาสูบบุหรี่ก่อน อากาศมันหนาว……”
“……”
ที่หน้าร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงทุกแห่ง ผู้คนที่รู้จักกันเข้าคิวรอด้วยความเบื่อหน่าย พวกเขาต่างกำลังพูดคุยกันเพื่อดูว่าจะซื้อล็อตเตอรี่กี่ใบ
แน่นอนว่าผู้คนจำนวนกำลังจินตนาการถึงภาพฝันที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาถูกรางวัลใหญ่
“ถ้าฉันถูกรางวัลใหญ่ ฉันจะซื้อบ้านหลังใหญ่ ! ”
“ส่วนฉันน่ะ ถ้าถูกรางวัลใหญ่ ฉันคงยังไม่ซื้อบ้าน ลูกชายของฉันอยากดูทีวี ฉันว่าจะซื้อทีวีก่อน”
“ที่บ้านผมมีทีวีแล้ว จึงคิดว่าหลังถูกล็อตเตอรี่่จะพาครอบครัวมากินปูผัดเซียงล่า ให้ตายเถอะ ผ่านไปทีไรกลิ่นก็ลอยมาเตะจมูกทุกที แทบจะทนหิวไม่ไหวเลย”
“ฮ่าฮ่าฮ่า……ถ้าฉันถูกล็อตเตอรี่ จะซื้อมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่ามาขับ รับรองว่าคนทั้งโรงงานจะต้องมองฉันด้วยความชื่นชม และน้องหงหงอาจมาขอนั่งซ้อนท้ายก็ได้”
“เพ้อฝัน เลิกเพ้อถึงน้องหงหงได้แล้ว เธอรสนิยมสูงขนาดนั้น ฉันว่าพ่างนิวก็ไม่เลวนะ เธอก้นใหญ่ คลอดลูกง่าย นายแต่งงานกับเธอดีกว่า ! ”
“ถ้าฉันถูกล็อตเตอรี่ ฉันจะซื้อล่าเถียวกล่องใหญ่มาให้ลูกชายเลย เขาชอบกินมาก”
“พวกคุณคิดมากเกินไป ถ้าฉันถูกรางวัลใหญ่ ฉันจะยังไม่เอาไปซื้ออะไรทั้งนั้น เพราะฉันจะนั่งนับเงินอยู่อย่างนั้น นับซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะฉันไม่เคยมีเงินมากขนาดนี้มาก่อน ! ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…ผมก็คิดเหมือนกัน ถ้าถูกล็อตเตอรี่่ ผมจะนั่งนับเงินก่อน แล้วค่อยเอาไปฝากธนาคาร”
“ขอบอกเลยว่าถ้าฉันถูกรางวัล ฉันจะเก็บออมไว้ในธนาคาร เพื่อเอาเงินไปลงทุนเปิดร้านโยวผิ่น ได้ยินมาว่าพวกเขารับสมัครนักลงทุน และฉันยังได้ยินมาว่าใครที่เปิดร้านนี้จะไม่มีการขาดทุนแน่นอน”
“……”