ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 707 ความสุขของเฉินซิน
ตอนที่ 707 ความสุขของเฉินซิน
หลังจากคุยกับหลินต้าเหว่ยทางโทรศัพท์เสร็จแล้ว หลินเจียอินก็พูดว่า “พรุ่งนี้คุณจะไปเจี้ยนหยางอีกแล้วเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้ว่าภรรยาของเขาหมายถึงอะไร จึงพูดด้วยรอยยิ้ม “คราวนี้ผมรู้ว่าคุณไม่อยากไป ผมจะพยายามอย่างเต็มที่ให้ไปกลับภายในหนึ่งวัน”
หลินเจียอินพูดด้วยความประหลาดใจ “กลับมาเร็วแบบนี้ คุณจะไม่สอนพวกเขาทำไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ให้หวังชิ่งซีสอนพวกเขาไป เรื่องนี้เขาเข้าใจดีกว่าผมเสียอีก ผมไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นั่น”
หลินเจียอินพยักหน้ารับ เดิมทีเธอคิดว่าเธอคงได้ไปเจี้ยนหยางสักสองสามวัน แต่เนื่องจากเจียงเสี่ยวไป๋ไปกลับภายในวันเดียว งั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องลำบากนั่งรถไปด้วย
เจียงชานพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นหนูก็จะไม่ไปกับป่าป๊า หม่าม๊ากับหนูจะรอป่าป๊าที่คลับเฮ้าส์ดื่มชาสปาเท้านะคะ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “พรุ่งนี้พ่อจะไม่พาหนูเข้ามาในเมือง ว่างทั้งทีก็อยู่บ้านกับปู่กับย่าบ้างสิ ! ”
เจียงชานคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “งั้นไม่เป็นไร พรุ่งนี้หนูจะอยู่ที่บ้านกับเจียงซือก็ได้ หนูไม่ได้เล่นกับมันมานานแล้ว”
หลินเจียอินไม่คัดค้านอะไร เนื่องจากเธอรู้แล้วว่าตนเองตั้งท้องลูกแฝด หวังซิ่วจวี๋จึงไม่ได้กดดันให้เธอกินผักดองอีกต่อไป เธอจึงกล้าเผชิญหน้ากับพ่อแม่ของสามีได้อย่างสบายใจ
เจียงเสี่ยวไป๋ยกมือขึ้นดูนาฬิกา ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงวันแล้ว เขาจึงพูดว่า “ไปที่ร้านนวดเท้ากันเถอะ วันนี้ผมจะทำอาหารจานใหม่ให้ชิม”
“อ่า ? ”
หลินเจียอินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็ประหลาดใจ “สามี คุณคิดเมนูใหม่อะไรขึ้นมาอีก ? ”
ท้ายที่สุด มันก็เป็นเวลานานแล้วที่เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้คิดค้นเมนูใหม่ให้เธอได้ลอง ดังนั้นเธอจึงแปลกใจเมื่อเขาบอกว่าจะให้ชิมเมนูใหม่
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มกริ่ม “เดี๋ยวคุณก็รู้เองไม่ใช่เหรอ ? ”
ในตอนนั้น เฝิงเยี่ยนหงก็รีบเก็บกระเป๋าของเธอทันที และไปเรียกหวังกังเพื่อจะไปด้วย
เฉินซินมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยสีหน้าคาดหวัง และถามออกมาอย่างแผ่วเบาว่า “ผู้ช่วยเจียง ฉันไปด้วยคนได้ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋คิดอยู่พักหนึ่ง แล้วยิ้มออกมา “เธอเองก็เป็นผู้จัดการในนามของคลับเฮ้าส์เหมือนกัน แต่ยังไม่เคยไปที่นั่นเลยสักครั้ง ในเมื่อเธออยากไปก็ไปด้วยกันสิ ! ”
เฉินซินดีใจมากเมื่อได้ยินประโยคนี้ เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยค่ะ ไม่งั้นก็คงจะเสียดายน่าดูที่ไม่เคยได้ไปเลยสักครั้ง”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ครั้งที่แล้วหวังผิงบอกฉันว่าให้ฉันเตรียมรถตู้ให้เธอ พรุ่งนี้เธอก็ไปหาเฝิงเจียเหอสิ ให้เขาส่งรถตู้มาให้สักคัน”
เฉินซินมีความสุขมากยิ่งขึ้นและพูดอย่างรวดเร็วว่า “ขอบคุณมากค่ะผู้ช่วยเจียง ฉันจะตอบแทนความเมตตาและความไว้วางใจของคุณด้วยการตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดค่ะ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “หากว่าไม่มีอะไรทำ เธอก็ไปที่ร้านนวดเท้าเมื่อไหร่ก็ได้ เมื่อประธานหลินคลอดลูกในปีหน้า เธอคงไม่ได้ทำงานในออฟฟิศที่นี่อีก และมุ่งความสนใจไปที่การพัฒนาคลับเฮาส์ดื่มชาสปาเท้า ฉันแค่อยากให้เธอได้ออกไปดูกิจการอื่นบ้าง”
เฉินซินพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
การติดตามประธานและผู้ช่วยเจียงในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา แม้ว่ามันจะยาก แต่ก็ทำให้เธอได้เรียนรู้อะไรมากมายจริง ๆ เธอคิดมานานแล้วว่าวันหนึ่งเธอจะสามารถทะยานขึ้นไปได้ไกลเมื่อโอกาสมาถึง จนในที่สุด เธอก็รู้สึกว่าการทำงานหนักตลอดหกเดือนที่ผ่านมาช่างคุ้มค่าจริง ๆ
จากนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็ขับรถพาหลายคนไปที่คลับเฮาส์ดื่มชาสปาเท้า
วันนี้หยวนหยวนเป็นคนมาต้อนรับอยู่ที่หน้าประตู เมื่อเธอเห็นหลินเจียอินและคนอื่นเดินเข้ามาในร้าน พวกเธอก็ยืนขึ้นเพื่อทักทายทันที
“สวัสดีท่านประธาน ! ”
“สวัสดีผู้ช่วยเจียง ! ”
“สวัสดีผู้ช่วยเฝิง ! ”
เธอก็รู้จักเฉินซินเช่นกัน เมื่อตอนสมัครงาน เย่กวงโต้วและเฉินซินเป็นคนรับพวกเธอเข้ามา ต่อมาเมื่อเข้าร่วมการฝึกทหาร แม้แต่ครูผู้สอนเหล่านั้นก็ไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งเฉินซิน เธอจึงยิ้มและพูดว่า “ผู้ช่วยเฉิน ครั้งนี้คุณก็มาด้วยเหรอคะ ยินดีต้อนรับค่ะ”
ขณะที่พูด เธอก็โบกมือเบา ๆ ให้เด็กสองคนอย่างเจียงชานและหวังกังเป็นการทักทาย
เจียงเสี่ยวไป๋ชี้ไปที่เฉินซินและพูดกับหยวนหยวน “เธอเป็นผู้จัดการที่นี่ จากนี้ไปที่นี่จะถูกควบคุมโดยเธอ”
หยวนหยวนจึงได้กล่าวทักทายอีกครั้ง “สวัสดีผู้จัดการเฉิน ฉันหยวนหยวนค่ะ คุณจำได้ไหม ? ”
เฉินซินพยักหน้า “ในระหว่างการฝึกทหาร คุณและจางหงหยูเป็นผู้นำหน่วย ฉันจำได้”
หยวนหยวนพูดอย่างมีความสุข “ผู้จัดการเฉินมีความจำที่ดีจริง ๆ ยังคงจำมันได้หลังจากผ่านมานานแล้ว”
เฉินซินยิ้มและพูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ว่า “ผู้ช่วยเจียง ฉันขอเข้าไปเดินดูข้างในก่อนนะคะ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า
เฉินซินมองไปรอบ ๆ สนามหญ้าทันที รวมถึงห้องน้ำชา ทางเดิน ห้องนวด และแม้กระทั่งห้องพักของพนักงานนวดและห้องครัว
เธอมองดูทุกสิ่งที่นี่ และหัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความสุข
ห้องพักของพนักงานนวดมีโต๊ะหลุมไฟสองโต๊ะ หลังจากที่เฉินซินเข้ามา เธอก็ไม่ได้ออกไปทันทีและเริ่มพูดคุยกับพวกเธอ
“ผู้ช่วยเฉิน ไม่เจอกันนานเลยนะคะ ! ”
“เฉินซิน ทำไมวันนี้คุณว่างมาที่นี่ได้ล่ะ ? ”
“ผู้ช่วยเฉิน ที่นี่คนเยอะมาก ค่อนข้างแออัดไปหน่อย อย่าถือสาเลยนะคะ”
“เฉินซิน คุณมาที่นี่กับผู้ช่วยเจียงหรือเปล่า ? ”
“ผู้ช่วยเฉิน คุณอยากลองนวดเท้าไหม ? ฉันจะนวดเท้าให้คุณ ! ”
“ผู้ช่วยเฉิน…”
“……”
หยวนหยวนไม่ได้ติดตามเฉินซินเข้ามา ในห้องพักมีจางหงหยูและพนักงานนวดคนอื่น ๆ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเฉินซินจะมาเป็นผู้จัดการที่นี่ พวกเธอไม่ได้เจอเฉินซินมานานแล้ว แต่ละคนจึงเข้ามาทักทายและถามนู่นถามนี่ไม่หยุด
เฉินซินไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือนเธอเองก็จะยังงงอยู่ แต่ก็เริ่มตอบกลับพนักงานนวดเหล่านั้นทีละคน
ผู้ช่วยเจียงเคยกล่าวไว้ว่าเมื่ออีกฝ่ายไม่รู้สถานะของเรา เราจะได้รู้ถึงสถานการณ์ที่แท้จริง
นี่คืออาณาเขตของเธอ และนับจากนี้เป็นต้นไปพนักงานนวดเหล่านี้จะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอ แน่นอนว่าเธอต้องเข้าใจและควบคุมความคิดและทัศนคติของพวกเธอ
ภายใต้การแนะนำอย่างตั้งใจ พนักงานนวดยังแสดงความคิดภายในใจบางอย่างออกมาด้วย
เช่นตอนนี้ลูกค้าที่ร้านมีน้อย จึงไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำงานหรือได้ฝึกฝนทักษะ ส่วนพนักงานนวดที่ได้รับลูกค้ามากที่สุดก็คือ หยวนหยวน จางหงหยู และเฉินเจีย ในขณะที่คนอื่นไม่ค่อยได้ออกมารับลูกค้าสักเท่าไหร่
เฉินซินแอบเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ในใจ
ข้างนอก หลังจากที่เฉินซินจากไปแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ไปที่เคาเตอร์และโทรหาเมิ่งเสี่ยวเป่ย
อย่างที่บอกเมื่อวาน ว่าเขาจะทำข้าวอบหม้อดิน จึงอยากให้เธอมาลองชิมดูด้วย
เมิ่งเสี่ยวเป่ยมีความสุขมากหลังจากได้รับโทรศัพท์ และบอกว่าเธอจะพาหลี่ฉางโหยวมาด้วย
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋วางสายโทรศัพท์ เขาก็มอบกุญแจรถให้หยวนหยวน และขอให้เธอนำหม้อดินที่หลังรถเข้าไปไว้ในห้องครัว เพื่อให้ป้าจางทำความสะอาดในขณะที่เขาจะชงชารอ
หลินเจียอินไม่เคยเห็นเจียงเสี่ยวไป๋ชงชามาก่อน ส่วนเฝิงเยี่ยนหงเองก็ประหลาดใจหลังจากที่ได้เห็นมัน
“พี่เสี่ยวไป๋ ทักษะการชงชาของพี่มีความซับซ้อนพอ ๆ กันกับของหวังผิง ทั้งที่พี่เพิ่งเรียนรู้มันไปไม่นานนี้เอง ใช่ไหม ? ”
ครั้งที่แล้ว หลินเจียอินเคยถามเจียงเสี่ยวไป๋ว่าเขารู้วิธีชงชามาจากไหน เจียงเสี่ยวไป๋บอกว่าเขาเรียนรู้มาจากโรงน้ำชาในเจียงเฉิง
หลินเจียอินเองก็ไม่ค่อยเข้าใจพิธีการชงชาอะไรพวกนี้มาก่อนเหมือนกัน
แต่เฝิงเยี่ยนหงมักจะดูหวังผิงชงชาอยู่บ่อย ๆ เธอจึงสามารถบอกได้ทันทีว่าเจียงเสี่ยวไป๋มีทักษะการชงชาที่สูงมาก
ใบหน้าของเจียงเสี่ยวไป๋ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “ฉันมีความสามารถเยอะ และฉันก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้เร็ว”
หลินเจียอินอดไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่สามีของเธอ
เฝิงเยี่ยนหงไม่คิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะเป็นคนหลงตัวเองขนาดนี้ แต่ก็เห็นด้วย “หวังผิงยังกล่าวอีกว่าการชงชาต้องใช้พรสวรรค์ เขาบอกว่าพรสวรรค์ของเขาอยู่ในระดับปานกลาง และนำมาทำเป็นงานอดิเรกได้เท่านั้น”
ไม่นาน ชาก็ได้ที่
เจียงเสี่ยวไป๋เทชาลงไปในถ้วย และยื่นให้หลินเจียอิน เฝิงเยี่ยนหง เจียงชาน และหวังกังคนละหนึ่งถ้วย
“อ่า สีของน้ำชาสวยมาก ! ”
หลินเจียอินมองไปที่ชาสีแดงสดในถ้วยชาและอดไม่ได้ที่จะกล่าวชื่นชมออกมา