ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 715 วางแพลนไปเทียนจิง
ตอนที่ 715 วางแพลนไปเทียนจิง
ดวงตาที่ขุ่นมัวของหลินฉางเกิงสั่นไหว เขามองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความขอบคุณ
เมื่อสื่อสารกับผู้คน คุณไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดที่สวยหรู แค่คุณทำให้ผู้อื่นรู้สึกได้ว่าคุณใส่ใจเขาจริง ๆ จากรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ก็เพียงพอแล้ว
“ที่จริงแล้วกระดูกแก่ ๆ อย่างฉันยังแข็งแรงดีอยู่ ! ” หลินฉางเกิงพูดด้วยรอยยิ้ม “ตั๋วเครื่องบินราคาสูง เป็นอะไรที่สิ้นเปลืองมาก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “เหล่าหลิน แค่คุณฟังที่ผมพูดก็พอครับ ! ”
“ตกลง ฉันจะฟังนาย ! ” หลินฉางเกิงพูดด้วยรอยยิ้ม
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเบา ๆ “ครับ ผมบอกในสิ่งที่ควรจะบอกคุณไปแล้ว แล้วทางเทียนจิงได้ส่งคำตอบมาให้คุณหรือยัง ? ”
หลินฉางเกิงพยักหน้า “ฉันเพิ่งได้รับจดหมายเมื่อวานนี้ เพื่อนเก่าของฉันตกลงที่จะขายเรือนสี่ประสานให้นาย แต่มันอยู่ที่เทียนจิง ซึ่งราคาของมันก็ไม่ต่ำเลย”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ราคาไม่ใช่ปัญหาครับ แล้วผมต้องทำอย่างไรบ้าง ? ”
หลินฉางเกิงยิ้ม “ใช่ นายไม่ได้ขาดแคลนเงิน ถ้านายต้องการซื้อ ก็ต้องไปที่เทียนจิงโดยเร็วที่สุด เพราะเขาจะไปต่างประเทศแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมก็จะรีบเตรียมการ เราจะออกเดินทางวันมะรืนนี้ อันดับแรกต้องไปที่เจียงเฉิงก่อน แล้วผมจะขึ้นเครื่องไปที่เทียนจิง”
หลินฉางเกิงกล่าวว่า “ถ้านายไปเจียงเฉิง ก็พาฉันไปกับนายด้วยเลย”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เหล่าหลิน คุณไม่จำเป็นต้องรีบร้อนขนาดนั้นก็ได้ รอหลังวันปีใหม่ก็ไม่สายครับ……”
หลินฉางเกิงโบกมือขัดจังหวะเขา “เมื่อแก่ตัว พวกเขาก็กังวลกับทุกสิ่งทุกอย่าง ยิ่งหนังสือตีพิมพ์ออกมาเร็วเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งรู้สึกสบายใจมากขึ้นเท่านั้น”
เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินที่เขาพูด ก็ยากที่จะโน้มน้าวเขาได้ อย่างไรเสียการขับรถไปเองแล้วพักผ่อนตามทางก็ยังดีกว่านั่งรถบัสทางไกล เขาจึงตกลง
“โอเค ผมจะมาแวะรับคุณ”
หลินฉางเกิงพยักหน้า “งั้นรอสักครู่ ฉันจะเขียนที่อยู่ของเพื่อนในเทียนจิงให้นาย”
ขณะที่เขาพูด เขาก็หยิบปากกาและกระดาษออกมาจากตู้ แล้วรีบเขียนมัน ก่อนจะส่งให้เจียงเสี่ยวไป๋
“สวีโฉ่วเย่ บ้านเลขที่ 178 ถนนหวงเฉิงเกิน”
เจียงเสี่ยวไป๋หยิบมันขึ้นมาและอ่านมันช้า ๆ
หลินฉางเกิงกล่าวว่า “เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนร่วมชั้นและเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน ตอนที่ฉันเรียนที่เทียนจิง อย่างไรก็ตาม ต่อมาเขาได้ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ จนกระทั่งถึงช่วงยุคปฏิวัติ เขาถึงได้ถูกเรียกตัวกลับมา”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ผู้รักชาติและผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ จำนวนมากเลือกที่จะกลับมาประเทศของตนเองเพื่อรับใช้บ้านเกิด อย่างเหล่าเฉียน วีรบุรุษผู้ชำนาญในการทำระเบิดก็กลับมายังประเทศในเวลานั้น
เจียงเสี่ยวไป๋เคารพคนกลุ่มนี้จากก้นบึ้งของหัวใจ
หลังจากคุยกับหลินฉางเกิงได้สักพัก เขาก็พูดว่า “ไปกันเถอะ ผมได้ทำข้าวอบหม้อดินไว้ที่สปาแล้ว ไปกินข้าวด้วยกันแล้วนวดเท้าต่อ พอกินเสร็จผมจะพาคุณมาส่งเอง”
หลินฉางเกิงพูดว่า “ช่างเถอะ ฉันทำเป็นแล้ว ฉันทำข้าวอบหม้อดินบนโต๊ะหลุมไฟมาสองสามครั้งแล้วล่ะ ฉันไม่อยากรบกวนนาย”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “ดูที่คุณพูดสิ ผมเตรียมอาหารให้แล้ว อย่าสุภาพกับผมแล้วไปด้วยกันเถอะนะครับ”
หลินฉางเกิงปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องตามไป
หลังอาหารเย็น เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้ให้หลินฉางเกิงไปนวดเท้าต่อ เขาไม่ได้ไปด้วย แต่ชงชาให้หลินเจียอินและเจียงชานอยู่ข้างนอก
“เมียจ๋า ผมจะไปที่เทียนจิงในอีกสองวันนะ”
หลินเจียอินตกตะลึง “คุณจะไปทำอะไรที่เทียนจิง ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดคุยเกี่ยวกับแผนการของเขาที่จะซื้อเรือนสี่ประสานในเทียนจิง
หลินเจียอินจึงกล่าวว่า “ถ้าคุณต้องการซื้อก็ซื้อเถอะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “ผมไปเทียนจิงในครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไปซื้อบ้านเท่านั้น แต่ยังไปดูตลาด เพื่อหาช่องทางว่าจะขายผักนอกฤดูในเทียนจิงได้อย่างไร”
ทุกวันนี้ผักเรือนกระจกของเจียงวานหลายชนิดพร้อมเก็บเต็มที่แล้ว ซึ่งมันก็ถึงเวลาที่จะต้องหาตลาดได้แล้ว
หลินเจียอินถามว่า “แล้วคุณมีวิธีอย่างไรบ้าง ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ส่ายหัว “ผมยังไม่เคยไปที่เทียนจิงเลย รอไปถึงที่นั่นแล้วค่อยหาตลาด คิดว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไร”
“อ้อ ! ” หลินเจียอินพยักหน้า “ฉันเชื่อว่าคุณจะสามารถหาตลาดได้”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม ภรรยาของเขาเชื่อมั่นในตัวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เธอตั้งท้องลูกและไม่สามารถพาเธอไปที่เทียนจิงกับเขาได้
เจียงชานพูดว่า “ป่าป๊าคะ พาหนูไปที่เทียนจิงด้วยได้ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋แตะหัวเล็ก ๆ ของลูกสาว “ถ้าอยากไปก็ไปได้”
“ว้าว หนูสามารถไปเทียนจิงเพื่อไปดูการเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาที่เทียนเหมินอัน และกำแพงเมืองจีนได้ด้วย ! ” จู่ ๆ เด็กน้อยก็ตะโกนด้วยความตื่นเต้น
เมื่อเห็นลูกสาวของเธอตื่นเต้นแบบนี้ หลินเจียอินก็รู้สึกอิจฉาและพูดว่า “คุณกำลังจะไปเทียนจิงเพื่อหาแหล่งขายผักนอกฤดู พาชานชานไปด้วยแบบนี้จะสะดวกเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ไม่มีอะไรไม่สะดวก”
หลินเจียอินพยักหน้า “แล้วคุณจะไปอย่างไร ขับรถหรือขึ้นรถไป ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ขับรถไปเจียงเฉิงก่อน แล้วจะขึ้นเครื่องบินไปเทียนจิง ! ”
เมื่อเจียงชานได้ยินว่าเธอกำลังจะไปเทียนจิงโดยเครื่องบิน เธอก็กระโดดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ป่าป๊า เราจะขึ้นเครื่องบินไปจริงเหรอคะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “จริงสิ ! ”
ดวงตากลมโตของเจียงชานหรี่ลงพร้อมกับหัวเราะออกมา “หนูยังไม่เคยได้ขึ้นเครื่องบินเลย หนูอยากรู้จริง ๆ ว่ามันจะรู้สึกอย่างไรเวลาที่บินอยู่บนท้องฟ้า”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “เครื่องบินบิน หนูไม่ได้บินด้วยตัวเอง หนูจะรู้สึกเหมือนบินได้อย่างไร มันก็ไม่ต่างกับการนั่งอยู่ในรถนั่นแหละ”
เด็กน้อยพูดว่า “แต่หนูนั่งอยู่บนฟ้านะคะ ! ”
“ดูพูดเข้าสิ ! ” หลินเจียอินอดไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่เจียงชาน เธอไม่เคยนั่งเครื่องบินมาก่อน และคิดว่าเธอจะต้องนั่งเครื่องบินสักครั้งหลังจากที่คลอดลูกแล้ว
“มันต้องสวย มันต้องสวยมากแน่ ๆ ! ” เจียงชานยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะยิ้มในขณะที่เขามองดูภรรยาและลูกสาวของเขาหยอกล้อกัน นี่คือชีวิตที่เขาปรารถนา !
หลังจากดูอยู่สักพัก เขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่บาร์เพื่อโทรหาหลินเจียจวิน
ประมาณเจ็ดหรือแปดนาทีต่อมา การโทรทางไกลก็ถูกเชื่อมต่อ
เมื่อได้ยินว่าคนที่มารับโทรศัพท์คือหลินเจียจวิน เจียงเสี่ยวไป๋ก็พูดออกไปทันที “พี่จวิน ผมเอง เจียงเสี่ยวไป๋ ! ”
“อ่า ฉันไม่ได้โทรหานายนี่ ? ทำไม มีอะไรหรือเปล่า ? ” หลินเจียจวินถามด้วยความประหลาดใจ
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมจะออกเดินทางวันมะรืนนี้ และคงไปถึงเจียงเฉิงในอีกวัน”
หลินเจียจวินรู้สึกขบขัน “เฮ้ ทำไมนายถึงเปลี่ยนใจล่ะ ? ตอนแรกฉันชวนนาย ทำไมนายถึงมาเปลี่ยนใจเอาตอนนี้ ? มีเรื่องอะไรทำให้นายเปลี่ยนใจเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ชายหนุ่มผู้น่าสงสาร ผมจะไปพักที่เจียงเฉิงหนึ่งคืน พี่ช่วยจองตั๋วเครื่องบินไปเทียนจิงให้ผมสองใบได้ไหม ? ”
หลินเจียจวินตกตะลึง “นายกำลังจะไปเทียนจิงหรือ ? ไปกับใคร ? ”
“ผมกับชานชาน ! ”
“อ่า ? นายจะไปกับชานชานเหรอ ? ทำไมนายถึงรีบไปเทียนจิงขนาดนี้ ? ”
“พี่จะถามทำไมเยอะแยะ ? แค่ซื้อตั๋วให้ผมก็พอแล้ว”
“เอาล่ะ โอเค ฉันจะซื้อตั๋วให้นาย นับวันนายก็ยิ่งขี้หงุดหงิดนะ ตอนนี้ถึงขั้นไม่ยอมให้ฉันถามแล้ว” หลินเจียจวินพูดอย่างไม่พอใจ
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “อย่างไรก็ตาม ผมไปเจียงเฉิงในครั้งนี้ เหล่าหลินจะไปกับผมด้วย รบกวนพี่ช่วยเป็นธุระให้เขาเรื่องสำนักพิมพ์ทีนะครับ””
หลินเจียจวินกล่าวว่า “นายนี่ชอบโยนปัญหามาให้ฉันจริง ๆ ตอนแรกนายบอกว่าเขาจะมาหลังวันปีใหม่ ฉันก็นัดกับประธานเจียไว้แล้ว แต่ตอนนี้นายกลับมาเร็วกว่ากำหนด ลืมซะเถอะ ฉันจะคุยกับประธานเจียให้ก็แล้วกัน”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่คิดว่าหลินเจียจวินจะนัดหมายกับประธานเจียเร็วขนาดนี้ จึงพูดขอโทษออกมา “เพราะผมทำให้พี่เดือดร้อน ไว้ตอนเราพบกัน ผมจะเลี้ยงอาหารอร่อยพี่เอง”
เมื่อเขาพูดแบบนี้ออกมา หลินเจียจวินก็มีความสุขทันที “เอาล่ะ พูดแล้วก็อย่าคืนคำแล้วกัน”