ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 656 คำที่คุ้นเคย เจียงเสี่ยวไป๋วางสายโทรศัพท์ ก่อนที่จะเดินกลับไปที่โต๊ะ เขานั่งลงแล้วหันไปพูดกับเมิ่งเสี่ยวเป่ยว่า “นายกเทศมนตรีจางเขาให้ฉันไปหาที่ห้องทำงานของเขา ดูแล้วน่าจะมีเรื่องด่วน งั้นฉันฝากให้คุณหลินดูแลต่อด้วยนะ หากต้องการอะไรเพิ่มเติม คุณก็ช่วยจัดหาให้เขาที” เมิ่งเสี่ยวเป่ยพยักหน้า “ไม่ต้องห่วงผู้ช่วยเจียง ฉันเตรียมทั้งหมดนั้นไว้แล้ว” เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินแบบนั้นก็อธิบายเพิ่มเติมอีกสองสามคำให้หลินเจียจวินฟัง ก่อนที่จะเดินออกไป ก่อนออกเดินทาง เขาก็ไม่ลืมที่จะหยิบ ‘หนังสือพิมพ์ชิงโจว’ ฉบับของวันนี้จากเมิ่งเสี่ยวเป่ยออกไปพลางอ่านโฆษณาในนั้นด้วย เขาคาดว่านายกเทศมนตรีจางคงเรียกเขาไปหาก็เพราะโฆษณาในวันนี้ ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ เขาก็มีเรื่องที่จะคุยกับนายกเทศมนตรีจางอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เมื่อผ่านไปได้สิบนาที เขาก็มาถึงเทศบาลเมือง ทันทีที่เขาเดินไปที่ห้องทำงานของเฉินเซียนจิ้น เขาก็เห็นเจิ้งปิงอี้ ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงสาธารณะนั่งอยู่ด้านใน เขาจึงกล่าวคำทักทายออกมา “สวัสดี ผู้อำนวยการเจิ้ง ! ” โดยปกติแล้วเจิ้งปิงอี้ก็ไม่ได้มีการติดต่ออะไรกับเจียงเสี่ยวไป๋มากนัก เขาเคยพบกันอยู่สองสามครั้ง เขายิ้มออกมาก่อนที่จะพูดว่า “เถ้าแก่เจียง ไม่เจอกันนานเลย ! ” เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “นั่นก็เพราะว่าผู้อำนวยการเจิ้งงานยุ่งยังไงล่ะครับ” เจิ้งปิงอี้หัวเราะ “ไม่ว่าผมจะยุ่งแค่ไหน ผมก็ไม่ได้งานยุ่งเท่าคุณนะเถ้าแก่เจียง ผมดูแลแค่สำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะเท่านั้น แต่ได้ยินมาว่าตอนนี้คุณมีอุตสาหกรรมตั้ง 30 แห่ง ขนาดตอนพวกเราก่อตั้งโรงเรียนสอนขับรถ ได้ยินมาว่าคุณยังไม่ไปร่วมงานด้วยซ้ำ” เมื่อพูดถึงโรงเรียนสอนขับรถ เจิ้งปิงอี้ก็รู้สึกขอบคุณเจียงเสี่ยวไป๋ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อก่อนเรื่องเงินทุนของสำนักงานความมั่นคงสาธารณะนั้นเข้มงวดมาก ทว่าตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนสอนขับรถร่วมกับเจียงเสี่ยวไป๋แล้ว สำนักงานความมั่นคงสาธารณะก็มีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น และปัญหาเงินทุนที่ตึงเครียดมาตลอดก็ได้บรรเทาลงไปอย่างมาก เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ถึงผมจะดูยุ่งขนาดไหน แต่ผมก็เป็นแค่ธุรกิจของผม ผมมักจะยุ่งอยู่กับงานของตัวเองเสมอ แต่กับผู้อำนวยการเจิ้งนั้นแตกต่างออกไป เพราะคุณยุ่งอยู่กับการให้บริการประชาชน ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้” เจิ้งปิงอี้รู้สึกสบายใจที่ได้ยินสิ่งนี้ “งั้นเราหาเวลามาดื่มด้วยกันอีกดีไหม ! ” เจียงเสี่ยวไป๋เห็นด้วย “ได้เลย งั้นผมจะเป็นเจ้าภาพเอง เมื่อถึงเวลานั้นผมจะไปรับคุณเอง ! ” “ได้ งั้นผมจะรอ ! ” เจิ้งปิงอี้กล่าว หลังจากที่ทั้งสองทักทายกันเสร็จแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้พูดต่อ “เลขาเฉิน นายกเทศมนตรีจางเขามีแขกอยู่หรือเปล่า ? ” เฉินเซียนจิ้นกล่าวว่า “ไม่มีแล้ว เขากำลังรอคุณอยู่” “อ้อ” เจียงเสี่ยวไป๋รีบพยักหน้าและหันไปพูดกับเจิ้งปิงอี้ว่า “ผู้อำนวยการเจิ้ง ผมขอตัวก่อนนะ” เจิ้งปิงอี้กล่าวว่า “รีบเข้าไปเถอะ นายกเทศมนตรีจางก็บอกผมเหมือนกันว่าคุณจะมา” หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้อยู่ในใจแล้วว่านายกเทศมนตรีจางเรียกเขามาเพราะเรื่องล็อตเตอรี่แน่นอน เขายิ้มและพูดว่า “บางทีเรื่องที่เขาจะคุยกับผมก็อาจเกี่ยวกับคุณด้วยก็ได้นะ ผู้อำนวยการเจิ้ง” เมื่อพูดเช่นนั้นเสร็จ เขาก็เดินตามเฉินเซียนจิ้นไปยังห้องทำงานของนายกเทศมนตรีจางทันที เจิ้งปิงอี้ยังคงสับสนเล็กน้อยและพึมพำว่า “แล้วเรื่องของคุณมันเกี่ยวข้องกับผมอย่างไร ? ” ในขณะที่เฉินเซียนจิ้นกำลังจะเดินจากไป เขาก็พูดว่า “เถ้าแก่เจียง ตอนนี้รองนายกเทศมนตรีถังเขาก็อยู่ในห้องทำงานของนายกเทศมนตรีจางด้วยนะ” ยิ่งได้ยินแบบนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็มั่นใจยิ่งขึ้นในทันที เขากล่าวขอบคุณ ก่อนที่เฉินเซียนจิ้นจะผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไป “นายกเทศมนตรีจาง เถ้าแก่เจียงมาถึงแล้ว” เจียงเสี่ยวไป๋เดินเข้าไปในห้องและได้เห็นว่าในตอนนี้นายกเทศมนตรีจางและรองนายกเทศมนตรีถังกำลังนั่งอยู่ข้างโต๊ะหลุมไฟ พร้อมกับก้นบุหรี่ที่อยู่เต็มที่เขี่ยบุหรี่ ภายในห้องมีกลิ่นบุหรี่คละคลุ้ง เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนนี้คุยกันมาก่อนหน้านี้นานแล้ว…. “นายกเทศมนตรีจาง ! ” “รองนายกเทศมนตรีถัง ! ” เจียเสี่ยวไป่กล่าวทักทายอย่างสุภาพ “มานั่งสิ ! ” นายกเทศมนตรีจางโบกมืออย่างไม่เป็นทางการ ก่อนที่รองนายกเทศมนตรีถังเองก็จะพยักหน้าตอบรับเจียงเสี่ยวไป๋ด้วย หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋นั่งลง เฉินเซียนจิ้นก็ชงชามาให้เขา ก่อนที่จะเอาที่เขี่ยบุหรี่ไปเปลี่ยนให้และเดินออกไป “ทั้งสองท่านมีเรื่องอะไรที่จะคุยกับผม ? ” เจียงเสี่ยวไป๋ถามอย่างรู้เท่าทัน นายกเทศมนตรีจางหยิบหนังสือพิมพ์ชิงโจวประจำวันนี้ออกมา ก่อนที่จะชี้ไปที่โฆษณาในนั้นแล้วพูดว่า “นี่คือสิ่งที่คุณบอกฉันเกี่ยวกับการหาเงิน 5 ล้านใช่ไหม ? ” เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ใช่ครับ ! ” นายกเทศมนตรีจางมองเขาอย่างครุ่นคิด ก่อนที่จะพูดว่า “ฉันเรียกคุณมาเพื่อที่จะคุยเรื่องอื่น เกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัยที่คุณพูดถึงก่อนหน้านี้ ฉันได้แจ้งให้ผู้นำด้านความมั่นคงสาธารณะ ตำรวจติดอาวุธ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง โรงพยาบาล แม้แต่ธนาคารเพื่อการเกษตรเองก็เหมือนกัน และธนาคารเพื่อการก่อสร้างของจีนให้มาเจอกันเพื่อที่จะประชุมกันแล้ว” เมื่อได้ยินแบบนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็ตกใจเล็กน้อย เขาไม่ได้คาดหวังว่าการเตรียมการของนายกเทศมนตรีจางจะมีรายละเอียดมากจนดึงธนาคารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แถมนอกจากนี้เขาเองก็มีแผนที่จะไปที่ธนาคารเกษตรแห่งประเทศจีนและธนาคารเพื่อการก่อสร้างแห่งประเทศจีนเร็ว ๆ นี้ด้วยเหมือนกัน ท้ายที่สุดแล้ว รางวัลในวันนั้นก็ล้วนเป็นเงินสดมูลค่า 650,000 หยวน แน่นอนว่าเขาจะต้องแจ้งให้ธนาคารทราบล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นธนาคารก็อาจจะไม่มีเงินสดมากขนาดนั้นมาให้เขาเบิกได้ ซึ่งในตอนนี้ เขาก็ไม่ต้องไปที่ธนาคารแล้ว “ผู้นำก็คือผู้นำ คุณพิจารณาทุกอย่างอย่างรอบคอบแล้ว ขอบคุณมาก ! ” เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและก้มหัวขอบคุณให้กับทั้งนายกเทศมนตรีจางและรองนายกเทศมนตรีถัง นายกเทศมนตรีจางหยิบบุหรี่ขึ้นมา ก่อนที่จะหยิบไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งออกมาจุด ถังจิงเทียนรู้มานานแล้วว่านายกเทศมนตรีจางมีไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้ง และเขาก็รู้ด้วยว่าเจียงเสี่ยวไป๋เป็นคนที่มอบมันให้กับเขา เมื่อเห็นแบบนั้น เขาก็เอาบุหรี่ขึ้นมา ก่อนที่จะพูดออกมาอย่างสบายใจว่า “อ่า นายกเทศมนตรีจาง ของดีแบบนี้นี่มันจุดบุหรี่ได้สะดวกมาก ! ” เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะมุ่ยหน้าลงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ หากลูกสาวของเขาอยู่ที่นี่ เธอก็คงจะพูดออกมาเหมือนกันว่าเขานั้นแสแสร้งมาก ! ที่เขี่ยบุหรี่เต็มไปด้วยก้นบุหรี่จนเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ารองนายกเทศมนตรีถังไม่เคยใช้ไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งของนายกเทศมนตรีจาง เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจที่จะพูดแบบนี้ต่อหน้าเขา เพื่อที่อยากจะให้เขามอบมันให้ด้วยเหมือนกัน เขาหยิบไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งออกมาอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่จะยื่นให้ถังจิงเทียนแล้วพูดว่า “รองนายกเทศมนตรีถัง ถ้าคุณอยากได้ก็พูดออกมาตามตรงเลยก็ได้ ไม่เห็นจะต้องอ้อมค้อมเลย ? ” ถังจิงเทียนหยิบไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะจุดไฟออกมา “กริ๊ก” จุดบุหรี่ของเขาพร้อมกับมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋แล้วพูดว่า “คุณต้องการที่จะพูดอะไรกัน” ขณะที่เขาพูดอยู่นั้น มือข้างหนึ่งของเขาก็แตะโต๊ะหลุมไฟเบา ๆ จึงทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมา “ปัง ปัง ปัง” เป็นจังหวะ เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เมื่อรู้ว่าที่จริงแล้วสิ่งที่รองนายกเทศมนตรีถังจิงเทียนพูดถึงนั้นไม่ใช่ไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้ง แต่เป็นโต๊ะหลุมไฟต่างหาก “รองนายกเทศมนตรีถัง โต๊ะหลุมไฟจะถูกส่งถึงคุณภายในไม่กี่วัน ที่มันนานก็เพราะว่ามันไม่ได้ถูกผลิตในชิงโจว แต่ต้องเดินทางมาจากถู่เฉิง” เจียงเสี่ยวไป๋พูดได้เพียงเท่านั้น ถังจิงเทียนยิ้ม “ไม่เป็นไร ฉันจะขอให้เจิงเสี่ยวเหว่ยไปที่โรงงานเครื่องปรุงรสทีหลัง ที่นั่นยังมีอีกตัวไม่ใช่หรือ ? ” “ต่อให้เป็นของที่ใช้แล้ว ฉันก็ไม่มีปัญหา ! ” เจียงเสี่ยวไป๋อ้าปากค้าง แล้วมองนายกเทศมนตรีจางด้วยความโกรธ คำเหล่านี้เหมือนเขาเคยได้ยินมาก่อน แน่นอนว่าเป็นนายกเทศมนตรีจางที่พูดแบบนี้กับรองนายกเทศมนตรีถัง !
- Home
- ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
- ตอนที่ 656 คำที่คุ้นเคย เจียงเสี่ยวไป๋วางสายโทรศัพท์ ก่อนที่จะเดินกลับไปที่โต๊ะ เขานั่งลงแล้วหันไปพูดกับเมิ่งเสี่ยวเป่ยว่า “นายกเทศมนตรีจางเขาให้ฉันไปหาที่ห้องทำงานของเขา ดูแล้วน่าจะมีเรื่องด่วน งั้นฉันฝากให้คุณหลินดูแลต่อด้วยนะ หากต้องการอะไรเพิ่มเติม คุณก็ช่วยจัดหาให้เขาที” เมิ่งเสี่ยวเป่ยพยักหน้า “ไม่ต้องห่วงผู้ช่วยเจียง ฉันเตรียมทั้งหมดนั้นไว้แล้ว” เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินแบบนั้นก็อธิบายเพิ่มเติมอีกสองสามคำให้หลินเจียจวินฟัง ก่อนที่จะเดินออกไป ก่อนออกเดินทาง เขาก็ไม่ลืมที่จะหยิบ ‘หนังสือพิมพ์ชิงโจว’ ฉบับของวันนี้จากเมิ่งเสี่ยวเป่ยออกไปพลางอ่านโฆษณาในนั้นด้วย เขาคาดว่านายกเทศมนตรีจางคงเรียกเขาไปหาก็เพราะโฆษณาในวันนี้ ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ เขาก็มีเรื่องที่จะคุยกับนายกเทศมนตรีจางอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เมื่อผ่านไปได้สิบนาที เขาก็มาถึงเทศบาลเมือง ทันทีที่เขาเดินไปที่ห้องทำงานของเฉินเซียนจิ้น เขาก็เห็นเจิ้งปิงอี้ ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงสาธารณะนั่งอยู่ด้านใน เขาจึงกล่าวคำทักทายออกมา “สวัสดี ผู้อำนวยการเจิ้ง ! ” โดยปกติแล้วเจิ้งปิงอี้ก็ไม่ได้มีการติดต่ออะไรกับเจียงเสี่ยวไป๋มากนัก เขาเคยพบกันอยู่สองสามครั้ง เขายิ้มออกมาก่อนที่จะพูดว่า “เถ้าแก่เจียง ไม่เจอกันนานเลย ! ” เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “นั่นก็เพราะว่าผู้อำนวยการเจิ้งงานยุ่งยังไงล่ะครับ” เจิ้งปิงอี้หัวเราะ “ไม่ว่าผมจะยุ่งแค่ไหน ผมก็ไม่ได้งานยุ่งเท่าคุณนะเถ้าแก่เจียง ผมดูแลแค่สำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะเท่านั้น แต่ได้ยินมาว่าตอนนี้คุณมีอุตสาหกรรมตั้ง 30 แห่ง ขนาดตอนพวกเราก่อตั้งโรงเรียนสอนขับรถ ได้ยินมาว่าคุณยังไม่ไปร่วมงานด้วยซ้ำ” เมื่อพูดถึงโรงเรียนสอนขับรถ เจิ้งปิงอี้ก็รู้สึกขอบคุณเจียงเสี่ยวไป๋ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อก่อนเรื่องเงินทุนของสำนักงานความมั่นคงสาธารณะนั้นเข้มงวดมาก ทว่าตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนสอนขับรถร่วมกับเจียงเสี่ยวไป๋แล้ว สำนักงานความมั่นคงสาธารณะก็มีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น และปัญหาเงินทุนที่ตึงเครียดมาตลอดก็ได้บรรเทาลงไปอย่างมาก เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ถึงผมจะดูยุ่งขนาดไหน แต่ผมก็เป็นแค่ธุรกิจของผม ผมมักจะยุ่งอยู่กับงานของตัวเองเสมอ แต่กับผู้อำนวยการเจิ้งนั้นแตกต่างออกไป เพราะคุณยุ่งอยู่กับการให้บริการประชาชน ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้” เจิ้งปิงอี้รู้สึกสบายใจที่ได้ยินสิ่งนี้ “งั้นเราหาเวลามาดื่มด้วยกันอีกดีไหม ! ” เจียงเสี่ยวไป๋เห็นด้วย “ได้เลย งั้นผมจะเป็นเจ้าภาพเอง เมื่อถึงเวลานั้นผมจะไปรับคุณเอง ! ” “ได้ งั้นผมจะรอ ! ” เจิ้งปิงอี้กล่าว หลังจากที่ทั้งสองทักทายกันเสร็จแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้พูดต่อ “เลขาเฉิน นายกเทศมนตรีจางเขามีแขกอยู่หรือเปล่า ? ” เฉินเซียนจิ้นกล่าวว่า “ไม่มีแล้ว เขากำลังรอคุณอยู่” “อ้อ” เจียงเสี่ยวไป๋รีบพยักหน้าและหันไปพูดกับเจิ้งปิงอี้ว่า “ผู้อำนวยการเจิ้ง ผมขอตัวก่อนนะ” เจิ้งปิงอี้กล่าวว่า “รีบเข้าไปเถอะ นายกเทศมนตรีจางก็บอกผมเหมือนกันว่าคุณจะมา” หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้อยู่ในใจแล้วว่านายกเทศมนตรีจางเรียกเขามาเพราะเรื่องล็อตเตอรี่แน่นอน เขายิ้มและพูดว่า “บางทีเรื่องที่เขาจะคุยกับผมก็อาจเกี่ยวกับคุณด้วยก็ได้นะ ผู้อำนวยการเจิ้ง” เมื่อพูดเช่นนั้นเสร็จ เขาก็เดินตามเฉินเซียนจิ้นไปยังห้องทำงานของนายกเทศมนตรีจางทันที เจิ้งปิงอี้ยังคงสับสนเล็กน้อยและพึมพำว่า “แล้วเรื่องของคุณมันเกี่ยวข้องกับผมอย่างไร ? ” ในขณะที่เฉินเซียนจิ้นกำลังจะเดินจากไป เขาก็พูดว่า “เถ้าแก่เจียง ตอนนี้รองนายกเทศมนตรีถังเขาก็อยู่ในห้องทำงานของนายกเทศมนตรีจางด้วยนะ” ยิ่งได้ยินแบบนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็มั่นใจยิ่งขึ้นในทันที เขากล่าวขอบคุณ ก่อนที่เฉินเซียนจิ้นจะผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไป “นายกเทศมนตรีจาง เถ้าแก่เจียงมาถึงแล้ว” เจียงเสี่ยวไป๋เดินเข้าไปในห้องและได้เห็นว่าในตอนนี้นายกเทศมนตรีจางและรองนายกเทศมนตรีถังกำลังนั่งอยู่ข้างโต๊ะหลุมไฟ พร้อมกับก้นบุหรี่ที่อยู่เต็มที่เขี่ยบุหรี่ ภายในห้องมีกลิ่นบุหรี่คละคลุ้ง เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนนี้คุยกันมาก่อนหน้านี้นานแล้ว…. “นายกเทศมนตรีจาง ! ” “รองนายกเทศมนตรีถัง ! ” เจียเสี่ยวไป่กล่าวทักทายอย่างสุภาพ “มานั่งสิ ! ” นายกเทศมนตรีจางโบกมืออย่างไม่เป็นทางการ ก่อนที่รองนายกเทศมนตรีถังเองก็จะพยักหน้าตอบรับเจียงเสี่ยวไป๋ด้วย หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋นั่งลง เฉินเซียนจิ้นก็ชงชามาให้เขา ก่อนที่จะเอาที่เขี่ยบุหรี่ไปเปลี่ยนให้และเดินออกไป “ทั้งสองท่านมีเรื่องอะไรที่จะคุยกับผม ? ” เจียงเสี่ยวไป๋ถามอย่างรู้เท่าทัน นายกเทศมนตรีจางหยิบหนังสือพิมพ์ชิงโจวประจำวันนี้ออกมา ก่อนที่จะชี้ไปที่โฆษณาในนั้นแล้วพูดว่า “นี่คือสิ่งที่คุณบอกฉันเกี่ยวกับการหาเงิน 5 ล้านใช่ไหม ? ” เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ใช่ครับ ! ” นายกเทศมนตรีจางมองเขาอย่างครุ่นคิด ก่อนที่จะพูดว่า “ฉันเรียกคุณมาเพื่อที่จะคุยเรื่องอื่น เกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัยที่คุณพูดถึงก่อนหน้านี้ ฉันได้แจ้งให้ผู้นำด้านความมั่นคงสาธารณะ ตำรวจติดอาวุธ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง โรงพยาบาล แม้แต่ธนาคารเพื่อการเกษตรเองก็เหมือนกัน และธนาคารเพื่อการก่อสร้างของจีนให้มาเจอกันเพื่อที่จะประชุมกันแล้ว” เมื่อได้ยินแบบนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็ตกใจเล็กน้อย เขาไม่ได้คาดหวังว่าการเตรียมการของนายกเทศมนตรีจางจะมีรายละเอียดมากจนดึงธนาคารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แถมนอกจากนี้เขาเองก็มีแผนที่จะไปที่ธนาคารเกษตรแห่งประเทศจีนและธนาคารเพื่อการก่อสร้างแห่งประเทศจีนเร็ว ๆ นี้ด้วยเหมือนกัน ท้ายที่สุดแล้ว รางวัลในวันนั้นก็ล้วนเป็นเงินสดมูลค่า 650,000 หยวน แน่นอนว่าเขาจะต้องแจ้งให้ธนาคารทราบล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นธนาคารก็อาจจะไม่มีเงินสดมากขนาดนั้นมาให้เขาเบิกได้ ซึ่งในตอนนี้ เขาก็ไม่ต้องไปที่ธนาคารแล้ว “ผู้นำก็คือผู้นำ คุณพิจารณาทุกอย่างอย่างรอบคอบแล้ว ขอบคุณมาก ! ” เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและก้มหัวขอบคุณให้กับทั้งนายกเทศมนตรีจางและรองนายกเทศมนตรีถัง นายกเทศมนตรีจางหยิบบุหรี่ขึ้นมา ก่อนที่จะหยิบไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งออกมาจุด ถังจิงเทียนรู้มานานแล้วว่านายกเทศมนตรีจางมีไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้ง และเขาก็รู้ด้วยว่าเจียงเสี่ยวไป๋เป็นคนที่มอบมันให้กับเขา เมื่อเห็นแบบนั้น เขาก็เอาบุหรี่ขึ้นมา ก่อนที่จะพูดออกมาอย่างสบายใจว่า “อ่า นายกเทศมนตรีจาง ของดีแบบนี้นี่มันจุดบุหรี่ได้สะดวกมาก ! ” เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะมุ่ยหน้าลงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ หากลูกสาวของเขาอยู่ที่นี่ เธอก็คงจะพูดออกมาเหมือนกันว่าเขานั้นแสแสร้งมาก ! ที่เขี่ยบุหรี่เต็มไปด้วยก้นบุหรี่จนเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ารองนายกเทศมนตรีถังไม่เคยใช้ไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งของนายกเทศมนตรีจาง เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจที่จะพูดแบบนี้ต่อหน้าเขา เพื่อที่อยากจะให้เขามอบมันให้ด้วยเหมือนกัน เขาหยิบไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งออกมาอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่จะยื่นให้ถังจิงเทียนแล้วพูดว่า “รองนายกเทศมนตรีถัง ถ้าคุณอยากได้ก็พูดออกมาตามตรงเลยก็ได้ ไม่เห็นจะต้องอ้อมค้อมเลย ? ” ถังจิงเทียนหยิบไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะจุดไฟออกมา “กริ๊ก” จุดบุหรี่ของเขาพร้อมกับมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋แล้วพูดว่า “คุณต้องการที่จะพูดอะไรกัน” ขณะที่เขาพูดอยู่นั้น มือข้างหนึ่งของเขาก็แตะโต๊ะหลุมไฟเบา ๆ จึงทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมา “ปัง ปัง ปัง” เป็นจังหวะ เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เมื่อรู้ว่าที่จริงแล้วสิ่งที่รองนายกเทศมนตรีถังจิงเทียนพูดถึงนั้นไม่ใช่ไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้ง แต่เป็นโต๊ะหลุมไฟต่างหาก “รองนายกเทศมนตรีถัง โต๊ะหลุมไฟจะถูกส่งถึงคุณภายในไม่กี่วัน ที่มันนานก็เพราะว่ามันไม่ได้ถูกผลิตในชิงโจว แต่ต้องเดินทางมาจากถู่เฉิง” เจียงเสี่ยวไป๋พูดได้เพียงเท่านั้น ถังจิงเทียนยิ้ม “ไม่เป็นไร ฉันจะขอให้เจิงเสี่ยวเหว่ยไปที่โรงงานเครื่องปรุงรสทีหลัง ที่นั่นยังมีอีกตัวไม่ใช่หรือ ? ” “ต่อให้เป็นของที่ใช้แล้ว ฉันก็ไม่มีปัญหา ! ” เจียงเสี่ยวไป๋อ้าปากค้าง แล้วมองนายกเทศมนตรีจางด้วยความโกรธ คำเหล่านี้เหมือนเขาเคยได้ยินมาก่อน แน่นอนว่าเป็นนายกเทศมนตรีจางที่พูดแบบนี้กับรองนายกเทศมนตรีถัง !
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5729
คุณยายอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เฉินเอ๋อ ดื่มเหล้าแล้วอย่าขับรถเองเลย ให้น้าชายรองขับไปส่งเถอะนะ”
เย่เฉินยิ้มและพูดว่า “คุณยายครับไม่ต้องเป็นห่วง แอลกอฮอล์ถูกพลังภายในของผมเผาผลาญไปหมดแล้ว ผมจะไม่ขับรถตอนเมาแน่นอน”
หลังจากพูดจบ เย่เฉินก็เอ่ยต่อไปว่า “คุณตา คุณยายครับ เรื่องค่ายกลของโฮมสเตย์ว่านหลิ่ว เดี๋ยวผมจะเอายาอายุวัฒนะมาให้ที่นี่ ถ้าพวกท่านสองคนอาศัยอยู่ในจินหลิงอีกระยะหนึ่ง สภาพร่างกายของคุณจะดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน”
คุณยายพูดขึ้นโดยไม่รู้ตัวว่า “เฉินเอ๋อ อย่าเอายาอายุวัฒนะมาให้เราเลย เสียเวลาเปล่า……”
ชายชราที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าทุกอย่างให้เฉินเอ๋อจัดการ อย่าขัดคำสั่งผมได้ไหม”
สำหรับอานฉี่ซานนั้นเขาได้กินยาอายุวัฒนะไปแล้วทั้งเม็ด ดังนั้นค่ายกลจึงไม่ได้สำคัญสำหรับเขามากนัก แต่สิ่งที่เขายืนกรานที่จะทำคือตรรกะพื้นฐาน เมื่อบอกไปแล้วว่าจะทำตามการตัดสินใจของเย่เฉิน ดังนั้นไม่ว่าเย่เฉินจะตัดสินใจอย่างไร ดีหรือไม่ดีก็ควรทำตาม
ความคิดของหญิงชรานั้นเรียบง่าย เธอรู้สึกละอายใจเล็กน้อย แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่ชายชราพูดจึงได้รู้ว่าตนเองมองมุมแคบเกินไป เธอพยักหน้าอย่างรวดเร็วพูดว่า “เฉินเอ๋อ ตาของหลานพูดถูก จากนี้ไปเราจะฟังความคิดเห็นของหลาน หลานเพียงตัดสินใจแทนเราก็พอ”
เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยและพูดขึ้นอีกครั้งว่า “ครับคุณยาย ตอนนี้อาจารย์หงอยู่ในโรงแรมน้ำพุร้อนที่เชิงเขาเพื่อฝึกฝนผม คุณยายกับและเขาถือว่ารู้จักกัน พรุ่งนี้ผมจะให้เขาเดินทางมาเยี่ยมนะครับ จากนี้ไปถ้ามีอะไรก็ให้เขามาจัดการได้ทุกอย่างที่ต้องการ”
หญิงชราอุทานออกมาว่า “อาจารย์หงอยู่ที่นี่จริงหรือ?”
“ครับ” เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม “เขาต้องการอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน ไล่ก็ไม่ไป ผมเลยให้เขามาเป็นผู้ฝึกผมแทน”
หลังจากพูดจบ เย่เฉินก็ยืนขึ้นแล้วพูดอย่างสุภาพว่า “คุณตา คุณยาย คุณอา คุณน้าแล้วก็นักสืบหลี่ นี่ก็ดึกแล้ว ผมต้องรีบไปหาเพื่อน ขอตัวก่อนนะครับ!”
อานฉี่ซานรีบพูดว่า “เฉินเอ๋อ เราจะไปส่งที่ประตู”
ทุกคนพากันลุกขึ้นเดินไปส่งเย่เฉินพร้อมกับอานฉี่ซาน
เย่เฉินเปิดประตูรถ BMW ก่อนที่จะขึ้นรถเขาพูดกับทุกคนว่า “ดึกมากแล้วครับ คุณตาคุณยายรีบไปพักผ่อนเถอะครับ”
คุณยายรีบถามเขาว่า “เฉินเอ๋อ พรุ่งนี้จะมาอีกใช่ไหม?”
“ครับ” เย่เฉินพยักหน้า “พรุ่งนี้ผมจะไปที่โฮมสเตย์ว่านหลิ่วก่อน ปลดค่ายกลที่นั่นแล้วจะเดินทางมาหาครับ”
คุณยายรีบพูดแก้ประโยคของเขาว่า “ไม่ใช่มาเยี่ยม แต่เป็นกลับบ้านต่างหาก! จากนี้ไปที่ที่ตากับยายอยู่ก็คือบ้านของหลาน! พรุ่งนี้ตอนมาบอกยายล่วงหน้าด้วยนะ ยายจะทำอาหารโปรดตอนยังเด็กเอาไว้ให้ !”
เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ครับคุณยาย แล้วผมจะกลับมาทานอาหารเย็นในคืนพรุ่งนี้”
“ได้สิ!” คุณยายยิ้มอย่างพอใจแล้วพูดว่า “ไปทำธุระเถอะหลานชาย”
เย่เฉินอำลาทุกคน จากนั้นสตาร์ทรถออกจากช็องเซลีเซียนสปาวิลล่าไป
ระหว่างทางที่เขาขับรถไปโฮมสเตย์จื่อจิน เขาได้โทรหาหลินหว่านเอ๋อร์
ทันทีที่รับสาย หลินหว่านเอ๋อร์ก็ถามเขาด้วยน้ำเสียงมีความสุขว่า “คุณชายคะ ทำงานเสร็จแล้วเหรอ?”
เย่เฉินตอบรับเบา ๆ เพลงแล้วพูดว่า “คุณหลิน ผมกำลังขับรถไปหาคุณตอนนี้ น่าจะไปถึงที่นั่นในอีกประมาณ 30 นาที ดึกไปหน่อยไม่รู้ว่าคุณหลินจะสะดวกไหม?”
หลินหว่านเอ๋อร์พูดโดยไม่ต้องคิดว่า “ฉันรอคุณชายได้เสมอค่ะ คุณชายแค่เดินทางมาก็พอ ฉันให้เหล่าชิวจัดแจงเรื่องคนรับใช้เรียบร้อยแล้ว พวกเขาทั้งสามคนก็กำลังรอคุณชายอยู่”
“อืม!” เย่เฉินพูดขึ้นอีกครั้งว่า “อ้อคุณหลิน ผมมีเรื่องบางอย่างอยากจะถามคุณตามลำพัง คุณให้เวลาผมอยู่กับคุณสองคนสักครู่ก่อนได้ไหม? เมื่อผมถามเสร็จแล้วค่อยสนทนากับพวกเขาทั้งสาม”
หลินหว่านเอ๋อร์พูดว่า “ได้แน่นอนค่ะ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันจะขอให้พวกเขารอก่อน ถ้าคุณชายมาถึงแล้วให้ตรงไปที่เรือนแยกของฉันได้เลย!”