ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2697
บทที่ 2697
เฉินจี๋อข่ายยิ้มพูดว่า:”คุณเซียว ได้ยินมาว่าตอนนี้คุณเป็นรองประธานบริหารของสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดเหรอครับ?”
เซียวฉางควนยิ้มอย่างเขินอาย และพูดว่า”มันเป็นแค่งานลวง ไม่มีค่าที่จะพูดถึง ไม่มีค่าที่พูดถึง.
เฉินจี๋อข่ายจริงจัง”สามารถนั่งในตำแหน่งนี้ได้ก็สุดยอดมากแล้ว คุณเซียวไม่จำเป็นต้องถ่อมตัว”
จากนั้นเขาก็พูดว่า:”ในเมื่อคุณเซียวเป็นรองประธานบริหารของสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด งั้นเรื่องนี้เป็นธุรกิจของผมเอง ปกติแล้ว
ผมไม่มีทางเก็บเงินสำหรับธุรกิจของตัวเองอยู่แล้ว เองี้เดี๋ยวคุณเซียวบอกรายละเอียดและเวลากับผม ผมจะให้คนเตรียมสถานที่ ให้สมาคมการ
เขียนพู่กันจีนและภาพวาดใช้ฟรี”
เซียวฉางควนพูดด้วยความประหลาดใจ:”ผู้จัดกรทั่วไปเฉิน คุณช่วยเราได้มากจริงๆ…… พูดตามตรง ช่วงนี้การเงินสมาคมเขียนพู่กันจีนและ
ภาพวาดของเราค่อนข้างลำบาก และค่าใช้จ่ายนี้ก็ถูกบีบไว้ตลอด.
เฉินจื่อข่ายหยิบนามบัตรออกมาโดยตรง ให้เซียวชูน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า:”อไป หากสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดต้องการ
สถานที่ หรือแม้แต่การสนับสนุนสำหรับกิจกรรมต่างๆๆ คุณเซียวสามารถติดต่อผมได้โดยตรง”
“โอ้ ขอบคุณมาก!” เซียวฉางควนรู้สึกปลื้มปีติและขอบคุณเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทันใดนั้น เฉินจิ๋อข่ายดูเวลา และพูดว่า”เอ๊ะ จริงสิ อาจารย์เย่ ผมยังมีธุระต้องทำ ดังนั้นผมจะไม่รบกวนมากเกินไป”
เย่เฉินพยักหน้าและยิ้ม:”งั้นฉันไปส่งเอง”
หม่าหลั่นพูดด้วยท่าทางประจบสอพลอ:”โอ้ ผู้จัดการทั่วไปเฉิน ครั้งนี้ถือว่าคุณรู้จักบ้านแล้ว ต่อไปต้องมาบ่อยๆนะ!”
เฉินจื่อข่ายรีบพูดอย่างสุภาพ:”ครับๆ อาจารย์เย่ คุณผู้หญิงหม่า ส่งแค่นี้ก็พอแล้วครับ ผมไปเองก็ได้”
เย่เฉินก็ไม่เกรงใจ ยิ้มพูด:”งั้นฉันจะไม่ไปส่งคุณแล้ว”
ทันทีที่เฉินจี๋อข่ายไป หม่าหลันก็พูดกับเย่เฉินอย่างอดไม่ไหว:”ลูกเขย รีบเอาบัตร VIP ให้แม่ดูหน่อยสิ?”
เย่เฉินยื่นซองจดหมายให้เธอไป
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com
หม่าหลันเปิดมันด้วยความตื่นเต้น ทันทีที่เธอเปิดมัน เธอก็เต้นด้วยความตื่นเต้น เย่เฉินส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ดูเหมือนคงจะหยุดที่กำไรเล็กๆ
แค่นี้แหละ
ตอนดึก.
ซูจือหยูคุยกับครอบครัวอย่างดีใจจนดึกดื่น ก่อนจะกลับห้องเพื่อเตรียมพักผ่อน
ทันทีที่เธอล้มตัวลงนอน ในหัวของเธอปรากฎสายตาของเย่เฉินอย่างช่วยไม่ได้ได้ เมื่อเธอคิดถึงเย่เฉิน หัวใจของเด็กสาวก็ล้นออกมาอย่าง
รวดเร็ว เต็มไปด้วยความเขินอายของเด็กสาว และจินตนาการกับความคาดหวังในอนาคต
แม้ว่าเย่เฉินจะมีความสัมพันธ์มากมายกับครอบครัวของเธอ และแม้ว่าสถานการณ์ของเย่เฉินเองก็พิเศษมากเช่นกัน ซูจือหยูยังคงไม่ท้อถอย
เพราะสำหรับเธอแล้ว เธอได้พบกับเย่เฉิน ก็สำเร็จมาครึ่งทางแล้ว
ไม่ว่ายังไง นี่คือสิ่งที่ดี
แต่ว่า หากอยากประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ อาจมีหนทางอีกยาวไกล
แต่ว่า ยาวไม่สำคัญ
ซูจือหยูรู้สึกว่าตัวเองค่อยๆรอได้ หรือค่อยๆพยายาม
ในตอนที่เธอสติหลุดลอย จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
เธอถามโดยไม่รู้ตัว:”ใครคะ?”
เสียงของซูจือเฟยดังขึ้น”จือหยู พี่เอง”
“พี่?”ซูจือหยูรีบพูด:”พี่รอสักครู่นะ”
พูดจบ เธอรีบลุกขึ้นและสวมชุดคลุม แล้วเปิดประตูห้อง
เธอมองซูจือเฟยที่นอกประตู และถามด้วยความสงสัย:”พี่ ดึกๆมีอะไรเหรอ?”
ซูจือเฟยมองไปรอบๆ และจงใจลดเสียงลงแล้วถามว่า”จือหยู สะดวกใพี่เข้าไปคุยไหม?”
“สะดวกสิ”ซูจือหยูพยักหน้า คิดว่าพี่ชายเป็นห่วงตัวเอง ด้งนั้นเลยมีอะไรจะพูดกับตัวเอง จึงรีบเขยิบที่ให้ และเชิญซ งจือเฟยเข้ามา
เธอไม่รู้ว่าในช่วงเวลาที่เธอได้รับการช่วยเหลือจากเย่เฉิน พี่ชายของเธอนั้น เปลี่ยนแปลงอย่างมหัศจรรย์แล้ว……