ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2804
ในเวลานี้ซวนเฟิงเหนียนใบหน้าเยือกเย็น
เขารู้ วัยรุ่นโง่ๆที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ อีกเดี๋ยวก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิตแล้ว
เพราะว่า ไม่มีใครสามารถขวางกั้นหนอนกู่ดวงชะตาของตัวเองได้!
อย่ามองว่าหนอนใหญ่ตัวนี้ทั้งขาวทั้งอ้วนนะ แต่ความเป็นจริงร่างกายของมันแข็งแกร่งกว่าเหล็กอีก เรียกได้ว่าอยู่ยงคงกระพัน!
และพละกำลังในการกัดของมัน โหดเหี้ยมมากกว่าเสือผู้ใหญ่เยอะ!
ซวนเฟิงเหนียนเคยใช้หนอนกู่ดวงชะตาของตัวเองฆ่านินจาญี่ปุ่น ดาบนินจาที่แหลมคมอย่างมากของนินจาญี่ปุ่นสับลงไปยังลำตัวของหนอนกู่ดวงชะตา ทันใดนั้นก็แตกสลายกลายเป็นแผ่นเหล็กอย่างผิดปกติ
ก็มีคนเคยใช้ไฟมาต่อต้านหนอนกู่ดวงชะตาของเขา แต่ว่าเปลวไฟที่มากกว่าหนึ่งพันองศา ก็ไม่สามารถทำร้ายหนอนกู่ดวงชะตาได้แม้แต่น้อย
เพราะงั้น ในใจของซวนเฟิงเหนียนคาดการณ์จุดจบของเย่เฉินไว้แล้ว
จะต้องเป็นหนอนกู่ดวงชะตาของตัวเองกระโดดขึ้นไปยังกลางกระหม่อมของเขาเลย แล้วกัดกลางศีรษะของเขาให้เป็นหลุมใหญ่ แล้วก็เจาะเข้าไปเลย กลืนกินทุกสิ่งอย่างที่อยู่ในกะโหลกศีรษะของเขาให้สิ้นซาก
และในระหว่างที่กลืนกิน วัยรุ่นที่โง่เขลาแล้วยังโอหังคนนี้ ก็จะได้สัมผัสกับความเจ็บปวดที่ร้ายแรงที่สุดในโลกใบนี้!
เพราะว่าหนอนกู่ดวงชะตาของเขามีทักษะเฉพาะตัว นั้นก็คือเวลาที่กำลังกลืนกินสมองของคนอื่น ในขณะเดียวกันก็สามารถปล่อยสารพิษไปในสมองของอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้เลือดเกิดการจับตัวเป็นก้อนได้!
สารพิษชนิดนี้จะไหลผ่านสมองของอีกฝ่าย กระจายไปทั่วระบบประสาทของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันทำให้ระดับความไวต่อความรู้สึกของระบบประสาทของอีกฝ่ายเพิ่มสูงขึ้นเป็นสิบเท่า
และก็เป็นเพราะเช่นนี้ หนอนกู่ดวงชะตาหลังจากที่ฆ่าคนแล้ว จึงสามารถควบคุมซากศพของอีกฝ่ายผ่านระบบประสาทได้ต่อ สามารถพูดได้ว่าสารพิษแบบนี้ ก็เป็นสื่อนำกระแสประสาทชนิดหนึ่ง
สิ่งที่ยิ่งร้ายแรงไปกว่านั้นคือ สารพิษแบบนี้ยกระดับความไวต่อความรู้สึกของระบบประสาทของอีกฝ่ายก่อนตาย ทำให้ระดับความรู้สึกเจ็บปวดของอีกฝ่ายก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นหลายสิบเท่าด้วยเช่นกัน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้ว่าเพียงแค่ถูกตบหน้าฉาดหนึ่ง ล้วนแต่เจ็บปวดจนเกือบถึงขั้นที่อยากตายเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสมองถูกกลืนกินทีละๆนิดอย่างเจ็บปวดแล้ว เป็นการทรมานที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่าการทรมานใดๆที่รู้จักบนโลกใบนี้อีก!
ซวนเฟิงเหนียนก็คิดอยากจะยืมวัยรุ่นที่โอหังที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ แสดงอำนาจบารมีให้ไหม้เฉิงซินได้เห็น
เพราะงั้น เขามองไปยังไหม้เฉิงซิน พูดอย่างเยือกเย็นว่า : “ตาแก่ไหม้ แกดูจุดจบของไอ้หมอนี่ให้ดีๆนะ ถ้าหากยังต่อต้านฉันอย่างดื้อรั้น งั้นจุดจบของแกก็เหมือนกับเขาแล้วแหละ!”
ในใจของไหม้เฉิงซินตึงเครียดอย่างมาก แอบคิดพิจารณาในใจ : “สิ่งที่ฉันเป็นกังวลมากที่สุดในตอนนี้ ก็คือเย่เฉินถูกหนอนกู่ดวงชะตาของซวนเฟิงเหนียนฆ่าตายในคราเดียวเลย ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ฉันก็ไม่มีทางที่จะฟื้นคืนได้ตลอดไป……”
“ถ้าหากถึงตอนนั้นฉันบอกกับซวนเฟิงเหนียนว่า คนขับรถแท็กซี่คนนี้ที่ตายแล้วก็คือบุคคลปริศนาที่เขาตามหาตัว งั้นต่อให้เขาตายก็ไม่มีทางเชื่อฉันหรอก……จะต้องคิดว่าฉันเห็นเขาเป็นคนปัญญาอ่อนแน่นอน……”
คิดมาจนถึงตรงนี้ ในใจของไหม้เฉิงซินก็หมดหนทางจนปัญญาไม่รู้จะทำอย่างไรดี ทอดถอนหายใจในใจ : “ไม่แน่ชายชราอย่างฉัน ครั้งนี้จะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แล้ว……”
กำลังพูดอยู่ หนอนกู่นั่นก็บินมายังกระหม่อมของเย่เฉินแล้ว ระยะห่างจากเย่เฉินเพียง20เซนติเมตร
ในขณะเดียวกัน มันได้อ้าปากใหญ่ เตรียมที่จะกัดแทะลงไปยังกลางกระหม่อมของเย่เฉินเลย
และเย่เฉินก็เหมือนคนโง่ยังไงอย่างนั้น แม้แต่หลบหลีกก็ไม่รู้จักที่จะหลบหลีก
ไหม้เฉิงซินตื่นเต้นอย่างมาก กลัวว่าหนอนกู่นั่นกัดลงไปแล้ว เย่เฉินก็ตายเลย
และซวนเฟิงเหนียนก็ยิ่งมีใบหน้าที่เยือกเย็น เอ่ยพูดว่า : “คิดไม่ถึงจริงๆ บนโลกใบนี้จะมีคนโง่อยู่มากมายเช่นนี้”