ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2845
สวีต้านต้านพูดอย่างโกรธเคือง:”คุณ……คุณ……คุณต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่คุณพูด! รอรับจดหมายจากทนายได้เลย! ฉันจะไปฟ้องศาลพร้อมกับโรงแรมของคุณด้วย!”
เฉินจื๋อข่ายร้องหึ:”อยากฟ้องโรงแรมไปด้วย? คุณรู้ว่าโรงแรมนี้นามสกุลอะไรไหม?”
“ฉันไม่สนใจนามสกุลของคุณเลย”สวีต้านต้านเบ้ปาก และพูดอย่างดูถูก:”ก็แค่โรงแรมห้าดาวไม่ใช่เหรอ? บ้านของคุณชายเราก็มีอยู่หลายสิบหลัง! และอยู่ที่เมืองหลักทั้งนั้น รังเกียจมากที่จะมาพัฒนาในเมืองชั้นสองแบบนี้!”
เฉินจื๋อข่ายโกรธเคืองสุดๆ และพูดว่า:”ไป โทรหาคุณชายของคุณ แล้วบอกว่าฉันเฉินจื๋อข่ายเป็นคนบอกว่าเขาไปทำศัลยกรรมเอง ถ้าเขาไม่ยอม ฉันจะรอเขามาฟ้องฉันที่นี่ ดูว่าคุณชายของคุณจะพูดว่าไง”
สวีต้านต้านพูดอย่างโกรธเคือง:”มึงขู่กูเหรอ? รอก่อนนะ ฉันจะโทรหาคุณชายของเราเดี๋ยวนี้!”
พูดจบ เขาก็หยิบมือถือออกมา เดินไปโทรข้าง ๆ
เย่เฉินมองแผ่นหลังของเขา ขมวดคิ้วและถามว่า:”ลูกน้องสภาพแบบนี้ ดูเหมือนว่าจงเทียนหยู่นั้นก็ไม่ได้ดีไปถึงไหน คอนเสิร์ตของกู้หนานหนาน ทำไมถึงเชิญคนแบบนี้มาเป็นแขกรับเชิญได้ล่ะ?”
เฉินจื๋อข่ายยิ้มพูดว่า:”คุณเย่ คุณไม่รู้อะไรหรอก ผู้ก่อตั้งบริษัทจงซื่อคือจงเส้าหัว ปู่ของจงเทียนหยู่ จงเส้าหัวตามพ่อแม่ไปท่องที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนที่ติดทะเลตั้งแต่ยังเด็ก หลังปี49 กลับมาเริ่มต้นธุรกิจที่ประเทศจีน ก็ถือว่าเป็นหัวเซี่ยที่กลับมาพัฒนาที่ประเทศกลุ่มแรก”
“ตอนนั้นที่เขากลับประเทศ ประเทศยังอยู่ในช่วงรอการฟื้นคืนชีพ ในขณะนั้น เขาได้ปลูกฝังคุณท่านตระกูลกู้ และมีการเห็นแก่ความรู้สำนึกในบุญคุณต่อคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้”
“ต่อมาการพัฒนาของตระกูลกู้ จงเส้าหัวได้ให้ความช่วยเหลืออย่างมาก แต่หลังจากจงเส้าหัวเสียไป จงเจิ้งทาวรับช่วงต่อ บริษัทจงซื่อก็ตกต่ำ และถูกหลายๆตระกูลในประเทศแซงไปหมด”
เมื่อพูดถึงนี้ เฉินจื๋อข่ายยิ้ม แล้วพูดว่า:”แต่ว่า ตระกูลกู้ไว้หน้าตระกูลจงเสมอ จงเทียนหยู่อยากจีบคุณกู้มาโดยตลอด และดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ถึงเข้าสู่วงการบันเทิงมาเป็นนักร้อง เพราะความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูล ดังนั้นคุณกู้จะดูแลเขาในเรื่องทรัพยากรอยู่เสมอ มักจะพาเขาไปเข้าร่วมรายการอยู่บ้าง และเชิญเขาเป็นแขกรับเชิญในคอนเสิร์ตมันก็สมเหตุสมผลแล้ว”
เย่เฉินพยักหน้าแบบเข้าใจขึ้นมาทันที
เดิมที เขาไม่คิดที่จะรักษาหน้าให้ลูกน้องคนนี้ของจงเทียนหยู่เลยสักนิด แต่เมื่อเขาได้ยินความสัมพันธ์แบบนี้ เขาก็กระซิบพูดกับเฉินจื๋อข่ายว่า:”ในเมื่อมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับตระกูลกู้ขนาดนั้น งั้นเดี๋ยวไล่พวกเขาออกไปโดยตรงซะ อย่าลงมือ เผื่ออาจจะทำให้หนานหนานดูไม่ดี”
เฉินจื๋อข่ายพยักหน้าอย่างจริงจังและพูดว่า:”ไม่ต้องกังวลครับ คุณเย่ ผมเข้าใจ”
อีกด้าน สวีต้านต้านโทรหาคุณชายของตนจงเทียนหยู่
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ จงเทียนหยู่ถามว่า:”นายทำสิ่งที่ฉันสั่งเรียบร้อยยัง?”
สวีต้านต้านรีบพูด:”คุณชาย ผมกำลังคุยกับคนที่อยู่อาศัยอยู่ที่นี่ แต่ดูเหมือนว่าในเมื่อพูดด้วยดีๆกับพวกเขาแล้วไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับแล้วล่ะ! ผมเสนอราคาให้พวกเขาสองเท่าแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมออกจากห้อง!”
จงเทียนหยู่พูดอย่าโมโห:”สองเท่าไม่ได้ก็เพิ่มเป็นสามเท่า! ไม่ว่ายังไงก่อนที่ชิวอี๋ไปจินหลิง นายต้องเอาห้องนี้มาให้ฉันให้ได้!”
สวีต้านต้านรีบฟ้อง:”คุณชาย คุณไม่รู้ ท่าทีของคนทางนั่นแย่เกินไป ไม่เพียงแต่ไม่ให้ที่ว่างสำหรับการเจรจา แล้วยังกระแนะกระแหนคุณอย่างไม่ละอายใจ และหนึ่งในนั้นยังพูดเรื่องที่คุณศัลยกรรมอย่างไม่หยุด แล้วยังบอกว่าคางของคุณแหลมจนแค่ก้มหน้าก็แทงคอทะลุได้แล้ว คุณฟังสิ นี่มันแม่งโหดร้ายมากจริงๆ!”
“เชี่ย!”เมื่อจงเทียนหยู่ได้ยินว่ามีคนพูดว่าเขาทำศัลยกรรม ก็เหมือนถูกเหยียบหางขาดทันที และตะคอกอย่างโกรธจัดว่า:”ใครกันที่ปากเสียแบบนี้ แม่งกล้าบอกว่าฉันทำศัลยกรรม?! ฉันว่ามันคงจะอยากตายสินะ! กูจะฟ้องให้มันล้มละลายเลย ไม่รู้ว่าที่บ้านมันจะรวยพอให้มันชดไหม? แกไปเปิดลำโพง ฉันจะถามเขาเอง!”