ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2890
ตอนนี้ ภายในขบวนรถโรลส์-รอยซ์
ซูจือเฟยนั่งข้างๆเฉินตัวตัว เขากล่าวอย่างยิ้มๆว่า“ตัวตัว ช่วงนี้ผมได้ที่โฆษณาเยอะเลยครับ ผมเริ่มให้พื้นที่พวกนั้นฉายโปสเตอร์โปรโมตคอนเสิร์ตของคุณกู้ตลอด24ชั่วโมง อีกเดี๋ยวพอเข้าไปในเมืองตลอดทาง คุณจะเห็นโฆษณาอย่างน้อยสามสิบกว่าจุดเลยล่ะครับ”
เฉินตัวตัวถามอย่างเข้าใจ“คุณชายซูคะ ตั๋วคอนเสิร์ตของชิวอี๋ดูเหมือนจะขายหมดแล้วนะคะ ตอนนี้คุณโปรโมตโฆษณาเยอะขนาดนั้น มันดูเปลืองเงินเกินไปรึเปล่าคะ?”
ซูจือเฟยหัวเราะ แล้วพูดอย่างจริงจังว่า“เพื่อกระแสไงครับ!ถึงแม้ว่าความจุของคอนเสิร์ตจะถึงขีดจำกัดแล้ว แต่ถึงยังไงก็มีคนอีกกว่าสามถึงห้าหมื่นกว่าคน ประชากรในจินหลิงของเรามีประมาณสิบล้านคน ถ้าเราสามารถครอบคลุมส่วนที่เหลือของคนเหล่านี้ได้ก็คงจะ มันก็จะช่วยเพิ่มชื่อเสียงของคุณกู้ได้อีก คุณว่าจริงไหมครับ?”
เฉินตัวตัวหัวเราะอย่างอึดอัดใจ“พูดตามตรงนะคะคุณชายซู จากการจัดอันดับของเว็บไซต์หลักๆแล้ว รวมถึงพ้นการค้นหาจะเห็นได้ว่า ชิวอี๋มีอิทธิพลสูงที่สุดในบรรดาคนดังภายในประเทศ และไม่มีใครดังกว่าเธอ ดังนั้นแนวทางในการทำงานของเรา ไม่ได้สนใจเรื่องกระแสนานแล้วล่ะค่ะ ในทางกลับกัน เราพยายามจะไม่ไปสร้างกระแส และหลีกเลี่ยงมันอยู่เสมอ……”
“ทำไมล่ะครับ?”ซูจือเฟยถามอย่างแปลกใจ“ทุกวันนี้เหล่าดาราแก่งแย่งความนิยมของตัวเอง ค่าใช้จ่ายสำหรับความนิยมในวงการบันเทิงยิ่งอยู่ยิ่งแพงขึ้นเรื่อยๆ ดาราส่วนใหญ่ต่างพากันทุ่มเงินทองทั้งหมดเพื่อสร้างกระแสให้ตัวเอง ทำไมพวกคุณถึงทำอะไรสวนทางแบบนี้ล่ะ?”
เฉินตัวตัวอธิบายอย่างจริงจังว่า“นี่คือความคิดของชิวอี๋ เธอคิดว่ากระแสที่มากเกินไป ด้านหนึ่งคือความสิ้นเปลือง อีกด้านคือการยึดครองทรัพยากรของคนอื่นอีกด้วย”
พูดจบ เฉินตัวตัวก็พูดอีกว่า“ชิวอี๋คิดว่า การเปิดเผยในวงการบันเทิงมีขีดจำกัด มันมีแต่การสูญเสียในระยะยาว ถ้าเธอเก็บความนิยมไว้คนเดียวทั้งหมด ความนิยมของคนอื่นๆในวงการบันเทิงถูกเธอเอาไปเรื่อยๆ แบบนี้มันจะไม่ยุติธรรมกับคนอื่น”
เมื่อซูจือเฟยได้ยินแบบนั้น เขาก็รู้สึกหัวใจเต้นรัว พลางถามเสียงต่ำว่า“ตัวตัว ผมหาพื้นโฆษณาเยอะขนาดนี้ ถ้าคุณกู้เห็น เธอจะไม่ดีใจใช่ไหม?”
เฉินตัวตัวหลุดขำ“ฉันพูดไม่ได้หรอกค่ะ”
ซูจือเฟยพยักหน้าอย่างครุ่นคิด แล้วแอบพูดในใจว่า“พื้นที่โฆษณาเยอะขนาดนี้ใช้เงินไปไม่น้อยเหมือนกัน ถ้าถึงเวลามีผลเอฟเฟกต์อะไร มันจะให้ผลลัพธ์ที่แย่ไหม?”
เมื่อคิดได้ดังนี้ เขาก็ถามว่า“จริงด้วยสิตัวตัว คุณกู้จะมาเมื่อไรหรอครับ?”
เฉินตัวตัวตอบกลับ“ฉันยังไม่แน่ใจค่ะ ชิวอี๋ยังทำงานที่เย่นจิง รอหลังจากที่เธอทำงานเสร็จถึงจะบินมาได้ อีกทั้งส่วนใหญ่เธอจะเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัว เวลาไม่แน่ไม่นอนค่ะ”
ซูจือเฟยพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดอย่างยิ้มๆว่า“ถ้าต้องการให้ไปรับ บอกกับผมล่วงหน้าได้เลยนะครับ ถึงเวลาผมจะมารับเธอเอง”
เฉินตัวตัวตอบกลับ“เดี๋ยวฉันบอกชิวอี๋ให้นะคะ”
“ครับ!”ซูจือเฟยยิ้มเบาๆ แล้วจงใจพูดเพิ่มตีสนิทว่า“จริงด้วยสิตัวตัว ผมได้ยินว่าจงเทียนหยู่เมื่อวานมาที่จินหลิง พอเขาลงจากเครื่องก็ถูกคนจัดการเลยหรอ คุณรู้ไหมว่าเป็นฝีมือของใคร?”
เฉินตัวตัวกล่าว“เรื่องนี้ฉันไม่แน่ใจจริงๆค่ะ”
อันที่จริง ถึงแม้เฉินตัวตัวจะไม่ค่อยรู้ชัดถึงรายละเอียด แต่พื้นฐานนแล้วเธอยังสามารถเดาได้ว่าน่าจะเป็นฝีมือของเย่เฉิน
ดังนั้น เธอจึงมองซูจือเฟยอย่างไม่รู้ตัว เธอยังคงรู้สึกเห็นใจเขาอยู่บ้าง
เฉินตัวตัวรู้ดีว่าที่ซูจือเฟยทุ่มแรงใจแรงกายขนาดนี้ ก็เพื่อตามจีบกู้ชิวอี๋
แต่เฉินตัวตัวก็รู้ด้วยว่า ในสายตาของกู้ชิวอี๋ไม่มีใครเลย นอกจากเย่เฉิน ถึงซูจือเฟยจะทำดีกับกู้ชิวอี๋แค่ไหน กู้ชิวอี๋ก็ไม่มีทางสนใจเขาแน่
เพราะฉะนั้น เธอรู้นานแล้วว่า ไม่ว่าซูจือเฟยจะพยายามแค่ไหน ทางที่รอเขาอยู่ก็คือความพ่ายแพ้ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นแน่นอน
ขณะที่กำลังพูดอยู่ จู่ๆมือถือของเฉินตัวตัวก็มีข่าวส่งมา
เธอล้วงมือถือขึ้นมาดู มันคือข่าวหนึ่ง ด้านบนพาดหัวข่าวว่า ต้นสังกัดของจงเทียนหยู่ออกมาประกาศในเวลาเจ็ดโมงเช้าว่า:จงเทียนหยู่ประกาศยุติและถอนตัวออกจากวงการบันเทิง เพื่อไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ!
เฉินตัวตัวถึงกับตกใจ หลังจากนั้นเธอก็รีบคลิกเปิดอ่านรายละเอียดของเนื้อหาข่าว
ซูจือเฟยรีบขยับเข้าไปไกลเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น