ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2906
ซูจือเฟยไม่ถือว่าเป็นเจ้าถิ่นในจินหลิง
ดังนั้น แม้ว่าเขาจะสามารถใช้ความสัมพันธ์ได้มาก ทว่าความสัมพันธ์เช่นนี้ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือเท่าไรนัก โดยพื้นฐานแล้ว ลูกน้องของเขาล้วนต้องตามหาเส้นสายหลายขั้นอย่างอ้อมไปอ้อมมา จึงจะสามารถหาคนท่ีสำคัญเจอ
เวลาปกติ หากเขาต้องการสอบถามข้อมูลของจินหลิง เพียงโทรหาลูกน้อง ลูกน้องก็จะใช้เส้นสาย ตามหาความสัมพันธ์ท้องถิ่นในจินหลิง แม้จะบอกว่ายุ่งยากเล็กน้อย ทว่าไม่ได้ยากมากนัก
ทว่า สิ่งที่เขาไม่ทราบก็คือ รถ BMW ที่เขาต้องการสืบในครั้งนี้นั้น ลงทะเบียนภายใต้ชื่อของเซียวชูหรันภรรยาของเย่เฉิน
ในฐานะตัวแทนในจินหลิงแห่งตระกูลเย่ และในฐานะผู้ช่วยของเย่เฉิน เฉินจื๋อข่ายได้เตรียมช่องทางติดต่อไว้ตั้งนานแล้ว ข้อมูลส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับเย่เฉิน รวมถึงภรรยาของเย่เฉินเซียวชูหรัน พ่อของเซียวชูหรันเซียวฉางควนและหม่าหลันแม่ของเซียวชูหรัน ได้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างทันการสุดๆ
หากมีคนตรวจสอบข้อมูลพวกเขาทั้งสี่คน ในขณะท่ีเขาป้อนชื่อนามสกุลหรือเลขทะเบียนรถ แล้วกดค้นหา ก็จะมีข้อความส่งแจ้งเตือนมายังเฉินจื๋อข่ายเป็นคนแรก
ขณะเดียวกันนี้ ไม่ว่าเขาจะค้นหาชื่อของครอบครัวเย่เฉินทั้งสี่คนนี้ หรือว่าเลขทะเบียนรถของเขา ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน องค์กรภายในระบบก็จะส่งกฎการปกป้องทันที จะมีการรายงานแจ้งเตือนส่งไปยังฝ่ายนั้นว่า “กำลังป้องกันข้อมูลระบบ กรุณาลองใหม่ในอีกสักครู่”
ดังนั้น เมื่อลูกน้องซูจือเฟยเจอคนที่เกี่ยวข้องป้อนเลขทะเบียนรถของเซียวชูหรัน เฉินจื๋อข่ายก็จะได้รับข้อความทันที
และคนคนนั้นเมื่อพบว่าข้อมูลในระบบกำลังป้อนข้อมูลอยู่ ก็จะไม่ได้คิดอะไรมาก เตรียมลองอีกครั้งในอีกสองสามนาทีต่อมา
อีกทั้งในช่วงเวลาที่เขากำลังรอคอยนั้น เฉินจื๋อข่ายก็จะติดต่อผู้รับผิดชอบในแผนกจราจรจินหลิงทันที และให้แผนกภายในตรวจสอบย้อนกลับในระบบ ไม่ถึงหนึ่งนาที ก็จะเจอเบาะแสของคนที่ค้นหาเลขทะเบียนรถของเซียวชูหรันเจอ
คนผู้นั้นคือพนักงานจัดการระดับกลางของแผนกจราจรจินหลิง เมื่อไม่กี่นาทีเพิ่งได้รับการไหว้วานจากเพื่อนคนหนึ่ง ให้ช่วยค้นหาเลขทะเบียนรถคันหนึ่ง ฝ่ายนั้นบอกเพียงว่าต้องการข้อมูลการลงทะเบียนของรถคันนั้น เขาไม่ได้คิดอะไรมาก จึงเตรียมที่จะค้นหาแล้วรายงานต่อฝ่ายนั้น
ทว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า เฉินจื๋อข่ายใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ล็อกเป้าเขาได้แล้ว
จากนั้น อยู่ๆ เขาก็ถูกเจ้านายเรียกไปที่ออฟฟิศ
เขาไม่ทราบเลยว่าการค้นหาเมื่อสักครู่นี้ของเขาจะนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ พอผลักประตูเข้าไป ก็ยังสอบถามด้วยสีหน้าประจบประแจงพร้อมเอ่ยว่า: “ผู้อำนวยการจาง ท่านเรียกผมมามีอะไรจะรับสั่งเหรอครับ?”
ผู้อำนวยการจางที่ถูกเรียกก็รีบถามเขาด้วยความสงสัยทันที: “เมื่อกี้นายค้นหาข้อมูลของรถ BMW คันหนึ่งในระบบงั้นเหรอ?”
“เอ่อ…” คนผู้นั้นเอ่ยด้วยความลนลาน: “เปล่านะครับผู้อำนวยการจาง เรื่องนี้มีอะไรเข้าใจผิดหรือเปล่า?”
“เข้าใจผิด?” ผู้อำนวยการจางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “อย่าลืมนะว่าในระบบภายในมีการบันทึกพฤติกรรม หมายเลขบัญชีที่ค้นหารถคันนั้นก็คือของนาย อีกทั้งที่อยู่ IP ที่ส่งคำร้องค้นหาก็มาจากหน่วยงานของนาย นายจะอธิบายยังไง?”
คนผู้นั้นตกใจยกใหญ่ ปกติแล้วเขามีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับผู้อำนวยการจาง ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ไว้เนื้อเชื่อใจ ตามหลักการแล้ว ไม่ควรที่จะเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมกะทันหันเช่นนี้ จะต้องเป็นเพราะตนก่อนเรื่องไว้จริงๆ แน่
ดังนั้นเขาจึงรีบเอ่ยเสียงเบาอย่างประจบประแจงว่า: “ผู้อำนวยการจาง เดิมทีเราก็ทำงานเกี่ยวกับระบบจราจรอยู่แล้ว ผมเช็กเลขทะเบียนรถ ก็ไม่มีปัญหาเรื่องหลักการอะไรหรอกใช่ไหม? ทำไมคุณถึงต้องโกรธขนาดนี้ด้วยล่ะ อย่าได้ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมเพราะว่าผมอีกเลยนะครับ”
ผู้อำนวยการจางเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน: “ถ้าเป็นเวลาปกติ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็กลบเกลื่อนไปได้ แต่ครั้งนี้นายก่อเรื่องใหญ่แล้ว! ฉันก็ช่วยเหลือนายไม่ได้!”
คนผู้นั้นถามอย่างกระวนกระวาย: “ผู้…ผู้อำนวยการจาง…นี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ท่านบอกใบ้คร่าวๆ ให้ผมทราบได้ไหม? ตอนนี้ผมกระวนกระวายใจเหมือนอะไรก็ไม่รู้แล้ว…”
ผู้อำนวยการจางขลึงตาใส่เขา พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “เพราะปัญหาของนายคนเดียว ผู้จัดการทั่วไปเฉินเฉินจื๋อข่ายแห่งโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงมาหาฉันถึงที่เลย นายก็รู้จักพื้นหลังของเขาดี สามารถทำให้เขามาหาถึงที่เร็วขนาดนี้ได้ จะต้องไม่ใช่เรื่องเล็กแน่นอน!”
คนผู้นั้นเอ่ย ด้วยความตกตะลึง: “เฉิน…เฉินจื๋อข่าย?! ผู้อำนวยการจาง แล้วตอนนี้ผมจะต้องทำยังไงดีล่ะ ขอร้องคุณช่วยชี้แนวทางให้ผมด้วย!”
ผู้อำนวยการจางเอ่ย: “มีวิธีใช้กำลังชดใช้ความผิด ก็ต้องดูว่านายจะให้ความร่วมมือหรือเปล่าแล้วละ”
คนผู้นั้นรีบเอ่ยขึ้นอย่างรีบร้อน: “ให้ความร่วมมือ ผมให้ความร่วมมือแน่นอน!”