ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2936
เช้าวันต่อมา
เย่เฉินและเซียวชูหรันทานอาหารเช้าแล้วก็เป็นเหมือนเมื่อวาน ขับรถส่งเธอไปที่คฤหาสน์เก่าเขตเมืองเก่า
ฟังเซียวชูหรันพูด ตู้ไห่ชิงลงแรงไปเยอะกับการซ่อมแซมคฤหาสน์เก่าหลังนี้ รายละเอียดมากมายถึงขั้นไปซ่อมแซมให้ดีขึ้นอย่างไม่คำนวณเงินทุน
ในรถ เซียวชูหรันบ่นกับเย่เฉินว่า “คนที่นายเจอเมื่อวาน ลูกค้าคนนั้นของฉัน คุณน้าตู้ เดิมทีฉันทำแผนการให้เธอจำนวนสองล้านกว่า ที่จริงใช้มาซ่อมแซมคฤหาสน์เก่านั่นของเธอก็มากพอแล้ว แต่ว่าเมื่อวานเธอก็แก้ไขแผนการไม่หยุด เพิ่มงบประมาณมากขึ้นไปถึงสิบล้าน….”
พูดแล้ว เธอก็พูดอีกว่า “ฉันพบว่าคนมีเงินทำอะไรนี่ไม่คำนวณเงินเลย บ้านหลังนี้ราคาขายตามจริงคงจะไม่ถึงหนึ่งล้าน อีกอย่างรัฐบาลก็ไม่อนุญาตให้สร้างใหม่ ไม่อนุญาตให้แก้ไขภายนอกมากเกินไป ปรากฏว่าเธอก็ยังจะใช้เงินมากมายขนาดนี้มาซ่อมบำรุงภายใน สิบล้านแทบจะสามารถซื้อทั้งซอยนั่นได้แล้ว ไม่เข้าใจเลยจริงๆ…”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย พูดว่า “อาจจะเพราะคฤหาสน์เก่าหลังนี้มีความหมายพิเศษกับเขาละมั้ง เพราะงั้นคนเขาเลยอยากจะใช้เงินมาซ่อมแซมให้มันดีหน่อย ก็เป็นสิ่งปกติ”
“ใช่” เซียวชูหรันพูด “คุณน้าตู้บอกว่าอยากจะใช้ชีวิตวัยชราที่นี่ แต่ฉันฟังสำเนียงของเธอแล้วเหมือนจะเป็นคนฝั่งเย่นจิง ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เลือกมาใช้ชีวิตวัยชราที่เมืองจินหลิงของพวกเรา”
พูดแล้ว เซียวชูหรันก็พูดอีกว่า “ใช่สิ ได้ยินมาว่าลูกสาวคนนั้นของคุณน้าตู้ก็จะมาอยู่กับเธอที่นี่ สำเนียงพูดของลูกสาวเธอก็เป็นฝั่งเย่นจิง”
เย่เฉินพยักหน้า พูดว่า “ที่จริงแล้วใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองจินหลิงดีกว่าที่เย่นจิงเยอะเลย สถานที่อย่างเย่นจิง ฤดูร้อนร้อนยิ่งกว่าภาคใต้ ฤดูหนาวก็หนาวมาก ฤดูใบไม้ผลิก็สั้นมาก ปกติผ่านช่วงเดือนสิบก็เข้าฤดูหนาวเลย ช่วงเดือนสามสี่ถึงจะกลับมาอุ่น ที่สำคัญที่สุดคืออากาศแห้งมาก ลมพัดแรงทั้งวัน หลายปีก่อนยังมีพายุทรายอีกด้วย สองปีมานี้ถึงจะดีขึ้นหน่อย แต่ว่าสภาพแวดล้อมต่างๆก็แย่กว่าภาคใต้มาก เธอดูสิเมืองจินหลิงของพวกเราดีแค่ไหน อากาศเย็นชื้น สี่ฤดูแยกชัดเจน”
เซียวชูหรันอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ดูนายพูดสิ เหมือนกับว่านายคุ้นเคยกับเย่นจิงมากอย่างนั้นแหละ นายเคยอยู่ที่เย่นจิง?”
เย่เฉินพูดยิ้มๆ “ช่วงก่อนไปช่วยลูกค้าคนหนึ่งดูฮวงจุ้ยที่เย่นจิงมาไม่ใช่รึไง ลูกค้าบ่นกับฉันมา ที่จริงคนที่ยิ่งอยู่ทางภาคเหนือยิ่งอย่างมาทางภาคใต้ เธอดูภาคตะวันออกเฉียงเหนือสิอากาศหนาวทั้งปี คนที่นั่นชอบที่สุดก็คือทะเลใต้”
เซียวชูหรันพยักหน้า พูดว่า “ที่นายพูดก็ถูก สภาพอากาศของเมืองจินหลิงดีกว่าทางภาคใต้มากจริงๆ”
พูดจบ เซียวชูหรันก็พูดว่า “ใช่แล้ว คุณน้าตู้เหมือนว่าจะมีความประทับใจต่อนายไม่น้อยเลย คอยเอาแต่ถามเรื่องของนายจากฉันอยู่ตลอด หลังจากที่ได้ยินมาว่านายดูฮวงจุ้ยเป็น เธอบอกว่าอยากจะเชิญนายไปดูให้เธอสักหน่อย ถ้าหากว่านายมีเวลา ก็ไปดูให้คุณน้าตู้หน่อยนะ เธอเป็นคนดีอยู่”
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ตู้ไห่ชิงก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา ทำไมถึงต้องไปพูดเรื่องพวกนี้กับเซียวชูหรันละ?
นึกถึงนี่ เขาก็พูดออกไปว่า “ครั้งก่อนที่ไปก็ลองดูให้เธอบ้างแล้ว ฮวงจุ้ยของคฤหาสน์นั่นของเธอถือว่าดีมากอยู่ ไม่จำเป็นต้องทำการแก้ไขอะไร ถ้าหากว่าอยากจะแก้ไขจริงๆ งั้นก็รอทำเสร็จหมดแล้วค่อยว่ากันแล้วกัน ถึงตอนนั้นค่อยไปทำการแก้ไขเล็กน้อยก็พอแล้วละ”
“โอเค” เซียวชูหรันไม่รู้ว่าเย่เฉินกำลังพูดลวกๆไปงั้น จึงได้พยักหน้าพูดว่า “เดี๋ยวถ้าไปถึงแล้ว ฉันไปบอกกับคุณน้าตู้”
เย่เฉินส่งเซียวชูหรันถึงหน้าประตูคฤหาสน์เก่า ตู้ไห่ชิงเดินออกมาจากลานบ้านพอดี เห็นว่าเซียวชูหรันลงจากรถ ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ชูหรันมาแล้วหรอ”
เซียวชูหรันพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สวัสดีค่ะคุณน้าตู้ ฉันได้ทำการแก้ไขแผนการครั้งก่อนอีกแล้ว เดี๋ยวคุณดูสักหน่อยนะคะ”
“ได้เลย!” ตู้ไห่ชิงพยักหน้า แล้วโบกมือกับเย่เฉินที่นั่งอยู่ที่นั่งคนขับ พูดยิ้มๆว่า “สวัสดีค่ะคุณเย่ เจอกันอีกแล้วนะคะ”