ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2944
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เฉิน หลินหว่านชิวไม่เพียงแต่ตื่นเต้นและดีใจ แต่ขอบตากลับแดงก่ำขึ้นมาด้วย
เธอถูกเย่เฉินหวั่นไหวแล้วจริงๆ
แม้ฝันก็คาดไม่ถึง เย่เฉินจะเอายาอายุวัฒนะออกมาให้เพราะความเหนื่อยล้าจากการทำงานของตัวเอง ความใจกว้างนี้ ไกลเกินความรู้ของคนธรรมดาทั่วไปอย่างเธอ
แม้ว่าตระกูลกู้จะมีเงินเยอะมาก และความสามารถของตัวหลินหว่านชิวและทางบ้านตัวเองจะไม่ธรรมดา
แต่ว่า ยิ่งมีเงิน หลินหว่านชิวก็ยิ่งเข้าใจ ว่าเงินไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดบนโลกใบนี้ แต่เป็นสิ่งที่แม้ว่าจะมีเงินมากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถซื้อได้ ถึงจะเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดบนโลกใบนี้
สำหรับคนจนที่มีปัญหาแม้กระทั่งการใช้ชีวิตปกติ แม้เขาจะรู้ดีว่างานนี้ จะทำร้ายร่างกายของเขาเองอย่างหนัก แต่เพื่อเลี้ยงปากท้องครอบครัว เขาก็ยินดีจะใช้ความแข็งแรงของตัวเองไปแลกกับเงินตอบแทนนี้
แต่สำหรับเศรษฐีร่ำรวยที่มีอิสระในการใช้เงินอย่างนี้แล้ว สิ่งที่พวกเขากลัวมากที่สุด ก็คือทุกสิ่งอย่างที่ทำร้ายร่างกาย
อีกอย่างพวกเขาก็ไม่รีรอที่จะลงทุนเงินจำนวนมาก เพียงเพื่อให้ร่างกายของตัวเองแข็งแรงมากขึ้น ให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ได้มากขึ้นไม่กี่ปีไม่กี่เดือน หรือถึงขั้นเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น
แต่ว่า บางครั้งเงินก็ไม่สามารถทำได้ทุกอย่าง
แม้จะเป็นเศรษฐีพันล้าน เมื่อมีอายุถึงห้าหกสิบปี ก็ไม่สามารถหยุดยั้งให้ร่างกายตัวเองแก่ตัวลงได้ ไม่สามารถหยุดยั้งพลังกายและใจของตัวเองที่ลดลงได้
ดังนั้นยาอายุวัฒนะพวกนี้ จึงได้กลายเป็นสมบัติล้ำค่ามากที่สุดในสายตาของพวกคนมีเงิน
ขณะเดียวกันนี้ก็เป็นเหตุผล ว่าทำไมตอนนั้นหลี่ไท่หลายถึงได้ยินดีจะจ่ายเงินสองพันล้าน เพื่อประมูลยาอายุวัฒนะเม็ดนี้ของเย่เฉิน
และพวกเศรษฐีที่อยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้น กำลังต่างก็ห่างไกลจากตระกูลกู้เป็นอย่างมาก ถ้าหากว่ารวบรวมเศรษฐีระดับสูงอย่างตระกูลกู้ไว้ด้วยกัน ราคาประมูลของยาอายุวัฒนะหนึ่งเม็ดถึงขั้นสามารถเกินกว่าหมื่นล้านได้
หลินหว่านชิวรู้ดีถึงมูลค่าของยาอายุวัฒนะ เพราะงั้นในใจของเธอจึงทั้งดีใจและตื่นเต้น
กู้เย้นจงนั่นก็ยิ่งหวั่นไหว
เพราะยังไงซะ เย่เฉินก็เคยช่วยชีวิตเขาไว้ รวมทั้งให้เขาอ่อนเยาว์ลงอย่างน้อยก็สิบปี บุญคุณที่ใหญ่หลวงนี้ ตัวเองไม่รู้เลยว่าจะทดแทนจนหมดได้ยังไง ตอนนี้เย่เฉินก็เอายาอายุวัฒนะออกมาให้อีกเม็ดหนึ่ง มอบให้กับครอบครัวทั้งสามคนของตัวเอง นี่ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่ารับไว้ไม่ไหว
ดังนั้น จากที่เขาลังเลไปสักพัก ก็เอ่ยปากพูดว่า “เฉินเอ๋อ นายใส่ใจกับพวกเราทั้งสามคนขนาดนี้ ลุงรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก แต่ของขวัญชิ้นนี้มันล้ำค่ามากเกินไปจริงๆ ลุงรับไว้ไม่ไหวจริงๆ…”
พูดถึงนี่ เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจทีหนึ่ง แล้วพูดว่า “เพียงแค่ช่วงนี้สภาพร่างกายของน้าหลินของนายไม่ดีจริงๆ ทุกครั้งที่เห็นเธอเครียดกับงานอยู่ทุกวัน ในใจของฉันก็เอ็นดูมาก เพราะงั้นฉันก็ขอหน้าด้านช่วยน้าหลินของนายรับน้ำแก้วนี้ไว้ ส่วนที่เหลือสองแก้วนายก็เก็บไว้เองเถอะ!”
เย่เฉินได้ฟังแล้วก็ส่ายหัวอย่างจนใจ พูดว่า “ลุงกู้ครับ เมื่อกี้คุณยังบอกให้ผมอย่าได้เห็นเป็นคนนอกกันมากเกินไป แล้วกลับกันตอนนี้คุณก็มาเห็นเป็นคนนอกกับผมเองแล้ว ผมบอกแล้วไงครับ ยาอายุวัฒนะเม็ดนี้ให้กับคุณและน้าหลิน รวมทั้งหนานหนาน แม้ว่าคุณจะไม่เป็นห่วงตัวเอง ไม่คิดถึงตัวคุณเอง ก็จะต้องเป็นห่วงหนานหนานด้วยสิครับ เดี๋ยวเธอก็จะต้องเปิดงานคอนเสิร์ตหลายแห่งทั่วโลกแล้ว วิ่งไปวิ่งมาจะต้องเหนื่อยล้ามากแน่นอน ถึงตอนนั้นถ้าหากว่าเหนื่อยจนเป็นอะไรขึ้นมา พวกเราทุกคนก็คงต่างจะเสียใจกันทีหลัง แล้วตอนนี้คุณจะมาเกรงใจกับผมทำไมกันละครับ?”
กู้ชิวอี๋รีบพูดว่า “พี่เย่เฉิน ฉันยังโอเคหน่า ฉันยังอ่อนวัยขนาดนี้ เหนื่อยหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ!