ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3062 - novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

พอตกดึก สนามบินทหารในดามัสกัสก็วุ่นวายเป็นพิเศษ

เพื่อที่จะส่งทหารของสำนักว่านหลงจำนวน 1,000 นายไปที่ฐานของคามมิต เครื่องบินขนส่งที่มีของซีเรียถูกส่งมาทั้งหมด นอกจากนี้ เครื่องบินขนส่งสินค้าสองลำได้ถูกส่งจากการบินพลเรือนอย่างเร่งด่วน

มีเครื่องบินทั้งหมด 6 ลำที่รับผิดชอบการปฏิบัติภารกิจการบินในคืนนี้ และเฉินจงเหล่ยยังเลือกผู้แข็งแกร่งที่สุดหนึ่งพันคน จากทหารของสำนักว่านหลงแปดพันคนมา และเตรียมอาวุธให้พร้อมสำหรับการบินในช่วงเช้าตรู่

เพื่อสังหารศัตรูด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เฉินจงเหล่ยได้จัดสรรอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ทั้งหมดให้กับคนนับพันเหล่านี้

ซึ่งในนี้รวมถึงชุดอาวุธที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละคน ชุดเกราะกันกระสุนที่ดีที่สุด หมวกกันกระสุนน้ำหนักเบา ชุดอุปกรณ์สำหรับการมองเห็นตอนกลางคืนแบบสวมหัว และกล้องถ่ายภาพความร้อนหลายตัว

อุปกรณ์มาตรฐานระดับไฮเอนด์ชนิดนี้ มีราคาแพงและมีช่องทางการจัดซื้อน้อยมาก ขนาดสำนักว่านหลงก็ไม่สามารถแบ่งให้หนึ่งชุดต่อคนได้

เฉินจงเหล่ย รู้สึกว่าในเมื่อมันเป็นการจู่โจมตอนกลางคืน อุปกรณ์มองภาพกลางคืนจึงเป็นอุปกรณ์วิเศษ ในคืนที่ระยะการมองเห็นด้วยตาเปล่าน้อยกว่า 5 เมตร ทหารที่มีอุปกรณ์มองเห็นตอนกลางคืนก็เหมือนดีเกินคาด มีข้อดีสุดๆ

ในทางกลับกัน ทหารของเรามีอุปกรณ์ป้องกันที่แข็งแรงมาก ในตอนที่ประจัญบานกัน ถึงแม้จะกลบกำลังของศัตรูได้ แต่รับประกันได้ว่าทหารของเราจะมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ถูกยิงที่จุดสำคัญ ซึ่งจะเพิ่มความได้เปรียบให้มากขึ้น

นอกจากนี้ เฉินจงเหล่ยยังได้ติดตั้งอาวุธที่โหดร้ายอย่างระเบิดเพลิง ให้กับทหารนับพันนายเป็นพิเศษ

ระเบิดเพลิงชนิดนี้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของกองทัพสหรัฐฯ คล้ายกับหลักการของนาปาล์ม แต่ถูกสร้างเป็นรูปทรงของระเบิดมือ ซึ่งสะดวกต่อการใช้งานของทหารแต่ละคน

ระเบิดเพลิงใช้ปฏิกิริยาความร้อนจากอะลูมิเนียม ซึ่งจะสร้างอุณหภูมิสูงถึง 3,000 องศาหลังการระเบิด แม้แต่เหล็กก็สามารถละลายได้

หากโยนสองลูกเข้าไปในป้อมปราการที่ซ่อนอยู่ที่แทบจะปิดสนิท ก็เพียงพอที่จะเผาทหารที่ซ่อนอยู่ในนั้นให้เป็นขี้เถ้าได้

ถ้าภายในป้อมปราการซ่อนเร้นมีที่พื้นที่ว่างมากก็ไม่เป็นไร ในตอนที่ระเบิดเพลิงชนิดนี้ถูกเผาจนหมด ก็จะทำให้ออกซิเจนภายในหมดไป และผู้คนภายในก็จะหายใจไม่ออกแม้ว่าจะไม่ได้ถูกไฟเผาจนตายก็ตาม

ในความเห็นของเฉินจงเหล่ย การใช้อาวุธนี้เพื่อโจมตีป้อมปราการที่ซ่อนอยู่ของคามมิตนั้นเหมาะสมที่สุด

อาวุธได้เปรียบ การมองเห็นได้เปรียบ การป้องกันได้เปรียบ และพลังการต่อสู้ได้เปรียบยิ่งกว่า เฉินจงเหล่ยเชื่อว่าผู้แข็งแกร่งนับพันของเขา จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อคู่ต่อสู้ได้อย่างแน่นอน

ในค่ายทหารถัดจากสนามบิน ทหารของกองทัพรัฐบาล5,000นายก็อยู่ในการรวมพงครั้งสุดท้ายด้วย

นี่เป็นประกันชุดที่สามของเฉินจงเหล่ย หากมีการต่อสู้ที่รุนแรงหลังจากทหารอากาศของสำนักว่านหลง ทหารของรัฐบาลหลายพันนายจากบริเวณโดยรอบ จะพุ่งเข้าโจมตีเพื่อทำลายล้างศัตรูจากข้างในและข้างนอกทันที

และทหาร 5,000 นายเหล่านี้ จะไม่ใช้แผนการต่อสู้ของตอนกลางวันอีก พวกเขาจะไม่พกปืนใหญ่ลากและกระสุนปืนใหญ่จำนวนมากอีก แต่จะใช้ยานพาหนะส่งต่างๆ เกือบ 100 คันโดยตรง เพื่อออกเดินทางไปยังฐานของคามมิตอย่างรวดเร็ว ในอีกไม่กี่ชั่วโมง ก็จะสามารถฆ่าไปถึงฐานที่ตีนเขาของคามมิตได้

ในตอนที่ทหารนับพันของสำนักว่านหลงยังตรวจสอบยุทโธปกรณ์ของพวกเขา ทหาร 5, 000 นายก็ออกเดินทางแล้ว ความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกเขาสู้เครื่องบินไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องออกเดินทางก่อนล่วงหน้า

สำหรับทหารของสำนักว่านหลง พวกเขาจะขึ้นเครื่องบินตอนบ่ายโมง จากนั้นจะบินภายในครึ่งชั่วโมง เพื่อมุ่งหน้าไปยังฐานของคามมิต

ในตอนที่ทหารกำลังตรวจสอบยุทโธปกรณ์ เฉินจงเหล่ยยังคงอธิบายกลยุทธ์ให้พวกเขาฟัง เพื่อที่พวกเขาจะแสดงอย่างเต็มที่ และใช้ข้อได้เปรียบที่หลากหลายของแต่ละคน และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้งานเสร็จลุล่วงไปได้อย่างราบรื่น

ตอนบ่ายโมง ทหารพร้อมถุงชูชีพเริ่มขึ้นเครื่องบินอย่างมีระเบียบ

เฉินจงเหล่ยก็ขึ้นเครื่องบินขนส่งทางทหารหนึ่งลำเอง

แม้ว่าเขาจะไม่นำทีมโดดร่มด้วยตัวเอง แต่เขาจะได้รับข้อมูลแบบเรียลไทม์ เกี่ยวกับสถานการณ์ในสนามรบผ่านอุปกรณ์สื่อสารบนเครื่องบินขนส่งทางทหาร เพื่อที่ว่าเมื่อทหารต้องการเขา ก็จะสามารถออกคำสั่งกลยุทธ์ได้เร็วที่สุด

หลังจากนั้น เครื่องบินก็บินออกไปทีละลำ แบ่งออกเป็นสองกองพันทหารพลร่มและมุ่งหน้าไปยังฐานของคามมิตตามๆกันไป