ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3093
ซูโสว่เต้าแทบจะระเบิด
กระทั่งความคิดที่ต้องการฆ่าฮามิดก็มีด้วย ทว่าเขาชัดเจนดีแก่ใจว่า ความสามารถแค่นี้ของตน หากต้องการฆ่าฮามิดนั้น ยังคงเป็นเรื่องที่ยากล้นฟ้าจริงๆ
อย่าว่าแต่ตอนนี้ตนเป็นนักโทษคุมขังของฮามิด ต่อให้ตนหรือว่าคุณชายแห่งตระกูลซูก็ไร้ความหมาย หากพาพวกที่ปกป้องบ้านตระกูลซูเหล่านั้นออกมาหมด ก็ยังไม่พอที่จะเป็นเชื้อเพลิงให้กับฮามิดโดยสิ้นเชิง มิใช่คู่ต่อสู้ของฮามิดโดยสิ้นเชิง
ดังนั้น ความแค้นของการเตะหนึ่งครั้งและตบหน้าสองข้างนี้ และยังมีหมวกเบเร่ต์ เกรงว่าทั้งชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้แก้แค้นแล้ว
เมื่อคิดได้ดังนั้น ซูโสว่เต้ารู้สึกเพียงว่าชีวิตจมดิ่งสู่ความมืด
ทว่าเขาก็ไม่กล้าที่จะไปสะกิดต่อมฮามิดอีก ทำได้เพียงเงียบสงบปากเอาไว้ พร้อมยืนอยู่ข้างๆ ไม่ส่งเสียงใดๆ
ในเวลานี้ ทันใดนั้นฮามิดก็มองเห็นร่วมสีดำปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของตัวเอง เมื่อสังเกตดูดีๆ ก็เห็นร่มกระโดดนั้นถูกกางออก โดยห่างออกไปไม่ไกลจากศีรษะของตนไม่ถึงร้อยเมตรแล้ว จากนั้นก็หล่นลงด้วยความเร็ว
ผู้ที่ควบคุมร่มกระโดดนี้ ก็คือเย่เฉินที่โจมตีเข้ามาตลอดทางจากหัวเซี่ย!
ฮามิดเอ่ยพึมพำกับตัวเองอย่างตื่นเต้นขีดสุด: “มาแล้วๆ ! ในที่สุดก็มาแล้ว!”
ซูโสว่เต้าเงยหน้าขึ้นไป เห็นร่มกระโดดได้หล่นลงมาไม่ถึง 50 เมตรแล้ว
ซูโสว่เต้าตะลึงงันในทันที พลางคิดในใจว่า: “คน…คนนี้รนหาที่ตายหรือไง? ความเร็วระดับนี้ แถมออกจากร่มระดับต่ำแบบนี้ ถ้าไม่หล่นลงมากระดูกหักก็แปลกแล้ว!”
เพิ่งเอ่ยจบ ก็มองไปเห็นร่มที่หล่นลงมาอย่างเร็วนั้น ทันใดก็ราวกับตาบอดไป จากนั้นร่มก็สูญเสียแรงตึง หมุนตัวบินออกไปทันที ส่วนจุดสีดำอีกอันหนึ่งก็หล่นสู่พื้นด้วยความเร็วทันที
ในขณะที่ร่มกระโดดยังมีระยะห่างจากพื้นประมาณ 40 เมตร เย่เฉินก็ได้ใช้ปราณทิพย์ในการตัดเชือก จากนั้นตัวเขาก็หล่นลงยืนอย่างมั่นคงที่พื้น ความเร็วแรงดันมหาศาลราวกับไม่สามารถส่งผลอันใดต่อเขาได้เลย เพิ่งจะหล่นสู่พื้นก็ได้ทำการปลดกระเป๋าโดดร่มที่อยู่กับตัวออกราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น พร้อมโยนมันไปอยู่อีกข้าง
ในเวลานี้ ฮามิดได้ลากซูโสว่เต้าวิ่งอย่ารวดเร็วไปหา ขณะที่ใกล้เย่เฉินเป็นระยะทางสอบกว่าเมตร ก็ตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้นสุดขีด: “น้องเย่เฉิน! ในที่สุดเราก็ได้เจอกันอีกแล้ว!”
เย่เฉินเห็นฮามิดเดินมาตลอดทาง จึงได้เอ่ยหยอกล้อ: “ขาคู่นี้ของพี่ชายก็ว่องไวดีเหมือนกันนะเนี่ย”
ฮามิดเดินมายืนอยู่ข้างหน้าเย่เฉิน ยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “นี่ต้องยกความดีความชอบในนายน่ะสิ!”
สิ้นเสียง ฮามิดก็กระชากซูโสว่เต้าขึ้นมา ชี้ไปหาเขาพร้อมเอ่ยกับเย่เฉินว่า: “น้องเย่เฉิน ฉันพาเจ้าหมอนี่มารับนายพร้อมกับด้วย และถือโอกาสรายงานสักหน่อย ช่วงเวลาที่เขาอยู่กับฉัน แขนขาอยู่ครบ นายตรวจสอบสินค้าได้!”
ซูโสว่เต้าอึ้งไปทันที
เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคนที่กระโดดร่วมด้วยวิธีเหมือนฆ่าตัวตายนั้น จะเป็นเย่เฉิน
เรื่องนี้ทำให้เขาครุ่นคิดในใจอย่างช่วยไม่ได้: “เย่เฉิน เจ้าหมอนี่…มีความสามารถแบบไหนกันแน่? กระโดดลงมาจากที่สูงขนาดนี้กลับไม่เป็นห่าอะไรเลย นี่ยอดฝีมือศิลปะต่อสู้ก็คงสู้เขาไม่ได้สินะ?”
นอกเหนือจากนี้ เขาก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าเจ้าหนุ่มเย่เฉินคนนี้จะมาซีเรียในเวลาเช่นนี้ได้
เขาครุ่นคิดในใจอย่างสงสัยว่า: “หรือว่าที่เย่เฉินมาซีเรียในครั้งนี้ ก็เพื่อพาฉันกลับประเทศ เพื่อเข้าร่วมพิธีบูชาบรรพบุรุษ? เจ้าหมอนี่…เจ้าหมอนี่เสี่ยงชีวิตเกินไปแล้วมั้ง? เสี่ยงชีวิตเกินไปแล้วไหม? เสี่ยงอันตรายหนักหนาขนาดนี้เพื่อมานำตัวฉันกลับไปเนี่ยนะ? ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ…ให้ฉันอยู่อย่างว่างๆ ที่ถ้ำซีเรียคนเดียวไม่ดีหรือไง?”