ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3096 ไหนๆ ก็มาแล้ว
ฮามิดไม่ทราบวิธีการร่วมมือกันระหว่างสำนักว่านหลงและทหารรัฐบาลมาโดยตลอด
เดิมทีเขายังคิดว่า ทางทหารรัฐบาลใช้เงินจ้างสำนักว่านหลง ทว่าเมื่อมาครุ่นคิดดูดีๆ แล้ว ก็มักจะคิดเรื่อยว่าบางอย่างมันไม่ค่อยถูกต้อง เพราะว่าปัญหาที่ใหญ่หลวงที่สุดของทหารรัฐบาลนั้นก็คือขาดแคลนเงินดำเนินงาน ทหารของตนเองขาดแคลนยา ขาดแคลนกระสุนปืน จะไปมีทรัพย์สินที่ไหนไปจ้างทหารรับจ้างของสำนักว่านหลงได้
จนกระทั่งเมื่อวานเขาได้รับข่าวสาร ที่แท้เงื่อนไขการร่วมมือของสำนักว่านหลงและทหารรัฐบาลนั้น ก็คือสำนักว่านหลงช่วยทหารรัฐบาลกำจัดฝ่ายกบฏ และทหารรัฐบาลก็แบ่งพื้นที่ขนาดร้อยตารางกิโลเมตรภายในเขตแดนซีเรียให้สำนักว่านหลง ซึ่งมอบให้สำนักว่านหลงก่อตั้งฐานทัพทหารรับจ้างแนวหน้าในเขตพื้นที่ตะวันออกกลาง
ทว่าฮามิดคิดไม่ถึงเลยว่า เรื่องนี้เย่เฉินก็ได้ยินมาที่หัวเซี่ยอันอยู่แดนไกลก่อนเช่นกัน ดังนั้นจึงได้ตกตะลึงไปกับช่องการข่าวสารของเย่เฉินเป็นอย่างมาก
เย่เฉินคิดไม่ถึง ว่าฮามิดและสำนักว่านหลงทำการสู้รบกันมาตั้งสองครั้งแล้ว กลับเพิ่งได้ทราบข่าวสารนี้เมื่อวาน
นี่ก็แสดงว่า ข่าวนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ลับอยู่พอสมควร
ข่าวสารที่ลับเช่นนี้ ซูเฉิงเฟิงกลับทราบได้ เรื่องนี้เป็นประจักษ์ให้กับการคาดเดาของเขาขึ้นไปอีกขั้น ซูเฉิงเฟิงและสำนักว่านหลงจะต้องมีการติดต่ออะไรบางอย่างด้วยกันเป็นแน่
ดังนั้น เย่เฉินจึงพูดกับฮามิดว่า: “ผมสงสัยว่าสำนักว่านหลงนี่อาจมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลศัตรูในประเทศของผม รายละเอียดที่สำนักว่านหลงร่วมมือกับทหารรัฐบาล ก็ถูกเผยแพร่ออกจากตระกูลศัตรูในประเทศคนนั้นของผม”
ฮามิดเอ่ย: “น้องชาย ถ้าว่ามาอย่างนี้ละก็ ถ้าอย่างนั้นสำนักว่านหลงก็เป็นภัยคุกคามสำหรับนายด้วยนะ!”
“ใช่แล้ว” เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยต่อ: “หลักๆ คือผมก็ไม่ค่อยเข้าใจอะไรเกี่ยวกับสำนักว่านหลงนี้ด้วย ไม่เข้าใจสถานการณ์อย่างละเอียดของพวกเขา ดังนั้นสำนักว่านหลงจะเป็นอันตรายต่อผมแค่ไหนกันแน่ ยังไม่รู้แน่ชัดในตอนนี้”
ฮามิดโบกมือเอ่ยว่า: “น้องรัก ฉันคิดว่านายไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องนี้เลย หัวเซี่ยมีฉายาว่าเป็นสุสานทหารรับจ้าง เพราะว่าการปกครองของหัวเซี่ยดีเกินไป ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ทหารรับจ้างต่างประเทศแม้แต่ปืนหนึ่งกระบอกก็เอาเข้าไปไม่ได้ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนายแน่นอนน้องรัก”
เย่เฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: “เข้าใจตัวเองและเข้าใจศัตรูให้ถ่องแท้ ก็ไม่มีทางพ่ายแพ้สงคราม ตอนนี้สิ่งที่เสียเปรียบของผมที่สุดก็คือขาดความเข้าใจเกี่ยวกับสำนักว่านหลง อีกทั้งก็ไม่รู้ว่าตระกูลที่เป็นศัตรูคนนั้นของผมจะมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันมากน้อยแค่ไหนกันแน่”
ฮามิดเอ่ย: “น้องชาย ฉันจะบอกสถานการณ์ที่ฉันรู้ให้นายฟัง สำนักว่านหลงได้ตั้งรากฐานอยู่ที่อเมริกาใต้ ตอนนี้ให้ความสำคัญกับการขยายอำนาจที่ตะวันออกกลางและแอฟริกา ในนี้ถือว่าตลาดของตะวันออกกลางใหญ่ที่สุด ประเทศที่นายสามารถคิดถึงทั้งหมดในตะวันออกกลาง รวมถึงอิสราเอลด้วย แทบจะไม่มีประเทศไหนเลยที่ไม่ร่วมมือกับทหารรับจ้าง ดังนั้นสำนักว่านหลงนี้จึงอยากจะตั้งรกรากอยู่ที่ตะวันออกกลางมาก”
สิ้นเสียง ฮามิดก็เอ่ยอีก: “ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดขององค์กรทหารรับจ้างส่วนมากอยู่ที่ไม่มีอาวุธหนัก ต่อให้เป็นแบล็ควอเตอร์ของสหรัฐอเมริกา ก็สามารถใช้ได้เพียงทหารรับจ้างติดอาวุธเบาเท่านั้น ตอนที่พวกเขามาที่ตะวันออกกลางแล้วให้ความร่วมมือกับทหารบกของสหรัฐอเมริกา รถถังที่ขับ เฮลิคอปเตอร์ทหาร แทบจะเป็นของกองทหารสหรัฐอเมริกาทั้งหมด ถ้าหากออกจากทหารสหรัฐอเมริกาไป อาวุธที่ดีที่สุดที่พวกเขาสามารถได้มาในตะวันออกกลาง ก็คือรถกระบะโตโยต้าที่มีปืนกลติดตัวรถ”
“ในเรื่องนี้ สำนักว่านหลงก็เหมือนกัน”
“แม้ที่อเมริกาใต้พวกเขาจะมีอาวุธหนักอยู่บ้าง ทว่าได้ยินมาว่าก็มีเพียงรถถังทหารจำนวนน้อย รวมถึงเฮลิคอปเตอร์สร้างจากรัสเซียเก่าๆ เท่านั้น ถ้าหากพวกเขาต้องการที่จะจัดส่งอาวุธเครื่องมือเหล่านี้สู่ทั่วโลก ก็คงได้ใช้เพียงวิธีขนส่งทางอากาศเท่านั้น”
“ทว่าการขนส่งทางอากาศก็เป็นปัญหาหนึ่ง บริษัทขนส่งทั่วโลกต่างก็ต้องทำตามกฎพื้นฐานสากล ก็คือห้ามขนส่งอาวุธหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆ ที่นอกเหนือจากของรัฐบาล อีกทั้งด่านของแต่ละประเทศ ก็ไม่อนุญาตให้นำเข้าอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ไม่ใช่ของรัฐบาลเข้าสู่อาณาจักรได้”
“ดังนั้น อาวุธของพวกเขาหากต้องการส่งมายังตะวันออกกลางจากอเมริกาใต้ละก็ โดยพื้นฐานแล้วเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”
เย่เฉินได้ยินดังนั้น จึงเอ่ยปากถาม: “เพราะฉะนั้นพวกเขาถึงได้คิดที่จะสร้างฐานของตัวเองขึ้นมาในตะวันออกกลาง จากนั้นค่อยคิดหาวิธีสร้างอาวุธหนักที่นี่มาเป็นอาวุธของตัวเอง ถูกต้องไหม?”
“ใช่!” ฮามิดพยักหน้า เอ่ยอย่างจริงจัง: “ที่ตะวันออกกลางมีสงครามวุ่นวายเป็นเวลานานหลายปี เดิมทีก็เป็นสวรรค์ของทหารรับจ้าง แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่ามูลค่าการส่งออกประจำปีของทหารรับจ้างในโลกคือเท่าไร แต่อย่างน้อยก็มี 60% ที่อยู่ตะวันออกกลาง”