ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3131
“ตระกูลเย่?!” เย่เฉินขมวดคิ้วและอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ตระกูลเย่ ฆ่าพ่อแม่ของเขาได้อย่างไร?”
เฉินจงเหล่ยกล่าวด้วยความงวยงง “ผมไม่รู้สถานการณ์เฉพาะ ประมุขไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดให้พวกเราทราบ เขากล่าวเพียงแค่ว่าจะให้ตระกูลเย่ชดใช้ด้วยเลือด แต่เรื่องที่เขากับตระกูลเย่มีความแค้นอะไรนั้น พวกเราไม่ทราบชัดเจน”
เย่เฉินถามอีกว่า “คุณเคยได้ยินว่านพั่วจวินพูดไหมว่าในตระกูลเย่นั้นใครคือศัตรูของเขา และชื่ออะไร?”
เฉินจงเหล่ยส่ายศีรษะ “ผมไม่เคยได้ยิน…..”
ตอนนี้เย่เฉินกำลังคิดว่าว่านพั่วจวินต้องการแก้แค้นตระกูลเย่ และเกี่ยวข้องกับใครในตระกูลเย่กันแน่
คือคุณท่านเย่โจงฉวน? หรือลุงใหญ่เย่ฉางโคงหรือสมาชิกตระกูลเย่คนอื่น ๆ?
เย่เฉินคิดว่าว่านพั่วจวินคนนี้อายุไล่เลี่ยกับตนเอง หากคนของตระกูลเย่ฆ่าพ่อแม่ของเขาจริง ๆ อย่างน้อยมันก็ต้องเป็นเรื่องเมื่อสิบหรือยี่สิบปีก่อน
ตอนนั้น นอกจากคุณปู่และลุงใหญ่แล้ว ยังมีบุคคลที่เป็นแกนหลักอีกคนในตระกูลเย่ นั่นก็คือเย่ฉางอิงซึ่งเป็นพ่อของตนเอง
ดังนั้น เขาจึงแอบสงสัยว่าศัตรูของว่านพั่วจวินอาจเป็นพ่อของตนเองหรือไม่
เพียงแต่คำถามนี้ เฉินจงเหล่ยไม่ทราบคำตอบอย่างแน่นอน และไม่มีความหมายอะไรที่จะถามเขา
หลังจากนั้น เย่เฉินนึกถึงพิธีสักการะบรรพบุรุษของตระกูลเย่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
และการที่ว่านพั่วจวินคิดจะแก้แค้นตระกูลเย่ในช่วงนี้ หรือเขาอาจเลือกในช่วงพิธีสักการะบรรพบุรุษ?
เพราะอย่างไร นี่เป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลเย่ที่ทุกสิบสองปีมีเพียงครั้งเดียว ถ้าตนเองมีความแค้นกับตระกูลเย่ งั้นเป็นเรื่องปกติที่ตนเองจะเลือกโจมตีตระกูลเย่ในวันดังกล่าว
ดังนั้น เขาจึงถามเฉินจงเหล่ยว่า “ว่านพั่วจวินเคยสั่งอะไรคุณไว้หรือไม่? เช่นคุณต้องไปถึงเย่นจิงก่อนวันไหน?”
เฉินจงเหล่ยพยักหน้าและกล่าวว่า “เคยครับ! ให้ผมถึงเย่นจิงก่อนวันที่ 3 เมษายน”
“วันที่ 3 เมษายน….” เย่เฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย และกล่าวด้วยแววตาเคร่งขรึมว่า “วันที่ 5 เมษายนเป็นเทศกาลเช็งเม้ง ตามที่คุณบอกมา ว่านพั่วจวินต้องทำอะไรบางอย่างในวันเช็งเม้งอย่างแน่นอน”
เฉินจงเหล่ยกล่าวด้วยความนอบน้อมว่า “เรื่องที่ว่านพั่วจวินจะวางแผนอะไรนั้น ผมไม่ทราบจริง ๆ”
เย่เฉินตอบรับประโยคหนึ่ง จากนั้นขอโทรศัพท์ดาวเทียมกับฮามิด แล้วโทรหาถังซื่อไห่
หลังจากรับสาย ถังซื่อไห่ถามว่า “สวัสดีครับ มิทราบว่าเป็นใคร?”
เย่เฉินกล่าวว่า “พ่อบ้านถัง ผมเย่เฉิน”
“คุณชาย!” ถังซื่อไห่ถามด้วยความประหลาดใจ “ทำไมคุณถึงโทรมาจากต่างประเทศ อ้อ ใช่! ผมได้ยินว่าเครื่องบินคองคอร์ดของคุณท่านออกไปแล้ว น่าจะส่งคุณไปที่ตะวันออกกลางใช่ไหม?”
“ถูกต้อง” เย่เฉินกล่าว “พ่อบ้านถัง ที่ผมโทรหาคุณเพราะมีเรื่องบางอย่างอยากจะถามคุณ”
ถังซื่อไห่รีบกล่าวว่า “คุณชายถามมาได้เลยครับ ผมจะตอบทุกอย่างที่ผมรู้!”
เย่เฉินถามเขาว่า “คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับคนที่ชื่อว่านพั่วจวินไหม?”
“ว่านพั่วจวิน?” ถังซื่อไห่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “คุณชาย ผมเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน”
เมื่อก่อนว่านเหลียนเฉิงพ่อของว่านพั่วจวินไม่ได้โด่งดังในเย่นจิง เขาเป็นเหมือนสุนัขตัวหนึ่งที่ติดตามซูโสว่เต้าเท่านั้น และตอนที่เกิดเรื่องกับว่านเหลียนเฉิง ลูกชายของเขาว่านพั่วจวินยังเป็นเด็กอยู่ ดังนั้นจึงมีคนไม่มากที่รู้สถานการณ์ของเขา
เย่เฉินถามเขาอีกว่า “ถ้าอย่างนั้นผมถามคุณว่า เมื่อสิบหรือยี่สิบปีก่อนตระกูลเย่มีความขัดแย้งกับคนแซ่ว่านหรือไม่?”
“แซ่ว่าน?” ถังซื่อไห่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “มี! มีคนหนึ่งชื่อว่านเหลียนเฉิงที่อยู่ข้างกายซูโสว่เต้า และเป็นเพราะว่าเขาต้องการออกหน้าแทนซูโสว่เต้า ทำให้เขามีความขัดแย้งกับพ่อของคุณ จากนั้นเขาได้ทำธุรกิจแข่งขันกับพ่อของคุณในตลาดซื้อขายล่วงหน้า แต่สุดท้ายเขาแพ้และล้มละลาย หลังจากนั้นเขาก็ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดตึก แล้วภรรยาก็ฆ่าตัวตายตามด้วยการดื่มยาพิษ…..”
“ตอนนั้นเรื่องนี้ทำให้พ่อของคุณรู้สึกผิดมาก ถึงแม้ว่านเหลียนเฉิงจะเป็นคนที่เริ่มยั่วยุก่อน แต่พ่อของคุณยังสามารถเอาชนะเขาในตลาดซื้อขายล่วงหน้าอย่างเที่ยงตรงยุติธรรม พ่อของคุณยังคงรู้สึกว่าการตายของว่านเหลียนเฉิงนั้นเขาต้องมีส่วนรับผิดชอบ…….”