ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3139
โคบายา ชิจิโร่รีบกล่าวว่า “สบายดี สบายดีมากครับ! ท่านหงห้าและลูกน้องของเขาดีกับผมมาก แต่การรับใช้ Walter นั้นมีความลำบากเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไร ผมสามารถทำได้!”
“Walter…..” เย่เฉินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย Walter เป็นคนที่วางยาพิษพ่อของหวังตงเสวี่ยน จนทำให้พ่อของหวังตงเสวี่ยนไตวายและเกือบจะเสียชีวิต
เมื่อเห็นโคบายา ชิจิโร่เอ่ยถึงเขา เย่เฉินก็ถามว่า “แล้วตอนนี้ Walter เป็นยังไงบ้าง?”
โคบายา ชิจิโร่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้เขาทำได้เพียงนอนอยู่บนเตียงตลอด ชีวิตประจำวันการกินและดื่ม หรือแม้กระทั่งการฟอกไตก็ต้องอยู่บนเตียงทั้งหมด Steve Horowitz พ่อของเขาก็พักอาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน แต่พ่อของเขาแก่แล้ว เลยไม่สามารถดูแล Walter ได้มากนัก”
“อึ่ม” เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวว่า “คุณอยู่ที่นี่ต้องทำตัวดี ผมจะให้หงห้าปรับปรุงความเป็นอยู่ของคุณให้ดีขึ้น และจะลดงานให้กับคุณอีกด้วย”
เมื่อโคบายา ชิจิโร่ได้ยินประโยคนี้ กล่าวด้วยความตื่นเต้นทันที “คุณเย่ คุณ……คุณพูดจริงเหรอ?”
หงห้ายื่นมือออกมาตบศีรษะเขาเบา ๆ และกล่าวด้วยสีหน้าที่บึ้งตึงว่า “ชิจิโร่ คุณยังคงสงสัยคำพูดอาจารย์เย่อีกหรือ? มีตอนไหนบ้างที่อาจารย์เย่ไม่รักษาคำพูด?”
โคบายา ชิจิโร่จับหลังศีรษะของตนเองและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านหงห้าพูดถูก ท่านหงห้าพูดถูก!”
หลังจากนั้น เขารีบมองไปที่เย่เฉิน โค้งคำนับให้เย่เฉินด้วยความซาบซึ้ง และกล่าวด้วยภาษาจีนปนภาษาญี่ปุ่นว่า “คุณเย่ ขอบคุณ! ขอบคุณมาก ๆ ครับ!”
เย่เฉินยิ้มและกล่าวกับหงห้าว่า “หงห้า ผมคิดว่าตอนนี้ธุรกิจของคุณไม่เลว และโคบายา ชิจิโร่ซึ่งเคยยโสโอหัง ตอนนี้กลายเป็นคนสุภาพมาก เห็นได้ชัดว่าได้รับการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณจากที่นี่อย่างแท้จริง และต่อไปต้องพยายามยิ่งขึ้นอีก!”
หงห้ารู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย เขาหัวเราะและกล่าวว่า “อาจารย์เย่ คุณชมเกินไปแล้ว เรื่องนี้ผมได้เรียนรู้จากคุณ และผมปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเมตตา! ถ้าคนที่เชื่อฟังพวกเราก็จะปฏิบัติกับเขาดีหน่อย ถ้าไม่เชื่อฟังพวกเราจะปฏิบัติต่อเขาอย่างเข้มงวด และพยายามให้แต่ละคนกลับตัวกลับใจกลายเป็นคนดี”
โคบายา ชิจิโร่ที่ยืนอยู่ด้านข้างรู้สึกหดหู่ และอดคิดไม่ได้ว่า “แม่งฉิบหาย ผมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณหรอก เมื่ออยู่ใต้อาณัติของคนอื่นจึงจำเป็นต้องก้มหัว… เมื่อคุณปล่อยกูกลับไปญี่ปุ่น ให้กูได้ฟื้นฟูบริษัทผลิตยาโคบายาอีกครั้ง เป็นไปไม่ได้ที่กูจะประพฤติตนต่ำต้อยเช่นนี้หรอก!”
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ โคบายา ชิจิโร่รู้สึกเกลียดชังเย่เฉินมากขึ้นอีก
เย่เฉินเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ราวกับสามารถเข้าใจความคิดของเขา ดังนั้นจึงกล่าวกับหงห้าว่า “ชิจิโร่ในฐานะเพื่อนชาวญี่ปุ่น ที่เดิมนั้นเขาเคยใช้มีชีวิตอย่างหรูหรา แต่การที่เขาอยู่ที่นี่แล้วสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่บุคคลชั้นสูงสามารถเปลี่ยนแปลงเชิงบวกเช่นนี้ได้ พวกเราต้องให้รางวัลแก่เขา”
หงห้าพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง และกล่าวว่า “อาจารย์เย่ สิ่งที่คุณพูดนั้นถูก ผมจะให้รางวัลเขาแน่นอน!”
เย่เฉินคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “หงห้า เอาอย่างนี้ ต่อไปคุณนำเบียร์ไปให้ชิจิโร่สองขวดทุกคืน หลังจากที่เขาทำงานเสร็จแล้ว เขาจะได้ดื่มเบียร์เพื่อเป็นการผ่อนคลาย แล้วก็จัดผักดองและอาหารประเภทยำเพื่อแก้มเหล้า แล้วซื้อซูชิให้เขาอาทิตย์ละครั้ง จิโร่อยู่ที่เมืองจินหลิงมานานแล้ว เขาคงคิดถึงบ้านเกิดมาก ดังนั้นพวกเราต้องให้เขาได้สัมผัสถึงบรรยากาศของบ้านเกิด”
หลังจากนั้น เย่เฉินกล่าวอีกว่า “อ้อ แล้วเตรียมเหล้าสาเกญี่ปุ่นหนึ่งขวดให้ชิจิโร่ทุกสัปดาห์ เหล้าสาเกชั้นดีจากบ้านเกิดของเขา จะทำให้เขารู้สึกถึงความอบอุ่นของบ้านเกิดอย่างแน่นอน”
หงห้ากล่าวโดยไม่ลังเลว่า “โอเค อาจารย์เย่ คุณวางใจเถอะ ผมจะจัดการเป็นอย่างดี!”
โคบายา ชิจิโร่ที่ยังคงเกลียดชังเย่เฉิน เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เฉิน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทันใดนั้นน้ำตาก็ไหลลงมา
เขามองไปที่เย่เฉินด้วยสายตาที่ไม่อยากไม่เชื่อ และอดไม่ได้ที่จะสะอึกสะอื้นอยู่ในใจ “ให้ตายสิ…ผม…ผมเป็นอะไรไป…ทั้งที่ใจผมเกลียดชังเย่เฉิน!”
“ทำไม?…..ทำไมตอนนี้ถึงได้รู้สึก…..ถึงได้รู้สึกว่าเขาเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยเหมือนพ่อ และประกายความเป็นมนุษย์…… ”
“นี่…..นี่คืออาการสต็อกโฮล์ม ซินโดรม ใช่ไหม?”