ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3217
สิ่งเดียวที่ทำได้คือทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อบรรเทาความเคียดแค้นของอีกฝ่าย
แม้ว่าจะต้องจ่ายเงินหลายหมื่นล้านเพื่อชดเชย ก็ไม่รู้สึกเสียดาย
หลังจากลู่เห้าเทียนได้ยินประโยคนี้ กล่าวด้วยความเหยียดหยามว่า “ตาแก่ เป้าหมายใหญ่ที่สุดของประมุขตลอด 20 ปีที่ผ่านมา คือให้ตระกูลเย่ชดใช้ด้วยเลือด ความแค้นที่ไม่อาจอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกันเช่นนี้ คุณคิดว่าเงินเพียงหนึ่งหมื่นล้านก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้หรือ?”
เย่โจงฉวนรู้ว่าอีกฝ่ายไม่น่าจะตกลงทันที แต่การเจรจาทางธุรกิจนั้นไม่มีใครเสนอราคาแล้วอีกฝ่ายพอใจทันที ดังนั้นเขาจึงกล่าวทันทีว่า “ถ้าหนึ่งหมื่นล้านประมุขของคุณไม่ยังไม่พอใจ ถ้าเช่นนั้นพวกคุณระบุตัวเลขมา ตราบใดที่มันอยู่ในขอบเขตที่ตระกูลเย่สามารถยอมรับได้ ผมก็เต็มใจที่จะจ่าย!”
ลู่เห้าเทียนยิ้มและกล่าวว่า “ไม่คิดว่าตาแก่อย่างคุณจะเก่งใช่ย่อย”
หลังจากนั้น เขาหัวเราะและกล่าวว่า “ตาแก่ ในเมื่อคุณต้องการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างสงบ ประมุขของเราก็จะให้โอกาสตระกูลเย่ ขอเพียงแค่ตระกูลเย่ยอมรับเงื่อนไขสามข้อของประมุข ประมุขสามารถไว้ชีวิตพวกคุณได้!”
เย่โจงฉวนรู้สึกดีใจมาก และรีบกล่าวว่า “เงื่อนไขเฉพาะคืออะไร? โปรดบอกให้ชัดเจน ขอเพียงแค่ตระกูลเย่สามารถทำได้ ตระกูลเย่จะทำตามแน่นอน!”
ลู่เห้าเทียนพยักหน้าและกล่าวว่า “งั้นคุณตั้งใจฟังให้ดี”
“ข้อที่หนึ่ง! คืนนี้ไปขุดหลุดฝังศพสมาชิกทั้งหมดของตระกูลเย่ที่ฝังอยู่บนภูเขาเย่หลิงซาน โดยทิ้งโลงศพของเย่ฉางอิงเอาไว้ ส่วนที่เหลือย้ายไปฝังที่อื่นคืนนี้ทันที! ภูเขาเย่หลิงซานจะเปลี่ยนชื่อเป็นภูเขาว่านหลิงซาน และนับจากวันนี้เป็นต้นไปภูเขาเย่หลิงซานจะกลายเป็นสุสานของตระกูลว่าน!”
สมาชิกของตระกูลเย่รู้สึกตกตะลึง!
ย้ายสุสานบรรพบุรุษของตระกูลเย่ไปชั่วข้ามคืน และเปลี่ยนชื่อภูเขาเย่หลิงซานเป็นภูเขาว่านหลิงซาน แม่งฉิบหายเท่ากับบุกรุกครอบครองที่ดินของผู้อื่น?
ประเด็นสำคัญคือ เคยได้ยินเรื่องการแย่งชิงบ้านและที่ดิน แต่ใครเคยได้ยินเรื่องการแย่งชิงสุสานบรรพบุรุษบ้าง?
นี่ไม่ใช่บุกรุกครอบครองที่ดินของผู้อื่นอีกต่อไป นี่คือการบุกรุกครอบครองสุสานของผู้อื่นแล้ว!
เพียงแต่ คุณต้องการแย่งชิงสุสานก็แย่งชิงไป แล้วทำไมถึงต้องทิ้งโลงศพของเย่ฉางอิงเอาไว้ด้วย? ว่านพั่วจวินมีแผนอะไรกันแน่?
เมื่อขณะที่คนตระกูลเย่กำลังมึนงง ลู่เห้าเทียนกล่าวช้า ๆ
“ข้อที่สอง! พรุ่งนี้เช้าตรู่ คนของตระกูลเย่ทั้งหมดไปรวมตัวกันที่เชิงเขาของภูเขาว่านหลิงซานในชุดผ้ากระสอบ และใช้กระบวนการทั้งหมดของพิธีงานไหว้บรรพบุรุษของพวกคุณ ในการฝังพ่อแม่ของประมุข!”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ คนของตระกูลเย่ยิ่งสติแตก
งานไหว้บรรพบุรุษตระกูลเย่ คือเป็นงานไหว้บรรพบุรุษของตระกูลเย่ที่ปฏิบัติมาหลายร้อยปี
ตอนนี้ ว่านพั่วจวินไม่เพียงแต่ขอให้พวกเขาไปขุดหลุมฝังศพของบรรพบุรุษ และย้ายออกไปชั่วข้ามคืน แต่ยังขอให้พวกเขาใส่เสื้อกระสอบไว้ทุกข์ให้กับว่านเหลียนเฉิงและภรรยา? !
ว่านเหลียนเฉิงและภรรยา จะเทียบกับบรรพบุรุษของตระกูลเย่ได้อย่างไร?!
ถ้าตระกูลเย่ทำเช่นนั้นจริง ๆ มันจะกลายเป็นความอับอายต่อหน้าคนทั้งประเทศหรือแม้แต่คนทั้งโลก และมันจะกลายเป็นเรื่องที่ทำให้คนทั้งโลกหัวเราะเยาะ? !
ขณะที่คนตระกูลเย่รู้สึกโกรธเคือง ลู่เห้าเทียนกล่าวอีกว่า “ข้อที่สาม พวกคุณตระกูลเย่จะต้องยินยอมนำทรัพย์สินของตระกูลเย่ออกมาครึ่งหนึ่งเป็นค่าชดเชยสำหรับการเสียชีวิตของว่านเหลียนเฉิงและภรรยา!”
เงื่อนไขข้อที่สาม เดิมทีไม่ได้อยู่ในขอบเขตการพิจารณาของว่านพั่วจวิน
ก่อนหน้านั้น เขาแค่ต้องการใช้กำลังทั้งหมดเพื่อทำให้ตระกูลเย่อับอาย ยึดสุสานบรรพบุรุษของตระกูลเย่ แล้วทำลายกระดูกของเย่ฉางอิงให้เป็นเถ้าถ่าน แต่ไม่เคยคิดที่จะรีดไถเงินจากตระกูลเย่
แต่คราวนี้ สำนักว่านหลงสูญเสียในซีเรียนั้นหนักหนาสาหัสมาก
เขารู้ดีว่า ถ้าตอนที่เมื่อเขาไปเจรจากับซีเรีย ซีเรียจะใช้นักโทษจำนวน 10,000 คน มารีดไถเงินกับตนเองอย่างแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมพร้อม
ดังนั้นเขาจึงต้องการให้ตระกูลเย่เป็นคนแบกรับความสูญเสียทั้งหมดนี้
และเมื่อคนตระกูลเย่ฟังถึงตรงนี้ นอกจาเย่เฉินแล้ว ทุกคนต่างสติแตกอย่างสมบูรณ์!