ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3303
เย่เฉินพยักหน้า มองลู่เห้าเทียนที่ถูกทำให้พิการอีกครั้ง รวมถึงเฉินจงเหล่ยที่ถูกขังอยู่ในจิตสำนึก พร้อมกล่าวเสียงเรียบว่า “สองสามวันนี้พวกแกสองคนจงคิดทบทวนให้ดี รอหลังจากที่พวกแกถึงเมืองจินหลิง ฉันจะให้โอกาสพวกแกหนึ่งครั้งในการปรับปรุงตัวใหม่ ทำให้พวกแกกลับคืนสู่สภาพเดิม แต่พวกแกก็ต้องจำไว้ด้วยว่าหากพวกแกกล้ามีใจคิดไม่ซื่อใดๆ ฉันจะทำให้พวกแกอยู่ไม่สู้ตาย!”
พอลู่เห้าเทียนได้ยินคำนี้ ก็ปล่อยเสียงร้องไห้โฮทันที พลางกล่าวสะอึกสะอื้นว่า “คุณเย่โปรดวางใจ! ต่อไปผมจะบุกน้ำลุยไฟเพื่อคุณ……”
จิตสำนึกของเฉินจงเหล่ยถูกผนึกไว้ใหม่อีกครั้งนานแล้ว จึงยืนอยู่ที่เดิมพูดไม่ได้ไปชั่วขณะ
แต่จิตสำนึกที่ถูกขังอยู่ในร่างกายของเขา เวลานี้ก็ตื่นเต้นสุดจะบรรยายเช่นกัน!
สำหรับเขาแล้วพูดได้ว่าขอเพียงวันเวลาที่ร้องขอชีวิตก็ไม่ได้ ร้องขอความตายก็ไม่อาจเช่นนี้จบสิ้นลงเสียที จะให้เขาทำอะไร เขาจะไม่ปริปากบ่นสักคำ
ว่านพั่วจวินคิดไม่ถึงว่าเย่เฉินจะถึงกับยังปล่อยสหายร่วมรบที่รักกันแน่นแฟ้นสองคนของตนด้วย ก็พลันกล่าวขึ้นด้วยความซาบซึ้งใจว่า “คุณเย่ บุญคุณอันยิ่งใหญ่ของคุณ พวกเขาไม่มีทางลืมอย่างแน่นอน!”
เย่เฉินพงกศีรษะเล็กน้อย เอ่ยปากกล่าวว่า “พวกนายจงฟัง เรื่องในวันนี้ อีกเดี๋ยวสำนักว่านหลังกับตระกูลเย่จะปล่อยข่าวลือออกไปพร้อมกัน โดยบอกว่าความเข้าใจผิดของสองตระกูลในปีนั้นได้รับการแก้ไขแล้ว ต่อไปสำนักว่านหลงกับตระกูลเย่จะลืมเรื่องราวแต่เก่าก่อนกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ไม่มีแค้นใหม่แค้นเก่าใดๆ กันอีก สำหรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ ใครก็ตามในสำนักว่านหลงห้ามแพร่งพรายออกไปข้างนอกโดยเด็ดขาด!”
ว่านพั่วจวินรีบกล่าวทันทีว่า “อีกเดี๋ยวผมจะประกาศออกไปข้างนอกครับ!”
เย่เฉินพยักหน้า กล่าวอีกว่า “ถึงตอนนั้น โลกภายนอกจะต้องคาดเดากันว่าตระกูลเย่หลบหลีกภัยพิบัตินี้ไปได้อย่างไร ถึงเวลาสำนักว่านหลงก็ปล่อยข่าวลือออกไปข้างนอก บอกว่าตระกูลเย่มอบสิทธิ์ในการถือหุ้นครึ่งหนึ่งของเย่ซื่อกรุ๊ปให้กับสำนักว่านหลง โดยแลกกับการให้อภัยของสำนักว่านหลง!”
ว่านพั่วจวินรวมถึงเหล่านักบู๊ของสำนักว่านหลงทั้งหมดล้วนไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนต่างไม่เข้าใจ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเย่เฉินเอาชนะว่านพั่วจวินได้ เพราะอะไรถึงต้องประกาศออกไปว่าตระกูลเย่ยอมแพ้สำนักว่านหลง
แต่ว่านพั่วจวินเข้าใจ เย่เฉินทำเช่นนี้จะต้องมีเหตุผลของเขา สิ่งที่ตนต้องทำก็คือการปฏิบัติตามคำสั่งใดๆ ที่เขาถ่ายทอดลงมาร้อยเปอร์เซ็นต์ ห้ามถามให้มากความ
ด้วยเหตุนี้เขาจึงรีบกล่าวอย่างนอบน้อมว่า “คุณเย่วางใจ ผมจะประกาศออกไปตามที่คุณสั่งอย่างแน่นอน!”
เย่โจงฉวนฟังด้วยความงุนงงสงสัยเป็นอย่างมาก รีบถามว่า “เฉินเอ๋อ นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของเธอในการกลับคืนสู่ตระกูลเย่อย่างเป็นทางการ หากประกาศออกไปภายนอกว่าสำนักว่านหลงภักดีต่อเธอแล้ว อย่างนั้นข่าวลือภายในประเทศของตระกูลเย่ก็จะไม่มีใครพูดถึงอีกอย่างแน่นอน โอกาสดีขนาดนี้ ทำไมเธอกลับต้องการให้คนอื่นคิดว่าเป็นตระกูลเย่ของพวกเราที่ยอมแพ้ด้วยล่ะ?”
เย่เฉินกล่าวเรียบๆ ว่า “อนาคตสำนักว่านหลงก็คือกองกำลังที่เหนือความคาดหมายกองหนึ่งในมือผม หากปล่อยข่าวที่เอาชนะสำนักว่านหลงได้ออกไปทื่อๆ ทั้งอย่างนี้ ก็เป็นเพียงการเพิ่มชื่อเสียงอันจอมปลอมขึ้นเท่านั้น นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์อันใดแล้ว ตรงกันข้าม เป็นไปได้มากว่ายังจะไปเพิ่มความสนใจของผู้อื่นแล้วก็ถูกจับตามองเพราะเหตุผลนี้อีกด้วย!”
“แทนที่จะทำแบบนี้ สู้จัดการเรื่องอย่างเงียบๆ สักหน่อย ทำตัวหลบเร้นดั่งเช่นพยัคฆ์ไม่ดีกว่าเหรอ! ให้คนภายนอกคิดว่าตระกูลเย่ยอมก้มหัวให้สำนักว่านหลงแล้ว ขวัญกำลังใจเสียหายอย่างหนัก แบบนี้ไม่เพียงสามารถทำให้ศัตรูที่หลบซ่อนอยู่คลายใจ อนาคตหากมีศึกใหญ่จำเป็นต้องให้สำนักว่านหลงออกโรง ก็สามารถบุกทีเผลอ จู่โจมโดยไม่คาดคิดได้!”
เย่โจงฉวนเข้าใจจุดประสงค์ของเย่เฉินแล้ว จึงรีบร้อนถามอีกว่า “เฉินเอ๋อ หรือว่าหนนี้เธอยังไม่ได้เตรียมประกาศกับคนนอกเรื่องที่เธอจะกลับสู่ตระกูลเย่?”
เย่เฉินเอ่ยปากกล่าวว่า “ยังไม่ถึงเวลาประกาศให้คนนอกรู้ชั่วคราว ผมต้องการสืบหาความจริงเรื่องที่พ่อกับแม่ถูกฆ่าในปีนั้น นอกจากนี้ก็หาโอกาสไปลูบก้นตระกูลรอธส์ไชลด์เสียหน่อย ก่อนที่ความจริงยังไม่แน่ชัด จึงไม่อาจเปิดเผยตัวเองโดยพลการได้ และไม่อาจมอบความได้เปรียบที่ศัตรูอยู่ในที่แจ้งผมอยู่ในที่ลับออกไป”
เย่โจงฉวนพยักหน้าเบาๆ ถามเขาว่า “เฉินเอ๋อ อย่างนั้นฉันต้องประกาศเรื่องตระกูลเย่เปลี่ยนแปลงผู้นำตระกูลแก่คนนอกอย่างไรล่ะ?”
เย่เฉินกล่าวว่า “เรื่องไม่ไม่จำเป็นต้องรีบประกาศ ต่อไปเรื่องใหญ่น้อยในตระกูลเย่ แม้ในความเป็นจริงผมเป็นคนจัดการ แต่ฉากหน้าคุณยังคงเป็นผู้นำตระกูลเย่”
เย่โจงฉวนตกปากรับคำ กล่าวว่า “ดี! งั้นฉันก็จะไม่ประกาศชั่วคราว”
เย่เฉินมองกลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังตัวเองอีกครั้ง พร้อมทำท่าประสานมือกล่าวด้วยความจริงใจว่า “ทุกท่าน! ขอบคุณทุกท่านมากที่วันนี้มายังภูเขาเย่หลิงซานเพื่อผมเย่เฉินได้ แต่ขอทุกท่านโปรดช่วยผมสักเรื่อง อย่าได้แพร่งพรายเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเย่หลิงซานวันนี้ออกไป!”