ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3349
คิดได้ว่าตัวเองพูดผิดไป เขาก็รีบปฏิเสธทันที “ฉันไม่ได้โกง! เมื่อกี้ฉันก็แค่พูดไปมั่วเท่านั้น!”
เย่เฉินพูดเสียงเย็นชา “พูดมั่วงั้นหรอ? ได้!”
เย่เฉินพูดจบ ก็มองไปยังเจ้ามือคนนั้น พูดเสียงแข็งว่า “นาย! พูดทุกอย่างออกมาให้หมด!”
เจ้ามือคนนั้นรีบพูดว่า “วันนี้วิลเลียมเชิญผมมา ก็เพื่ออยากจะให้ผมช่วยเขาจัดไพ่บนโต๊ะพนันให้กับเขา ให้เขาชนะเงินมาก้อนหนึ่ง เขาทำแบบนี้ไม่ใช่แค่เพียงครั้งเดียวแล้ว ทุกครั้งล้วนมีเงินนับล้านถึงสิบล้านยูโรเข้าบัญชี ครั้งนี้ผมเองก็ทำตามคำสั่งของเขา ดังนั้นจึงได้ช่วยเขาโกงครับ…..”
เย่เฉินมองไปทางวิลเลียม ถามด้วยเสียงเย็นชาว่า “มา นายยังมีอะไรจะพูดอีก?”
วิลเลียมไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองยังไงดี ในขณะนี้เอง จู่ๆเขาก็เหลือบไปเห็นใบค้างหนี้บนโต๊ะ
วันนี้ เดิมทีเขาชนะเย่เฉินหนึ่งพันล้าน ตอนนี้แพ้ใบค้างหนี้สองพันล้านไป เท่ากับว่าไม่เพียงแต่จะไม่ชนะเงินของเย่เฉินแล้ว ตัวเองยังเป็นหนี้เข้าไปอีกหนึ่งพันล้าน
แต่เขาคิดว่า หลักฐานการเป็นหนี้ทั้งหมด ล้วนอยู่บนใบค้างหนี้ใบนั้น!
เพียงแค่ใบค้างหนี้ใบนั้นไม่มีอยู่ หนี้ก้อนนี้ ก็ไม่นับแล้ว!
เพียงแค่ทำลายใบค้างหนี้ทิ้ง อย่างมากมันก็แค่ตัวเองเล่นเสียเวลาเปล่าไปคืนหนึ่งก็เท่านั้น!
ฉะนั้น เขายื่นมือออกไปกะทันหันโดยคิดไปเองว่ารวดเร็ว ยื่นมือไปจับใบแจ้งหนี้ใบนั้น แล้วจะยัดเข้าปากอย่างกับบ้าไปแล้ว!
แต่ว่าความรวดเร็วที่เขาคิดนั้น ในสายตาของเย่เฉิน มันช้าอย่างกับมด
ในวินาทีที่วิลเลียมอยากจะยัดใบค้างหนี้เข้าปาก จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าข้อมือของตัวเอง ถูกใครบางคนจับไว้อย่างแน่นหนา!
ตามมาด้วย ข้อมือขวาของเขาก็ส่งเสียงแตกหักที่ดังคมชัดออกมา!
กร็อบ!
เขารู้สึกเพียงแค่ว่าข้อมือขวามีความเจ็บปวดอย่างที่สุด เงยหน้ามองไป ก็พบว่าข้อมือของตัวเองกับแขน เหลือการเชื่อมต่อกันเพียงแค่ผิวหนังแล้วเท่านั้น
กระดูกได้หักไปแล้ว ถึงขั้นที่ว่ากระดูกที่หักนั้นได้ทิ่มแทงออกมานอกผิวหนังจนเลือดไหลออกมาไม่หยุด
ในเวลานี้เย่เฉินได้ดึงเอาใบค้างหนี้ออกไปจากมือของเขาแล้ว และพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “เก่งนี่วิลเลียม โกงพนันก็ว่าไปแล้ว พอแพ้เสียเงินก็จะกินใบค้างหนี้เข้าไป แกนั่นแหละที่เป็นคนฉ้อโกงของจริง!”
พูดแล้ว เย่เฉินก็พูดเตือนเขาด้วยเจตนาฆ่าอย่างรุนแรงว่า “ถ้าหากนายคิดอยากจะเบี้ยวหนี้ ส่วนต่อไปที่จะหักแบบนี้ ก็คือสิ่งนั้นในกางเกงของนาย!”
วิลเลียมแทบจะเสียสติไปแล้ว ความเจ็บปวดอย่างมากมายทำให้เหงื่อไหลรินตามกรอบหน้าของเขา
เขารู้ว่าวันนี้ตัวเองเจอเข้าของแข็งแล้ว และในที่สุดก็เข้าใจ ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้เย่เฉินแค่แกล้งทำเป็นอ่อนหัดเพื่อให้เขาประมาทเท่านั้น
แต่เขาก็กลัวจริงๆว่าเย่เฉินจะตัดรากฐานของตัวเองจริงๆ
ฉะนั้น จึงทำได้เพียงกัดฟันรับชะตากรรม เอ่ยปากพูดว่า “ได้! เย่เฉิน! นายมันเก่ง! ฉันยอมแพ้นาย!”
เย่เฉินพูดยิ้มเยาะ “อย่ายอมแพ้ฉัน ฉันเองก็ไม่ต้องการให้นายยอมแพ้ฉัน นายจ่ายเงินสองพันล้านยูโรนี้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน! ด้านบนนี้เขียนไว้อยู่นะ ขาดไปแม้แต่แดงเดียวฉันก็ไม่ปล่อยนายไว้!”
“อะไรนะ?!” วิลเลียมตะโกนอย่างโมโหที่สุด “เมื่อกี้ฉันชนะนายหนึ่งพันล้านแล้วไง! ตอนนี้แพ้นายสองพันล้าน อย่างมากก็แค่ค้างหนี้นายหนึ่งพันล้านก็เท่านั้น!”
เย่เฉินพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “นายอย่ามาเลวกับฉันแถวนี้ ตอนนี้ชิปบนโต๊ะทั้งหมดนั้นล้วนเป็นของฉัน นายชนะใครหนึ่งพันล้าน?”
พูดแล้ว เย่เฉินก็ยิ้มอย่างดูถูก และพูดอีกว่า “อีกอย่าง ชิปมันก็เป็นแค่ของเล่นพลาสติก ไม่ใช่เงิน ส่วนใบค้างหนี้ที่เขียนไว้บนกระดาษทำการเซ็นชื่อและประทับตรา ถึงจะเป็นความหมายของเงินที่แท้จริง นายเข้าใจมั้ย?”
วิลเลียมโมโหจนบ้าไปแล้ว พูดออกไปว่า “เย่เฉิน! นายยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า? คนมากมายอยู่ที่นี่ล้วนเป็นพยานให้ฉันได้! พวกเขาล้วนเป็นพยานผู้เห็นเหตุการณ์!”
เย่เฉินพยักหน้า “ไม่มีปัญหา นายมีพยานผู้เห็นเหตุการณ์ของนาย ส่วนฉันมีหลักฐานแน่นหนา!”
พูดจบ เย่เฉินก็พูดอีกว่า “อีกอย่าง พวกเราเองก็ให้คนยุโรปมาออกความเห็น ว่าใบค้างหนี้ติดหนี้ฉันสองพันล้านยูโรที่เป็นตัวอักษร หรือนายที่รวมหัวกับคนอื่นมาโกงฉัน แต่สุดท้ายกลับถูกฉันพลิกสถานการณ์กินจนหมดตัวนั้นใครมันมีเหตุผลมากกว่ากัน!”
วิลเลียมได้ยินอย่างนี้ ก็ตกใจจนหน้าซีดไปหมด
ส่วนเย่เฉินนั้นยังพูดไม่จบ
เขามองวิลเลียม พูดต่อไปว่า “อ้อใช่สิ รวดให้ตุลาการของยุโรปเหนือวิเคราะห์ด้วยสักหน่อย ว่านายโกงกินในการพนัน คิดอยากจะลองชนะเงินสามพันล้านยูโรไปจากฉันแล้วบวกกับเครื่องบินอีกลำหนึ่ง เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ตามกฎหมายของยุโรปเหนือแล้ว ไม่รู้ว่าจะตัดสินจำคุกกี่ปี?!