ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3403 แย่งชิงกันขึ้นหน้ากลัวไม่ทันคนอื่น
ตอนที่เย่เฉินพูดว่าปราณีมากแล้ว สมาชิกตระกูลย่อยกลุ่มนี้ ยังคิดว่าเย่เฉินช่างหน้าหนาไร้ยางอายอย่างที่สุด
แต่ว่าหลังจากที่ว่านพั่วจวินร่วมมือกับเย่เฉินอย่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเช่นนี้ พวกเขาก็พลันตกใจจนเกือบแข้งขาอ่อนแรงลงไปกองอยู่กับพื้นอีกครั้ง
คำพูดของว่านพั่วจวิน ทำให้พวกเขาเข้าใจหลักการพื้นฐานอย่างหนึ่งแล้ว นั่นก็คือหากเย่เฉินหักใจต้องการชีวิตของพวกเขา ว่านพั่วจวินจะต้องเป็นคนจัดการอย่างแน่นอน
อีกทั้ง สำหรับองค์กรทหารรับจ้างที่วางรากฐานอยู่นอกประเทศแล้ว พวกเขาย่อมไม่มีกฎหมายใดให้คำนึงถึง อย่างมากก็แค่หนีไปเขตสนามรบ ใครก็ไม่อาจทำอย่างไรกับพวกเขาได้
ด้วยเหตุนี้ คนกลุ่มนี้จึงไม่รู้เช่นกันว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน ต่างพากันคุกเข่าลงกับพื้นทางหนึ่งโขกศีรษะ ทางหนึ่งร้องอ้อนวอน
“เย่เฉิน……พวกเราแม้แต่สุนัขกับหมูก็ยังสู้ไม่ได้ ขอร้องคุณล่ะให้โอกาสพวกเราอีกสักครั้ง นับแต่นี้ต่อไปพวกเราจะภักดีต่อตระกูลเย่ ต่อให้ฟ้าถล่มลงมา พวกเราจะไม่มีทางหนีไปไหนอีก……”
“เย่เฉิน……คุณจะลงโทษพวกเราอย่างไร พวกเราล้วนยินดีรับโทษด้วยความเต็มใจ ขอเพียงให้คุณเห็นแก่ที่พวกเราทุกคนอย่างไรก็เป็นตระกูลเดียวกัน ไว้ชีวิตสุนัขพวกเราสักครั้ง แล้วอนาคตพวกเราจะทำคุณไถ่โทษให้กับตระกูลเย่!”
“ใช่แล้ว เย่เฉิน……อย่างไรทุกคนก็ตระกูลเดียวกัน เกิดมาจากรากเหง้าเดียวกัน แล้วเหตุใดถึงมาเผาผลาญกันเล่า! ต่อให้พวกเราทำผิดมากมายเพียงใด ก็เป็นแค่ความขลาดเขลา เกิดกลัวตายขึ้นมา แต่ไรมาก็ไม่มีใจต้องการทำร้ายตระกูลเย่ ขอร้องล่ะ หนนี้คุณปล่อยพวกเราไปเถิดนะ”
เย่เฉินมองเห็นท่าทางแต่ละคนน้ำตานองหน้า ก็พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ในเมื่อทุกคนคือตระกูลเดียวกัน การไว้ชีวิตพวกคุณไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่พวกคุณจะต้องเดินจากตรงนี้ปีนขึ้นไปบนภูเขาเย่หลิงซานโดยทุกๆ สามก้าวให้คำนับหนึ่งครั้งให้ฉันก่อน หลังสารภาพผิดต่อบรรพบุรุษตระกูลเย่แล้ว ฉันค่อยใคร่ครวญอีกทีว่าจะให้ทางรอดกับพวกคุณดีหรือไม่!”
พูดจบ เย่เฉินก็กล่าวอีกว่า “พวกคุณจงฟังฉันให้ดี 50%ที่ขึ้นไปถึงก่อนแรกสุด ฉันจะทำการลงโทษไม่มากชั่วคราว แต่50%ที่อยู่แถวหลัง หลังขึ้นไปค่อยคุกเข่าให้ฉัน24ชั่วโมง!”
พอประโยคนี้พูดออกมา สมาชิกตระกูลย่อยคนหนึ่งก็พูดโพล่งออกมาอย่างตื่นเต้น “ฉันปีน ฉันจะปีน!”
กล่าวจบ ก็โขกศีรษะไปทางภูเขาเย่หลิงซานทันที จากนั้นก็ลุกขึ้นมา สาวเท้ายาวๆ สามก้าว แล้วคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังตุ้บ ก่อนจะโขกศีรษะอีกหนึ่งที
คนอื่นๆ เห็นดังนี้ แต่ละคนก็แย่งกันพูดขึ้นมาด้วยจะกลัวไม่ทันคนอื่น
“ฉันโขกด้วย!”
“ฉันก็ด้วย!”
ชั่วขณะนั้น ทุกคนราวกับเสียสติ คุกเข่ากราบโดยทุกๆ สามก้าวจะคำนับหนึ่งครั้งไปทางภูเขาเย่หลิงซาน
เย่เฉินสั่งให้ทหารของสำนักว่านหลงจับตาดูคนกลุ่มนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาแอบเล่นตุกติก ส่วนตนก็ไม่สนใจคนกลุ่มนี้อีก สาวเท้าก้าวขึ้นไปบนภูเขาเย่หลิงซานเพียงลำพัง
บนภูเขาเย่หลิงซานในเวลานี้ คนกลุ่มนั้นของตระกูลเย่ยังนั่งคุกเข่าอยู่อย่างว่าง่าย
มองเห็นเย่เฉินกลับมา ในดวงตาของแต่ละคนล้วนเจือไปด้วยแววหวาดกลัวระคนยำเกรง
เวลานี้คุณท่านเย่ก็อยู่บนเขาเช่นกัน พอเห็นเย่เฉินมาแล้ว ก็รีบร้อนเดินมาต้อนรับ พลางเอ่ยปากถามเขาว่า “เฉินเอ๋อ เรื่องทางฝั่งยุโรปเหนือยังราบรื่นอยู่ใช่ไหม? ฉันเห็นข่าวแล้ว ควีนแห่งยุโรปเหนือประกาศยกเลิกสิทธิ์ในการสืบทอดราชบัลลังก์ของโอลิเวียคนนั้นอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมกับประกาศว่าอีกสามวันให้หลังต้องการมอบราชบัลลังก์ให้กับเฮเลน่า”
เย่เฉินพยักหน้า กล่าวเรียบๆ ว่า “ทางฝั่งยุโรปเหนือเรียบร้อยแล้วครับ รอหลังจากเฮเลน่าขึ้นครองราชย์แล้ว ตระกูลเย่ก็จะร่วมมือทางด้านธุรกิจกับราชวงศ์ยุโรปเหนืออย่างเป็นทางการ ถึงตอนนั้นผมจะส่งฝ่ายการค้าไปที่นั่นเพื่อหารือกับเฮเลน่า”
คุณท่านเย่กล่าวขึ้นด้วยสีหน้าชื่นชม “เฉินเอ๋อ ภายในเวลาสั้นๆ สามารถทำให้ราชวงศ์ยุโรปเหนือเปลี่ยนกษัตริย์ ทำให้ทั้งราชวงศ์ยุโรปเหนือเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารได้เช่นนี้ ทั่วโลกเกรงว่าคงจะมีแต่เธอที่ทำได้แล้ว!”