ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3451
“ยังครับ” ว่านพั่วจวินรีบเอ่ย: “หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้พวกเขาได้ส่งสามคนนั้นไปถึงฮามิดซีเรียอย่างปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้น่าจะกำลังเดินทางกลับแล้ว”
“ดี” เย่เฉินเอ่ย: “ในเมื่อพูดถึงซีเรียแล้ว ฉันมีความคิดเห็นอย่างหนึ่ง อยากจะหารือกับนายสักหน่อย”
ว่านพั่วจวินเอ่ยอย่างไม่ลังเลว่า: “คุณเย่ คุณมีเรื่องอะไรรับสั่งมาได้เต็มที่เลย ไม่ต้องขอความเห็นของกระผมหรอก ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจทำอะไร กระผมก็จะทำตามร้อยเปอร์เซ็นต์!”
เย่เฉินโบกมือ: “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสำนักว่านหลงในอนาคต ดังนั้นฉันไม่เพียงแต่ต้องขอความเห็นของนาย ยังต้องขอความเห็นจากทหารจากสำนักว่านหลงคนอื่นๆ ด้วย”
สิ้นเสียง เย่เฉินเอ่ยขึ้นอีกว่า: “ที่ฉันอยากจะคุยกับพวกนาย ก็คือปัญหาที่ว่าลำดับต่อไปสำนักว่านหลงควรจะพัฒนาไปทิศทางไหนดี”
ว่านพั่วจวินเอ่ยด้วยความเคารพนอบน้อมทันที: “คุณเย่เชิญพูดมาได้เลยครับ กระผมจะตั้งใจฟัง!”
เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยด้วยความจริงจัง: “ปีนั้นซ่งเจียงถูกบังคับให้อิทธิพลกดดันให้ไปเป็นโจร วันแรกที่กลายเป็นโจร ภายในหสัวก็คิดเพียงว่าจะชำระความบริสุทธิ์ในอนาคต แม้ว่าสำนักว่านหลงจะไม่ใช่โจร แต่ว่าพวกนายก็แฝงเข้าร่วมความวุ่นวายในสงครามโลกและพื้นที่เป็นเวลานาน การสู้รบก็ดูเพียงว่าได้เงินเยอะหรือเงินน้อย แต่ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องถูกต้องหรือผิด ตั้งหลายปีมาก็มีพฤติกรรมช่วยคนเลวกระทำความชั่วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นแม้ว่าสำนักว่านหลงจะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ทว่าสำหรับคนภายนอกกลับไม่ใช่ชื่อเสียงที่ดีอะไร”
กล่าวถึงตรงนี้ เย่เฉินเงียบไปสักครู่ เอ่ยต่อว่า: “แต่ปัจจุบันนี้ สำนักว่านหลงของพวกนายได้มาอยู่ใต้บังคับบัญชาของฉันเย่เฉินทั้งหมดแล้ว เส้นทางข้างหน้าทอดยาว ทั้งอันตรายและยาวนาน ฉันก็ไม่อยากเห็นอนาคตพวกนายต้องมาถูกโลกภายนอกดูหมิ่นรังเกียจ ดังนั้นฉันหวังว่าสำนักว่านหลงจะสามารถปฏิรูปใหม่ ชำระมลทินให้โดยเร็วที่สุด”
ว่านพั่วจวินเอ่ยอย่างไม่ลังเลสักนิด: “คุณเย่ครับ สิ่งที่คุณพูดมาเหล่านี้ ผมก็มีความคิดคล้ายกันตั้งนานแล้วเหมือนกัน เพียงแค่ทหารภายในบังคับบัญชาของสำนักว่านสำนักว่านหลงมีมากเกินไป ค่าใช้จ่ายเยอะมหาศาล ตามความสามารถของผม คิดไม่ออกโดยตลอดว่าจะพาทุกคนปฏิรูปอย่างราบรื่นได้ยังไง ไม่รู้ว่าคุณเย่มีความคิดดีๆ อะไรบ้าง?”
เย่เฉินเอ่ยอย่างจริงจัง: “ความคิดของฉันตอนนี้แบ่งเป็นสามแนวทาง หนึ่งก็คือละทิ้งเส้นทางที่ไม่ดีไปทั้งหมด แล้วมาเป็นทหารรับจ้างผดุงคุณธรรมอย่างถูกกฎหมาย สองก็คือไปทำงานรักษาความปลอดภัยทางการขนส่ง รับประกันให้เรือขนส่งสินค้าผ่านเขตแดนที่โจรสลัดอาละวาดไปได้อย่างปลอดภัย สามคือรักษาความปลอดภัยให้กับโครงการทีม ให้บริการรักษาความปลอดภัยรอบด้านกับโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศที่พัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนาในโลกที่สาม”
สิ้นเสียง เย่เฉินก็ได้กล่าวอธิบายแนวทางที่เย่เฉินถกเถียงกับกู้เย้นจงคืนนั้นให้กับทุกคนฟัง
ระหว่างนั้น จะยึดความปลอดภัยการขนส่งในประเด็นที่สองเป็นหลัก
เพราะว่าเย่เฉินวางแผนคิดว่าจะให้สำนักว่านหลงก่อสร้างฐานทัพขึ้นที่ซีเรีย ใช้ซีเรียเป็นแนวหลังใหญ่ สนับสนุนช่วยเหลืองานคุ้มกันให้กับพวกเขาที่อ่าวเอเดน
พอได้ยินว่าในอนาคตจะปฏิรูปเป็นรักษาความปลอดภัยของเรือพาณิชย์ทั่วโลกรวมทั้งโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานให้แต่ละประเทศในโลกที่สามแล้ว เหล่าทหารของสำนักว่านหลงต่างก็มีความตื่นเต้นอยู่ลึกๆ งานเช่นนี้ไม่เพียงแต่ถูกธรรมนองคลองธรรมถูกกฎหมาย แถมยังส่งผลประโยชน์อย่างมากต่อสังคมอีกด้วย ซึ่งมีความแตกต่างอย่างใหญ่หลวงเมื่อเทียบกับทิศทางกิจการของสำนักว่านหลงในอดีต
ว่านพั่วจวินเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เขาต้องการให้สำนักว่านหลงชำระล้างมลทินมาโดยตลอด ทว่าก็ยังไม่เจอแนวทางอยู่เรื่อย ทว่าเมื่อได้ยินเย่เฉินกล่าวจบแล้ว ก็รู้สึกตาสว่างวาบทันที
ดังนั้น เขาจึงรีบถามเย่เฉินว่า: “คุณเย่ ชื่อเสียงสำนักว่านหลงแต่ก่อนมันไม่ค่อยดีจริงๆ คุณคิดว่าถ้าพวกเราปฏิรูปเป็นงานดูแลความปลอดภัยทางการขนส่งรวมทั้งความปลอดภัยของโครงการแล้ว ลูกค้าจะใช้บริการอยู่หรือเปล่า?”
เย่เฉินยิ้ม เอ่ยว่า: “บริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดได้รับเงินอัดฉีดเป็นจำนวนหมื่นล้านยูโรเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลานั้นจะกลายมาเป็นกิจการการขนส่งชั้นนำของโลก ถึงตอนนั้นฉันจะนำงานดูแลความปลอดภัยทางขนส่งทั้งหมดมอบให้กับสำนักว่านหลง ขอแค่พวกนายสามารถหยิบยืมโอกาสนี้สร้างชื่อเสียงที่อ่าวเอเดนขึ้นมาให้ได้ ลูกค้าก็จะต้องยอมรับการคุ้มกันจากพวกนายแน่นอน”
สิ้นเสียง เย่เฉินเอ่ยขึ้นอีก: “สำหรับงานดูแลความปลอดภัยโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานโลกที่สาม ฉันได้มอบหมายให้ผู้อาวุโสท่านหนึ่งช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังเรียบร้อยแล้ว เขาบอกว่าความต้องการงานด้านนี้ของต่างประเทศเยอะมากๆ ถึงตอนนั้นกลัวแต่ว่าพวกนายสำนักว่านหลงจะยุ่งกันตัวเป็นเกลียว!”