ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3456 ปล่อยนายไปสักครั้ง
เย่เฉินร่างแบบแผนให้สำนักว่านหลงดู ทำให้ว่านพั่วจวินตื่นเต้นเป็นพิเศษ
เขาแทบจะไม่ลังเล จัดสรรลูกน้องทันที นอกจากให้ทหารฝีมือดีส่วนหนึ่งอยู่ที่จินหลิงระยะยาว เพื่อฟังคำสั่งจากเย่เฉินแล้ว เขาก็เตรียมที่จะพาคนอื่นๆ กลับไปยังตะวันออกกลางทันทีเช่นกัน เพื่อใช้ผลประโยชน์จากเส้นสายตนเอง เร่งมือสร้างฐานทัพชายแดนอ่าวเอเดนโดยเร็ว
ซึ่งฐานทัพชายแดนไม่จำเป็นต้องใช้ขนาดใหญ่และการลงทุนมากนัก โดยปกติแล้วเพียงแค่บรรจุคนสิบกว่าคนเพื่อประจำอยู่รอรับคำสั่ง และสามารถบรรจุอาวุธสิ่งของอื่นๆ รวมถึงจอดเฮลิคอปเตอร์ สปีดโบ๊ทได้ก็เพียงพอแล้ว
สำหรับขนาด การบรรจุก็คล้ายกับของคฤหาสน์ตากอากาศริมทะเล ครั้นไม่ได้มีเงื่อนไขที่สูงเท่าคฤหาสน์เลย การสร้างก็รวดเร็ว หากสามารถหาห้องสำเร็จรูปเจอ ก็แทบจะนำมาใช้งานได้เลยทันที
อีกทั้งตลาดทหารติดอาวุธคุ้มกันเรือในตอนนี้ ส่วนมากจะรวมอยู่ทางอ่าวเอเดน ธุรกิจรักษาความปลอดภัยต่างประเทศหลายแห่งล้วนสร้างฐานทัพชายแดนรวมไปถึงฐานทัพเปลี่ยนสถานีที่ชายแดนอ่าวเอเดนเป็นของตัวเองทั้งนั้น กระทั่งว่ามีบริษัทจำเพาะที่มอบเรือขนย้ายที่เขตอ่าวเอเดนโดยเฉพาะเพื่อนำมาช่วยเหลือเคลื่อนย้ายพนักงานอ่าวเอเดนให้กับบริษัทกิจการต่างๆ ด้วย
ทั้งกิจการคุ้มกันติดอาวุธ มีความเป็นมืออาชีพมากแล้ว ภายใต้การทำงานอันเป็นมืออาชีพเช่นนี้ สำนักว่านหลงก็ไม่ต้องกังวลเรื่องงานเตรียมขยายตลาดในช่วงแรก หากเข้าร่วมตอนนี้ใช้เพียงความสามารถทหารอันเข้มแข็งของสำนักว่านหลง จะต้องยืนอยู่ได้อย่างมั่นคงโดยเร็วเป็นแน่
ดังนั้น เขาจึงเอ่ยกับเย่เฉินว่า: “คุณเย่ ถ้าทางคุณไม่มีอะไรจะสั่งแล้ว กระผมจะขอพาคนไปที่ตะวันออกกลางก่อน เพื่อเร่งกำหนดแผนการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว!”
เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยถาม: “นายคิดว่าจะออกเดินทางเมื่อไร?”
ว่านพั่วจวินรีบเอ่ย: “ยิ่งเร็วยิ่งดี!”
เย่เฉินเห็นเขาฮึกเหิมเช่นนี้ จึงไม่ได้เอ่ยรั้งอะไรมาก เอ่ยว่า: “ถ้าพวกนายกำหนดเป้าหมายที่จะไปเรียบร้อยแล้ว ฉันจะสั่งให้ทางเครื่องบินเจ็ทร้องขอเส้นทางการบินให้ แล้วส่งพวกนายไปที่นั่น”
ว่านพั่วจวินเองก็ทราบว่าเวลาก็คือเงินทอง ดังนั้นจึงเอ่ยอย่างไม่ลังเล: “ถ้างั้นก็ต้องขอบคุณคุณเย่มากที่ช่วยเป็นธุระให้! กระผมว่าจะไปที่เยเมน เพราะว่าเยเมนอยู่ชายฝั่งอ่าวเอเดนยาวที่สุด เหมาะที่สุดสำหรับสร้างฐานทัพชายแดน อีกอย่างผมก็มีเส้นสายในพื้นที่นั้นพอจะช่วยได้ด้วย”
“ดี” เย่เฉินเอ่ยต่อทันที: “ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจะบอกให้ทางกลุ่มนักบินขออนุมัติเส้นทางการบิน ส่งพวกนายไป”
ว่านพั่วจวินพยักหน้า หันหน้ากลับไปเองลู่เห้าเทียนที่นั่งบนเก้าอี้อย่างไร้เรี่ยวแรง รวมถึงเฉินจงเหล่ยที่ดวงตาสองข้างไร้ความรู้สึก ลังเลใจชั่วครู่หนึ่งจึงเอ่ยกับเย่เฉินว่า: “คุณเย่ กระผมขอละลาบละล้วง ขอร้องอะไรสักอย่าง หวังว่าคุณเย่จะตอบรับ…”
เย่เฉินถามน้ำเสียงราบเรียบ: “นายหมายถึงราชันสงครามสองคนนั้นสินะ?”
ว่านพั่วจวินเอ่ยด้วยความละอายใจที่สุด: “คุณเย่ครับ กระผมรู้ว่าตัวเองบาปหนา ทำผิดต่อคุณไว้มาก แต่เห้าเทียนและจงเหล่ยสองคนนี้ก็ล่วงเกินคุณเพราะรับคำสั่งมาจากผม ได้โปรดคุณเห็นแก่ที่ทุกคนในสำนักว่านหลงล้วนสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อคุณ ปล่อยพวกเขาไปเถอะ ผมเอาหัวเป็นประกันได้เลย ว่าในอนาคตพวกเขาทั้งสองจะต้องเชื่อฟังคำสั่งคุณรับใช้แต่คุณผู้เดียว จงรักภักดีต่อคุณอย่างเต็มที่แน่นอน!”
ในบัดนี้ลู่เห้าเทียนนั่งบนเก้าอี้อย่างอนาถไร้เรี่ยวแรง เอ่ยสะอึกสะอื้นด้วยความลำบาก: “คุณ…คุณเย่…กระผมจะบุกน้ำลุยไฟ ไม่ถอยต่ออุปสรรค! ขอร้องคุณให้โอกาสกระผมสักครั้งเถอะ!”