ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3533
ในระหว่างที่เขากำลังขับรถมุ่งหน้าไปยังFDA ภาพวิดีโอตลอดกระบวนการที่จิมมี่ทานยาเกิดใหม่เก้าเสวียนเมื่อคืน รวมไปถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับPet-CTต่างๆ ก็ถูกมาโยคลินิกยื่นไปให้กระทรวงสาธารณสุขและฝ่ายส่งเสริมสุขภาพของอเมริกา
ในสหรัฐอเมริกา FDAคือสำนักงานควบคุมเวชภัณฑ์ และก็เป็นหน่วยงานอิสระด้วยเช่นกัน ก่อตั้งขึ้นมาโดยการรับมอบอำนาจจากรัฐสภาของสหรัฐอเมริกา เป็นหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายในด้านเชภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด
แต่ว่า โรงพยาบาลในอเมริกา ไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของFDA โรงพยาบาลทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน ต่างก็ขึ้นตรงกับกระทรวงสาธารณสุขของอเมริการโดยตรง
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เป็นปาฏิหาริย์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในด้านการรักษาโรคมะเร็ง แน่นอนว่ามาโยคลินิกต้องรายงานเรื่องให้กับเบื้องบนทราบเป็นธรรมดา
หลังจากผู้ดูแลระบบโรงพยาบาลในกระทรวงสาธารณสุขได้อ่านข้อมูลที่ทางมาโยคลินิกยื่นมา ก็ตกใจจนพ่นกาแฟออกมาเลอะแป้นพิมพ์ไปหมด
เขาวิ่งเข้ามาในห้องทำงานของหัวหน้ากระทรวงอย่างตื่นตระหนก หลุดปากพูดออกไปว่า “หัวหน้า ข้อมูลที่มาโยคลินิกส่งมา บอกว่าบริษัทยาของหัวเซี่ย ค้นพบยารักษาโรคมะเร็งที่มีประสิทธิภาพ ยานี้ผ่านการตรวจสอบและทดลองใช้จากพวกเขาแล้ว ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ดีกว่าวิธีการรักษาโรคมะเร็งที่มีอยู่ในปัจจุบันทุกวิธี!”
“อะไรนะ?” หัวหน้ากระทรวงสาธารณสุขอย่างร็อดเจอร์สเอ่ยพูดอย่างประหลาดใจ “มีเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ?!”
“จริงแท้แน่นอน!” ผู้ดูแลรีบเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ผมอ่านข้อมูลแล้ว ถ้าอ่านแค่ผลลัพธ์อย่างเดียว อาจถึงขั้นคิดว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากพระเยซูเลยล่ะครับ!”
หัวหน้ากระทรวงรีบเอ่ยขึ้นมาว่า “ไปเอาโน๊ตบุ๊คของนายมา แล้วรายงานให้ฉันฟังอย่างละเอียด! อ้อแล้วก็ฉันอยากดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย!”
……
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง
หัวหน้ากระทรวงสาธารณสุขก็โทรหาสมิธโดยตรง
ซึ่งครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ สมิธเพิ่งจะจัดการเรื่องเอกสารยากระเพาะเก้าเสวียนเสร็จ ในเอกสารทั้งหมด ล้วนแล้วแต่มีตราประทับการอนุมัติอย่างครบถ้วน
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็รีบให้เลขาจองตั๋วเครื่องบินไปหัวเซี่ยให้ใบหนึ่ง
ซึ่งไฟล์ทที่เร็วที่สุดในตอนนี้ จะเริ่มบินในอีกสองชั่วโมงข้างหน้า ดังนั้นสมิธจึงกลับบ้านมาเอาพลาสปอร์ต ไม่มีเวลาแวะไปหาลูกชายที่โรงพยาบาล เพราะต้องรีบตรงไปที่สนามบิน
ในตอนที่เขานั่งประจำที่นั่งบนเครื่อง ทันใดนั้นก็มีสายโทรเข้ามาจากหัวหน้ากระทรวงสาธารณสุข
เมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ เขาก็อดที่จะประหลาดใจขึ้นมาไม่ได้
แม้ว่าเขากับกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นหน่วยงานเกี่ยวกับการแพทย์เหมือนกัน แต่ก็มีส่วนคาบเกี่ยวกันแค่นิดเดียว ดังนั้นการติดต่อในเวลาปกติจึงถึงถือว่าน้อยครั้งมาก
การที่หัวหน้ากระทรวงโทรมาตอนนี้ เขาก็รู้ในทันทีว่า มันต้องเกี่ยวกับยาเกิดใหม่เก้าเสวียนแน่ๆ
ดังนั้น เขาจึงรีบกดรับสาย เอ่ยถามขึ้นมาว่า “คุณร็อดเจอร์ส โทรหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?”
อีกฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมาอย่างตื่นเต้นและรีบร้อนว่า “สมิธ ผมได้ยินมาว่าคุณได้ยาเกิดใหม่เก้าเสวียนนั้นมาแล้วเหรอ?”
สมิธไม่แปลกใจเลยสักนิดที่โดนถามอย่างนี้ ตอบกลับไปว่า “ใช่ครับ บริษัทยาจากหัวเซี่ยเอาตัวอย่างยามาให้ผม มาโยคลินิครายงานสถานการณ์ให้คุณทราบแล้วใช่ไหม?”
หัวหน้ากระทรวงเอ่ยพูดอย่างรีบร้อนว่า “ตอนนี้เรื่องไปถึงทำเนียบขาวแล้ว! เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวมีคำสั่ง ให้ทำยังไงก็ได้ให้ยาชนิดนี้เข้ามาในตลาดอเมริกา เร็วได้เท่าไหร่ยิ่งดี! คุณพอจะบอกเวลาคร่าวๆได้ไหม?”
สมิธนิ่งอึ้งไปทันที เอ่ยถามขึ้นมาว่า “คุณร็อดเจอร์ส ข่าวนี้ไปถึงคุณผมไม่ตกใจเท่าไหร่ แต่ทำไมไปถึงทำเนียบขาวไวอย่างนี้ล่ะ?”
หัวหน้ากระทรวงเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “สามปีก่อนทำเนียบขาวเปิดประชุมสายพิเศษกับพวกเรา กำชับว่าเมื่อใดที่มีเคสรักษาคนไข้อาการหนักถึงตายหาย ให้เรารีบรายงานต่อทำเนียบขาวเป็นสิ่งแรก”
พูดมาถึงตรงนี้ เขาก็เอ่ยถามอย่างร้อนใจว่า “สมิธ ผมเชิญเหล่าผู้เชี่ยวชาญมาอ่านดูข้อมูลของมาโยคลินิกหมดแล้ว พบว่ายานั่นมันวิเศษจริงๆ ถ้าหากนำมันเข้ามาในอเมริกาได้ มันจะมีค่าสำหรับเรามาก ตกลงแล้วคุณมีแผนหรือยังวาจะนำเข้ามาเมื่อไหร่ หลังจากนำเข้ามาแล้วจะตัดสินใจเรื่องราคายังไง? “
สมิธเอ่ยพูดอย่างอึดอัด “ปัญหาพวกนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผมหรอกครับ มันขึ้นอยู่กับบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนต่างหาก ตอนนี้ผมอยู่บนเครื่องบิน กำลังบินไปเจรจากับพวกเขาที่หัวเซี่ย”
หัวหน้ากระทรวงเอ่ยขึ้นมาว่า “งั้นคุณต้องหาทางเข้าพบผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนให้ได้ สอบถามมาว่าเขาต้องการเงินเท่าไหร่ ถึงจะยอมโอนกรรมสิทธิ์นี้ให้เรา! ขอแค่เขายินนอม เรื่องราคาให้เขาเสนอมาได้เต็มที่!”
สมิธเอ่ยพูดอย่างประหลาดใจ “ถ้าหากยานี้นำมาผลิตได้ แนวโน้มของยอดขายในตลาดก็คงได้อย่างน้อยแสนล้านดอลล่าต่อปี ซึ่งไม่ว่าใครเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์นี้ ก็คงไม่มีทางยอมขายง่ายๆ….”
หัวหน้ากระทรวงเอ่ยพูดอย่างเข้มงวดว่า “เรื่องราคาคุณให้เขาเสนอได้ตามสบาย ทำเนียบขาวไม่กลัวราคาที่เขาเสนอหรอก กลัวก็แต่เขาจะไม่ยอมขายนี่แหละ!”