ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3585 ต้องเป็นการสร้างกระแสที่ชั่วร้ายอย่างแน่นอน
เกณฑ์การลงทะเบียนสำหรับจี่ชิ่งถังคือหนึ่งหมื่นล้านหยวน ซึ่งมีมูลค่าประมาณหนึ่งพันหกร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ
ฟังดูแล้วเหมือนจะเยอะมาก แต่ในความเป็นจริง เพียงแค่ดูจากข้อมูลที่นับได้อย่างเปิดเผย ก็มีคนรวยเกือบสามพันคนทั่วโลก ที่มีทรัพย์สินเกินจำนวนนี้
นอกจากนี้ ยังไม่รู้ว่ามีจำนวนเศรษฐีที่มองไม่เห็นซึ่งก็ไม่เคยเปิดเผยทรัพย์สินของตนต่อสาธารณะมากเท่าไหร่
ดังนั้น มีคนลงทะเบียนห้าร้อยคนภายในสองชั่วโมง เย่เฉินจึงไม่ได้รู้สึกตกใจเลย
อย่างไรก็ตาม หม่าหลันและเซียวฉางควนที่อยู่ในบ้าน เพราะว่าข่าวการประมูลในครั้งนี้ ก็เริ่มรวมเป็นหนึ่งใจเดียวกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
หม่าหลันเห็นฟีดข่าวบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ และแทบจะไม่ใช้ความคิดโพล่งด่าออกมาทันทีว่า “จี่ชิ่งถังนี้สมองเสื่อมไปแล้วหรือเปล่า! จัดการประมูลแค่นี้ เกณฑ์การลงทะเบียนเข้าร่วมจะต้องใช้ทรัพย์สินกว่าหมื่นล้านเลยเหรอ นี่ไม่ใช่เรื่องตลกเหรอ? การประมูลของผู้ใดจะกล้าอวดดีขนาดนี้!”
ในหัวใจของเซียวฉางควน มีเรื่องฝังใจเล็กน้อยกับจี่ชิ่งถังมาโดยตลอด
ก่อนหน้านี้เขาทำแจกันที่จี่ชิ่งถังแตกอย่างไม่ทันระวัง เขาตกใจกลัวจนเกือบเป็นโรคหัวใจวาย
กว่าจะหาโอกาสโยนความผิดให้เย่เฉินและอยากจะวิ่งหนี แต่สุดท้ายก็ถูกจับและตบหน้าไปหลายที มันช่างน่าอับอายจริงๆ
ดังนั้น หลังจากที่เขารู้ข่าวนี้ เขาก็พูดขึ้นอย่างหงุดหงิดทันทีว่า “จี่ชิ่งถังบ้าอะไรนั่น ผมว่าพวกเขาทำแบบนี้ก็เพื่อจะสร้างกระแส! ผมอยู่ในวงการของเก่าโบราณในเมืองจินหลิงมานานหลายปีแล้ว จี่ชิ่งถังอยู่ในระดับไหนผมยังไม่รู้อีกเหรอ? ยังไม่ต้องพูดถึงการประมูลชั้นนำอย่าง Christie’s และ Sotheby’s แม้แต่โพลีในประเทศ ก็ยังแข็งแกร่งกว่าการประมูลนี้หลายสิบหรือหลายร้อยเท่าเลยทีเดียว”
ในขณะที่พูด เซียวฉางควนยังคงพูดอย่างดูถูกเหยียดหยามต่อไปว่า “การประมูลของ Sotheby’s และของ Christie’s ไม่เคยกล้าที่จะขอตรวจสอบทรัพย์สินอย่างเปิดเผยอะไรมาก่อนเลย เต็มที่ก็แค่ต้องจ่ายค่าค้ำประกันเป็นหลักล้านก็สามารถเข้าร่วมได้แล้ว จี่ชิ่งถังที่มีเล็กๆ แค่นี้ ยังกล้าที่จะกำหนดเกณฑ์หนึ่งหมื่นล้านขึ้นมาเลยงั้นเหรอ นี่มันช่างเป็นเรื่องที่ตลกที่สุด และช่างน่าขันจริงๆ เลย!”
หม่าหลันพยักหน้า หรี่ตาและถามว่า “เฮ้ คุณว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าเพราะยาอายุวัฒนะตัวนี้มีความพิเศษอะไรหรือเปล่า?”
เซียวฉางควนเม้มปาก “มันจะมีความพิเศษอะไร? หรือว่าหลังจากกินแล้วจะสามารถขึ้นไปสู่ความเป็นอมตะได้งั้นเหรอ? ผมว่าขึ้นสวรรค์น่าจะเป็นไปได้มากกว่า! แม้ว่าจะเป็นยาอันกงหนิวหวงหวาน ก็มีราคาเพียงไม่กี่แสนไม่ใช่เหรอ? ผมว่าพวกเขาก็แค่อยากจะสร้างกระแสเท่านั้นเอง! จีชิ่งถังแห่งนี้ต่อสู้มานานหลายปีแล้วและก็ยังไม่มีผลงานใดๆ เกิดขึ้น คาดว่าในคราวนี้อยากจะใช้กลอุบายต่ำๆ และดึงดูดความสนใจจากผู้คนสักหน่อย”
หม่าหลันเห็นด้วยและพูดว่า “สิ่งที่คุณพูดนั้นถูก คาดว่าก็เหมือนกับอดีตเน็ตไอดอลที่ชื่อว่าพี่สาวอะไรคนนั้น พูดอย่างไม่รู้ความอายว่าไอคิวของเขาจะไม่มีที่เทียบได้ในช่วงสามร้อยปีหน้าและสามร้อยปีหลัง และตอนนี้ก็ไปเป็นคนทำเล็บให้คนอื่นอยู่ต่างประเทศแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เซียวฉางควนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมยังคิดว่าซ่งหวั่นถิงคนนั้นจะมีความสามารถสักแค่ไหนจริงๆ แต่ไม่คาดคิดเลยว่าจะใช้กลอุบายระดับต่ำๆ เช่นนี้ ซึ่งมันทำให้คนน่าตกใจจริงๆ”
ขณะที่เขาพูดอย่างนั้น เขาก็ถามเย่เฉินว่า “ใช่แล้วเย่เฉิน คุณรู้จักกับซ่งหวั่นถิงเป็นอย่างดีไม่ใช่หรือ? ก่อนหน้านี้เธอเคยร่วมจัดการประมูลกับเป่าฟู่กุ้ย และยังได้ส่งจดหมายเชิญให้คุณ เรื่องในครั้งนี้เธอไม่ได้มาขอความคิดเห็นจากคุณบ้างเหรอ?”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมไม่ได้มีเรื่องธุรกิจกับคุณซ่งอะไรเลย และคงไม่จำเป็นต้องมาปรึกษากับผมหรอก”
เซียวฉางควนพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “คุณไม่ใช่อาจารย์เย่ในปากของคนร่ำรวยเหล่านี้ที่อยู่ในเมืองจินหลิงหรอกหรือ? ก่อนที่พวกเขาจะทำการตัดสินใจอะไร หรือว่าพวกไม่ได้มาขอให้คุณช่วยดูดวงดูฮวงจุ้ยสักหน่อยหรือ? ผมจำได้ว่ามีคนคนหนึ่งจะซื้อบ้านหลังหนึ่งก็ยังต้องมาเชิญให้คุณไปดูให้ก่อนไม่ใช่เหรอ?”