ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3656
เมื่อได้ยินเย่เฉินพูดว่าจะเก็บรถคันนี้เอาไว้ เซียวฉางควนกับหม่าหลัน ซาบซึ้งจนน้ำตาแทบจะไหลออกมา!
โดยเฉพาะหม่าหลัน ดีใจจนปรบมือไม่หยุด จากนั้นดุใส่เซียวฉางควนว่า “เซียวฉางควน! ยังไม่รีบเปิดประตูรถอีก ให้ฉันเข้าไปสัมผัสหน่อย! ฉันอยู่มานานขนาดนี้ ยังไม่เคยนั่งรถยนต์โรลส์-รอยซ์เลย!”
เซียวฉางควนก็อารมณ์ดีมาก รีบควักกุญแจออกมา กดปุ่มปลดล็อก จากนั้นเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ พูดกับหม่าหลันอย่างจริงจังว่า “มาๆๆ เชิญนั่ง คุณจะได้รู้ว่าอะไรคือแผงบุหลังคาด้วยแสงดาว ของโรลส์-รอยซ์!”
หม่าหลันถามอย่างตกใจ “อะไรคือแผงบุหลังคาด้วยแสงดาว”
เซียวฉางควนผายมือ แล้วพูดว่า “โอ๊ย คุณเข้าไปดูแล้วจะรู้เอง!”
หม่าหลันรีบเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับของรถโรลส์-รอยซ์ เงยหน้ามอง อุทานอย่างตกใจว่า “โอ้แม่เจ้า ในรถมีดาวเยอะขนาดนี้จริงๆ!”
เซียวฉางควนหัวเราะคิกคัก “คุณลองตั้งใจดู จะมีดาวตกผ่านไปเป็นระยะด้วย!”
หม่าหลันมองอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ พูดพึมพำว่า “โอ้ สวยมาก! คืนนี้ฉันตัดสินใจนอนในรถดีไหม!”
พูดจบ จู่ๆ เธอนั่งหลังตรง พูดกับเซียวฉางควนว่า “นายรีบขึ้นรถเร็ว พาฉันออกไปขับรถรับลม!”
เมื่อกี้ตอนเซียวฉางควนขับกลับมาจากสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด ยังติดใจรถไม่หาย กำลังคิดว่าจะขับออกไปเที่ยวเล่นอีก สัมผัสประสบการณ์อย่างเต็มที่ คิดไม่ถึงว่าหม่าหลันจะพูดออกมาก่อน
ดังนั้นเขาตกลงอย่างไม่คิด หัวเราะแล้วพูดว่า “ได้ๆๆ ผมจะขับพาคุณไปเวียนสักหลายๆ รอบ!”
พูดจบ เขาหันไปมองเย่เฉินกับเซียวชูหรัน พูดโพล่งออกมาว่า “ชูหรัน เย่เฉิน ขึ้นมาด้วยกันสิ เราออกไปขับเล่นกัน!”
เย่เฉินส่ายหน้า “พ่อ เราไม่ไปละ พ่อแม่ไปเถอะ ไม่รบกวนโลกของพวกคุณทั้งสองคนดีกว่า”
เซียวชูหรันก็พูดว่า “พ่อ ไปเถอะ หนูมีเรื่องจะคุยกับเย่เฉินนิดหน่อย”
เมื่อเซียวฉางควนได้ยิน ก็ไม่ดึงดันอีก ยิ้มจนตาหยีแล้วพูดว่า “งั้นฉันไปกับแม่แกก่อน มีอะไรโทรมานะ”
พูดจบ ก็ขึ้นไปนั่งตรงเบาะคนขับ กดปุ่มสตาร์ทรถ
เสียงเครื่องยนต์ 12 สูบของรถยนต์โรลส์-รอยซ์ดังกระหึ่ม เซียวฉางควนเอ่ยถามหม่าหลัน “เราไปไหนดี”
หม่าหลันโพล่งออกมาว่า “ไปบ้านแม่นายก่อน!”
“แม่ผมเหรอ!” เซียวฉางควนพูดอย่างกระอักกระอ่วน “อยู่ข้างๆ ไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ไง!” หม่าหลันแสยะยิ้ม “ขับรถไปจอดใต้ตึกบ้านแม่นาย ให้พวกเขาเบิกตาโตๆ ดูให้ชัด ว่าฉันคือคนที่นั่งรถยนต์โรลส์-รอยซ์! ไม่รู้ก่อนหน้านี้พวกเขาไปเอาเงินมาจากไหน ซื้อรถยนต์เบนท์ลีย์ ก็อวดจนเว่อร์ ครั้งนี้ไม่ว่ายังไงต้องทำให้พวกเขาขายหน้า!”
เซียวฉางควนรีบพูดปลอบใจว่า “พอเถอะ ตอนนี้แม่ผมน่าสงสารพอแล้ว คุณจะแซะเธอไปทำไมอีก……”
“เธอน่าสงสารเหรอ” หม่าหลันพูดอย่างโมโห “ถึงเธอน่าสงสาร แล้วน่าสงสารเท่าฉันหรือเปล่า ขาฉันหักเป็นครั้งแรกก็เพราะเธอ นายลืมไปแล้วเหรอ จะให้ฉันเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้น ให้นายฟังตั้งแต่ต้นจนจบอีกรอบไหม คนไร้มโนธรรมอย่างนาย จะได้ไม่ลืมง่ายๆ”
เซียวฉางควนกระแอมสองที พูดอย่างเหนื่อยใจว่า “ได้ๆๆๆ ไปก็ได้ โอเคไหม”
พูดจบ เขาสตาร์ทรถ ขับออกจากลานบ้าน
ขณะนั้น เซียวชูหรันถอนหายใจ พูดกับเย่เฉินว่า “ที่รัก นายจะเก็บรถคันนี้ไว้จริงเหรอ”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดว่า “พ่อแม่ชอบ ก็ให้พวกเขาขับเล่นแล้วกัน”
เซียวชูหรันรีบพูดว่า “พวกเขาขับรถคันนี้ออกไป ไม่เหมาะสมนะ…..ดูเป็นจุดสนใจเกินไป……”
เย่เฉินหัวเราะ แล้วพูดว่า “ให้พวกเขามีโอกาสเป็นจุดสนใจ ฮอร์โมนกับกำลังกายใจของพวกเขากำลังระบายออกมา แต่ถ้าไม่ให้โอกาสให้พวกเขาได้เป็นจุดสนใจ ฮอร์โมนกับกำลังกายใจของพวกเขา จะกลายเป็นความเคียดแค้น ต่อไปอาจสัก 1-2 ปี หรืออาจนานกว่านั้น เมื่อเรากลับมาบ้านนี้ พวกเขาก็จะทอดถอนใจใส่เรา โทษว่าเราไม่เก็บรถคันนี้เอาไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้ สู้เก็บไว้อย่างไม่มีความสุข ให้พวกเขาพึงพอใจดีกว่า”