ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3660
เซียวฉางเฉียนโมโหมาก ด่าพลาง ตะเกียกตะกายขึ้นมา ยื่นมือไปคว้าไม้เท้า เตรียมจะขึ้นไปบนระเบียงตัดสินแพ้ชนะกับหม่าหลัน
ถึงนายหญิงใหญ่เซียวจะโมโหเช่นกัน แต่เธอรีบรั้งเซียวฉางเฉียนไว้ แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ตอนนี้หม่าหลันพลิกตัวจากพวกรากหญ้าแล้ว เราหาเรื่องเธอไม่ได้ แกอย่าออกไปเลย!”
เซียวไห่หลงได้ยิน ก็หงอยลงทันที พูดอย่างเศร้าสร้อยว่า “ใช่พ่อ ไม่ได้ยินที่เวยเวยพูดเหรอ ตอนนี้งานของเธอ เป็นเพราะเย่เฉินจัดการให้ ครอบครัวเราอาศัยเงินเดือนเวยเวย เลี้ยงปากท้อง ถ้าพ่อล่วงเกินหม่าหลันตอนนี้ พรุ่งนี้ครอบครัวเราอดอยากแน่……”
เซียวฉางเฉียนสีหน้าไม่สู้ดีอย่างมาก พูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “เอาตรงๆ นะ เย่เฉินช่วยเวยเวยจริง ช่วยพวกเราด้วย นับว่ามีบุญคุณกับเรา ในเมื่อเขาเป็นลูกเขยหม่าหลัน งั้นสิ่งที่หม่าหลันล่วงเกินฉันเมื่อก่อน ฉันไม่ถือสาหาความกับเธอก็ได้……”
พูดถึงตรงนี้ เซียวฉางเฉียนพูดอย่างขุ่นเคืองว่า “แต่ตอนนี้เธอมาตะโกนชื่อแม่แกอยู่ใต้ตึก นี่เป็นการตบหน้าฉันไม่ใช่เหรอ บ้านเขากับบ้านเราห่างกันไม่มาก ตอนนั้นแม่แกขโมยเงินย่า แล้วหนีไป ย่าแกยังแจ้งตำรวจ เรื่องนี้ใช่ว่าหม่าหลันจะไม่รู้ นี่มันหาเรื่องกันชัดๆ”
เซียวไห่หลงพูดเสียงทุ้มว่า “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่ถึงเรารู้อยู่แก่ใจ คงทำได้เพียงแสร้งทำเป็นเลอะเลือน! ผมไม่อยากนอนหิวบนเตียงแทบตาย เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว……”
เซียวฉางเฉียนก็หดหู่ ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาโบกมือไปมา ถอนหายใจแล้วพูดว่า “เฮ้อ!!! ช่างเถอะ! ไม่ทะเลาะกับคนด้อยการศึกษาอย่างเธอละ ถือซะว่าเธอเห่าอยู่ใต้ตึก! เดี๋ยวเห่าจนเหนื่อย ก็ไสหัวกลับไปเอง!”
นายหญิงใหญ่เซียวพูดอย่างเห็นด้วย “ฉางเฉียน แกมีความก้าวหน้าขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้ว! สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ถึงจะเป็นลูกผู้ชาย แต่ก่อนแกไม่ได้ลำบากมาก!”
ตอนนี้ หม่าหลันตะโกนเรียกอยู่ด้านล่างตึกมานานแล้ว ไม่เห็นความเคลื่อนไหวใด จึงพูดอย่างโมโหว่า “ยัยแก่นั่น กับเซียวฉางเฉียน เซียวไห่หลง สองพ่อลูกหดหัว ต้องแอบอยู่ในบ้านแน่ๆ! แต่ละคนเป็นเต่าหดหัว ไม่มีใครกล้าออกมาเผชิญหน้า!”
เซียวฉางควนส่ายหน้าพูดว่า “ในเมื่อพวกเขาไม่กล้าเผชิญหน้า งั้นเรากลับกันเถอะ!”
“ไม่ได้!” หม่าหลันส่งเสียงไม่พอใจ พูดอย่างแน่วแน่ว่า “ถ้าไปตอนนี้ พวกเขาคงคิดว่าคนอย่างหม่าหลัน มีความสามารถแค่นี้!”
พูดจบ เธอใช้เสียงสูง ตะโกนออกมาว่า “เซียวฉางเฉียน! เซียวฉางเฉียน! ฉันรู้ว่านายอยู่บ้าน! แขนขาของนาย โดนลูกน้องของอู๋ตงไห่ทุบจนหัก นอกจากนอนอยู่บนเตียง นายจะไปไหนได้อีก อย่าทำเหมือนเต่าหดหัว ไม่กล้าแม้แต่จะทำอะไรสักนิด!”
เซียวฉางเฉียนโมโหมาก ค้ำไม้เท้าให้ตัวเองยืนขึ้น กำลังจะไปที่ระเบียง
นายหญิงใหญ่เซียวรีบลุกขึ้น จะไปขวาง แต่ตัวเองอายุมากแล้ว และเพิ่งดูแลสองพ่อลูกนี่เสร็จ เหนื่อยเหลือกำลัง ไม่สามารถห้ามเขาได้ จึงทำได้เพียงตามเขาไปที่ระเบียง
เซียวฉางเฉียนเพิ่งเดินมาที่ระเบียง เห็นหม่าหลันโผล่หัวออกมาจากรถออฟโรดคันหนึ่ง ก่นด่าอย่างโมโห “หม่าหลัน! เธอมาหาเรื่องใช่ไหม! ช่วงนี้ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอ ไม่ได้ยั่วโมโหเธอ เธอมาเห่าอยู่ใต้ตึก ตั้งนานสองนาน หมายความว่ายังไง”
หม่าหลันเบะปาก พูดอยากดูหมิ่นว่า “ฉันมาหาเฉียนหงเย่น เมียนาย เธออยู่ไหนล่ะ ให้เธอออกมา! ฉันเพิ่งได้รถโรลส์-รอยซ์ คัล……คัล……”
คำพูดติดอยู่ที่ปาก จู่ๆ หม่าหลันลืมว่ารถยี่ห้อนี้ ชื่อรุ่นอะไรกันแน่ จึงหันมาถามเซียวฉางควน “รถคันนี้เรียกว่าคัลอะไรนะ”
เซียวฉางควนกุมขมับ พูดอย่างเหนื่อยใจว่า “คัลลิแนน……”
“อ้อ ใช่!” หม่าหลันพูดจบ รีบยื่นหัวออกมา พูดกับเซียวฉางเฉียนว่า “ฉันเพิ่งได้รถยนต์โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน สิบล้านกว่าเชียวนะ!”
เซียวฉางเฉียนจ้องรถยนต์โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน โมโหจนตัวสั่น
ส่วนนายหญิงใหญ่เซียวที่อยู่ข้างๆ ได้ยินราคารถสิบล้านกว่า ลูกตาแทบจะโดนรถคันนี้ดูดออกมา
เซียวฉางเฉียนสะกดกลั้นความโกรธ ถามอย่างเย็นชาว่า “เธอได้รถก็เรื่องของเธอ จะมาอวดที่บ้านฉันทำไม”
หม่าหลันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “โอ้ๆๆๆ ฉันไม่ได้อวดนาย! ฉันมาหาเฉียนหงเย่นเมียนาย!”