ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3671
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เฟ่ยเข่อซินก็อดไม่ได้ที่จะคำนวณความแข็งแกร่งและฐานะทางสังคมของเย่เฉิน
ยาอายุวัฒนะ เม็ดหนึ่งก็มีมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ใครก็ไม่รู้ว่าเย่เฉินมีเท่าไหร่
บริษัทผลิตยาเก้าเสวียน มียาที่ใช้กันทั่วไปสองชนิดที่ขายดีในตอนนี้ ยาเกิดใหม่เก้าเสวียนเป็นปาฏิหาริย์ในด้านการแพทย์ ถ้าหากสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากที่สุด มูลค่าตลาดของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนทะลุล้านล้านดอลลาร์สหรัฐก็เป็นเรื่องง่ายมาก
ดูตามแนวโน้มนี้ เย่เฉินคนเดียว ก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นอันดับที่สี่หลังสามตระกูลชั้นนำของโลก
ยิ่งเป็นแบบนี้ เฟ่ยเข่อซินก็ยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นเท่านั้น
เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ: “ฉันไม่เข้าใจจริงๆ เย่เฉินมีอำนาจที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ทำไมต้องอาศัยอยู่ในเมืองจินหลิงเล็กๆนี้ด้วย?”
“ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเต็มใจเป็นลูกเขยแต่งเข้าในตระกูลตกอับที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก หรือว่าเซียวชูหรันคนนั้นมีพลังวิเศษที่น่าทึ่งอะไรจริงๆเหรอ?!”
ขณะที่เฟ่ยเข่อซินว้าวุ่นอยู่ สมิธเห็นเธอไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ถามไถ่อย่างแทบรอไม่ไหวว่า: “คุณหนูเฟ่ย คุณเย่คนนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องชีวิตของลูกชายผม ถ้าหากคุณรู้เบาะแสอะไร คุณได้โปรดบอกให้ทราบด้วย…….”
เฟ่ยเข่อซินดึงสติกลับมา มองดูเขา และเอ่ยปากพูดว่า: “คุณสมิธ คุณเป็นผู้รับผิดชอบสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ดังนั้นถ้าหากฉันเดาไม่ผิด คุณมาหาบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนที่เมืองจินหลิง น่าจะไม่ง่ายดายเพียงแค่เพื่อขอยาให้ลูกชายของคุณนะ?”
สมิธพูดตามความจริง: “คุณหนูเฟ่ย ผมมาในครั้งนี้ นอกจากขอยา ยังหวังว่าจะเจรจากับบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนเรื่องที่จะนำยาเกิดใหม่เก้าเสวียนเข้าไปวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ช่วงชิงยาพิเศษตัวนี้เพื่อผู้ป่วยมะเร็งในประเทศ!”
จากนั้น สมิธรีบพูดว่า: “คุณหนูเฟ่ย รบกวนคุณช่วยผมด้วย ช่วยผมนัดคุณเย่ท่านนี้ด้วย……”
เฟ่ยเข่อซินพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า: “คุณสมิธ ตัวของฉันเองยังเรื่องสำคัญมากที่จะขอร้องเขา ยิ่งไปกว่านั้นยังหาทางออกไม่เจอ ดังนั้นเรื่องนี้ฉันก็อาจจะช่วยคุณไม่ได้”
เมื่อสมิธได้ยินเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: “คุณหนูเฟ่ย คุณก็อยากหาเขาขอยาเกิดใหม่เก้าเสวียนด้วยเหรอ?”
เฟ่ยเข่อซินคิดสักครู่ แล้วพยักหน้าพูดว่า: “ก็ประมาณนั้น”
สมิธถอนหายใจ และพูดด้วยอารมณ์ค่อนข้างหดหู่ว่า: “ขนาดคุณหนูเฟ่ยก็หาทางออกได้ยากมาก งั้นผมก็คงจะยากยิ่งกว่า……”
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้า และพูดว่า: “เรื่องนี้ พวกเราร่วมมือด้วยกันนะ ถ้าหากฉันสามารถหาทางออกได้ และจัดการความต้องการของตัวฉันเองได้ ฉันจะคิดหาทางช่วยคุณช่วงชิงยาเกิดใหม่เก้าเสวียนอย่างแน่นอน”
เมื่อสมิธได้ยินคำพูดนี้ ในใจก็รู้สึกโล่งใจบ้าง และรีบพูดด้วยความซาบซึ้งใจว่า:“งั้นก็ขอบคุณครับคุณหนูเฟ่ย!”
เฟ่ยเข่อซินพูดอย่างราบเรียบว่า: “คุณสมิธไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ แต่ว่าออกจากประตูบานนี้ไป ถ้าใครในเมืองจินหลิงถามคุณว่ารู้จักฉันมั้ย คุณต้องปฏิเสธ เข้าใจมั้ย?”
สมิธไม่รู้เจตนารมณ์ของเฟ่ยเข่อซิน แต่พยักหน้าพูดในทันทีว่า: “คุณหนูเฟ่ยวางใจได้ครับ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ผมไม่รู้จักคุณ”
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้าเล็กน้อย
ตัวตนที่แท้จริงของเธอ ไม่ได้มีคนรู้จักมากนัก อยู่ในเมืองจินหลิงก็ยิ่งน้อยมาก
นอกจากผู้ติดตามข้างกายของตัวเอง คนเดียวที่รู้จัก ก็คือสมิธคนนี้
ดังนั้น เธอก็ย่อมหวังว่าสมิธสามารถที่จะรักษาความลับไว้ได้ อย่าได้กลายเป็นข้อบกพร่องให้กับคนที่ตรวจสอบตัวตนที่แท้จริงของตัวเองอย่างเด็ดขาด
แต่ว่า เฟ่ยเข่อซินไม่รู้ว่า เย่เฉินได้เริ่มตรวจสอบตัวตนของเธอแล้ว