ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3702
เฟ่ยเข่อซินขยิบตาให้เซียวชูหรัน และกล่าวว่า “คุณเซียว พูดตามตรง ฉันมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีกับเคลลี่ เวสท์ หากคุณอยากจะรู้จักเธอ ฉันสามารถช่วยเชื่อมต่อให้คุณได้”
“อะไรนะ?!” เมื่อเซียวชูหรันได้ยินคำพูดนี้ เธอก็ตะลึงไปทั้งคนเลย และอุทานว่า “คุณจาน คุณ……..คุณไม่ได้ล้อเล่นกับฉันใช่ไหม? คุณ……คุณรู้จักกับเคลลี่ เวสท์จริงๆ เหรอ?! เคลลี่ เวสท์ที่ถูกเรียกว่าเป็นพี่ใหญ่แห่งนักออกแบบภายในอาคาร?”
เฟ่ยเข่อซินยิ้มและพูดว่า “ฉันจะพูดเล่นกับคุณในเรื่องแบบนี้ทำไม ฉันมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีกับเธอจริงๆ และฉันเพิ่งส่งคำเชิญให้เธอเมื่อสองวันก่อน ในเวลาที่เธอว่าง ให้เธอมาเที่ยวเล่นที่หัวเซี่ยสักหน่อย”
เซียวชูหรันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที และถามขึ้นอย่างรวดเร็วว่า “คุณจาน คุณเวสท์……… เธอตอบตกลงแล้วหรือยัง?”
“ตกลงแล้ว” เฟ่ยเข่อซินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เธอกำลังประสานงานเวลาแล้ว และบอกว่าเธอจะมาโดยเร็วที่สุด เธอก็ยังไม่เคยมาหัวเซี่ยพอดีเลย และสนใจหัวเซี่ยอย่างมาก”
เซียวชูหรันถามเธออย่างกระตือรือร้นว่า “คุณจาน…….. ฉันมีอะไรที่อยากจะรบกวนสักหน่อย แต่ไม่รู้ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือเปล่า…….”
เฟ่ยเข่อซินมองมาที่เธอ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเซียว คุณอยากพบกับเคลลี่ เวสท์ใช่หรือไม่?”
“ใช่!” เซียวชูหรันไม่คิดว่า เฟ่ยเข่อซินจะสามารถพูดสิ่งที่เขาคิดได้ในทันใด และถามอย่างตื่นเต้นและประหม่าว่า “คุณเฟ่ย ได้ไหมคะ?”
“แน่นอนว่าได้!” เฟ่ยเข่อซินตอบตกลงโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย และยิ้มแล้วพูดว่า “พอดีฉันก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับเมืองจินหลิงสักเท่าไหร่ หลังจากที่เธอมาแล้ว ฉันเกรงว่าอาจจะทำหน้าที่เป็นไกด์ให้เธอไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงเธอเลย ฉันเองก็ยังต้องการไกด์คนหนึ่งอย่างด่วนเพื่อมาพาฉันไปรู้จักกับสถานที่และประเพณีต่างๆ ของเมืองจินหลิง ดังนั้นหากคุณเซียวเต็มใจ เมื่อถึงเวลานั้นเราสามคนก็สามารถร่วมทางกันได้เป็นประจำ”
เมื่อเซียวชูหรันได้ยินคำพูดนี้ คนทั้งคนก็สั่นเทาด้วยความตื่นเต้นไปแล้ว
ซึ่งมันแตกต่างจากความรู้สึกที่ไปดูคอนเสิร์ตของกู้ชิวอี๋ ที่เธอชอบกู้ชิวอี๋ ส่วนใหญ่ก็เพราะว่าผลงานดนตรีของเธอมากกว่า และชอบเธอด้วยมุมมองของความชื่นชม
แต่ที่เธอชอบเคลลี่ เวสท์ ก็เพราะความชื่นชมสูงสุดที่มีต่อความเป็นมืออาชีพในแวดวงของเธอ
ดังนั้น เธอจึงตื่นเต้นและตั้งตารอคอย ที่จะได้เจอหน้าเคลลี่ เวสท์ มากกว่าไปคอนเสิร์ตของกู้ชิวอี๋ด้วยซ้ำ
ดังนั้น เธอจึงพูดโพล่งออกมาแทบไม่ทันคิดว่า “คุณจาน……… ฉันสามารถไปเป็นไกด์ให้คุณและคุณเวสท์ได้จริงๆ เหรอคะ?!”
เฟ่ยเข่อซินพูดด้วยใบหน้าที่จริงจังว่า “การเป็นไกด์มันเป็นแค่เรื่องรอง และการเป็นเพื่อนกันถึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
เมื่อเซียวชูหรันได้ยินเรื่องนี้ ก็ยิ่งตื่นเต้นมากจนไม่สามารถพูดอะไรได้อีกเลย และความขอบคุณของในใจเธอที่มีต่อเฟ่ยเข่อซินนั้นมันก็เกินคำบรรยายไปแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม จู่ๆ เธอก็นึกถึงหนึ่งคำถามขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะสงสัย และถามเฟ่ยเข่อซินว่า “คุณจาน ในเมื่อคุณรู้จักกับคุณเวสท์ และยังมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีต่อกันเช่นนี้ ทำไมคุณถึงเลือกให้ฉันมาออกแบบการตกแต่งวิลล่าของคุณ? ความสามารถคุณเวสท์ แข็งแกร่งกว่าฉันเป็นพันๆ เท่าเลยทีเดียว อยู่ต่อหน้าเธอ เกรงว่าฉันจะเป็นได้แค่เล่นไม้อยู่ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญเลยด้วยซ้ำ……”
เฟ่ยเข่อซินส่ายหัวอย่างเคร่งขรึมและพูดว่า “คุณเซียว คุณอย่าดูถูกตัวเองแบบนี้โดยเด็ดขาด เคลลี่ เวสท์เธอมีจุดแข็งของตัวเองอยู่แล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถเทียบกับเธอได้ในทุกๆ ด้านเลย”
ในขณะที่พูด เฟ่ยเข่อซินก็กล่าวอีกครั้งว่า “จริงๆแล้ว หลังจากที่ได้ยินคำแนะนำแบบรวมของคุณเกี่ยวกับทิศทางในตอนเมื่อกี้นี้ ฉันก็อยากจะบอกคุณว่ามีอยู่เรื่องหนึ่งที่ถูกมองข้ามก่อนหน้านี้ และไม่ได้ให้ข้อเสนอแนะแก่คุณทันเวลา คุณพูดถึงเคลลี่พอดี หัวข้อในการพูดคุยก็เลยถูกเบี่ยงเบนไป”
เซียวชูหรันรีบถามว่า “เรื่องอะไรเหรอ?”
เฟ่ยเข่อซินกล่าวว่า “เหตุผลที่ฉันซื้อบ้านหลังนี้ ไม่ใช่ให้ตัวเองอยู่ แต่จะให้การใช้ชีวิตสะดวกขึ้นสำหรับคุณปู่ของฉันในเวลาที่กลับมาใช้ชีวิตในเมืองจินหลิง หลังเกษียณอายุในอนาคต”
ในขณะที่พูด เธอก็พูดเสริมว่า “ดังนั้น การตกแต่งบ้าน ไม่สามารถนำสไตล์ที่ทันสมัยของเคลลี่ เวสท์มาใช้อย่างแน่นอน และคนชราจะต้องยอมรับไม่ได้อย่างแน่นอน”
“อีกอย่างคุณก็รู้ว่า ในฐานะชาวจีนโพ้นทะเลอย่างคุณปู่ฉัน ยิ่งอายุมากขึ้น ก็ยิ่งคิดถึงและหมกมุ่นอยู่กับบ้านเกิดและวัฒนธรรมจีนแบบดั้งเดิม ดังนั้นฉันจึงหวังว่าการตกแต่งของบ้านพักหลังนี้ จะสามารถทำเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบบสไตล์หัวเซี่ยของเรามากกว่า”
“ถ้าสามารถรวมนำสไตล์และลักษณะเฉพาะของเมืองจินหลิงเข้ามาเล็กน้อย มันก็จะยิ่งดีมากยิ่งขึ้น”
“และความต้องการของฉันข้อนี้ ยังไงเคลลี่ก็ไม่สามารถสนองได้อย่างแน่นอน”