ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3721
เซียวชูหรันไม่สามารถปกปิดอาการตื่นเต้นไว้ได้ กระนั้นก็เอ่ยพูดอย่างประหม่าว่า “เคลลี่…..พอเปรียบเทียบกับเด็กฝึกคนอื่นๆที่เข้าร่วมMaster classแล้ว ประวัติของฉันดูไม่น่าหยิบขึ้นมาอ่านเลย ฉันได้เข้าร่วมMaster classระดับสูงๆด้วยทักษะแค่นี้ จะไม่ทำให้คุณโดนวิจารณ์เหรอ……”
“วิจารณ์?” เคลลี่ เวสท์พูดเยาะออกมาว่า “โรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์ให้ฉันเป็นคนกำหนดสิทธิ์โควตาพิเศษเอง ซึ่งการกำหนดสิทธิ์ฉันมีอำนาจตัดสินใจได้แค่คนเดียว ฉันอยากให้ใครก็ให้คนนั้น อย่าว่าแต่ประวัติของเธอไม่ลึกพอเลย ต่อให้เป็นคนที่ไม่เคยเรียนออกแบบมาเลยสักครั้ง ตราบใดที่ฉันกรอกข้อมูลของคนนั้นลงไป และผลักดันให้เข้าโรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์ คนคนนั้นก็จะสามารถเข้าร่วมMaster classได้อย่างเปิดเผย ใครก็เห็นต่างไม่ได้ทั้งนั้น!”
เคลลี่ เวสท์พูดพร้อมกับมองมาที่เซียวชูหรัน เอ่ยพูดอย่างจริงจังว่า “ชูหรัน เธอไม่ต้องกดดันหรอกนะ ตอนนี้โอกาสดีๆมาวางอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว แค่เธอพยักหน้า โอกาสมันก็จะตกเป็นของเธอ”
เซียวชูหรันเม้มริมฝีปาก เอ่ยพูดอย่างยากลำบากว่า “เคลลี่…คุณพูด…จริงๆเหรอ?”
เซียวชูหรันในตอนนี้ ลึกในใจก็ยังคงไม่กล้าเชื่อ
เคลลี่ เวสท์พูดดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “จริงแท้แน่นอน!ฉันกับเสี่ยวเฟยคิดเหมือนกันว่า ในอนาคตเธอต้องเป็นนักออกแบบที่มีศักยภาพแน่ๆ ขาดอย่างเดียวคือโอกาสและประสบการณ์ที่ไม่มากพอ และครั้งนี้แหละคือโอกาสที่ดีในการเก็บสะสมประสบการณ์ ถ้าเธอมั่นใจในตัวเอง คำว่านักออกแบบแนวหน้าก็จะไม่ใช่คำพูดลมๆแล้งๆอีกต่อไป แต่ถ้าเธอไม่มั่นใจ ต่อให้ในอนาคตมีโอกาสมากมายแค่ไหน ก็คงยากที่จะได้เป็นแนวหน้า”
พูดมาถึงตรงนี้ เคลลี่ เวสท์ก็เอ่ยพูดอย่างจริงจังอีกครั้ง “ชูหรัน เธอฟังฉันนะ เธอต้องไปเข้าร่วมmaster class ในครั้งนี้!”
เฟ่ยเข่อซินเองก็เชียร์อยู่ข้างๆ “ใช่ๆชูหรัน เธอต้องคว้าโอกาสนี้ไว้นะ ถ้าเธอหยิบช่วงระยะเวลาเดือนกว่าๆที่ได้ไปอเมริกามาเขียนในประวัติ อาชีพนักออกแบบของเธอในอนาคตอีกสิบปีข้างหน้าต้องได้ผลประโยชน์มากมายแน่นอน ห้ามปฏิเสธเชียวนะ!”
เฟ่ยเข่อซินพูดขึ้นมาอีกว่า “ถ้าเธอเป็นห่วงความคืบหน้าการตกแต่งคฤหาสน์หลังนั้น ฉันบอกได้เลยว่า ไม่ต้องคิดมาก ต่อให้จะตกแต่งช้าไปสองเดือนก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับฉัน ฉันรอได้”
ในใจของเซียวชูหรันตอนนี้ เริ่มไหวเอนเพราะคำพูดของสองคนนี้แล้ว
โอกาสดีๆขนาดนี้ แน่นอนว่าเธออยากคว้ามันไว้ แต่ก็มีความกังวลอยู่ในใจสามอย่าง หนึ่งคือต้องอยู่ไกลเมืองจินหลิงเป็นเวลานาน เธอไม่อยากอยู่ห่างสามีและครอบครัว สองคือทำใจปล่อยบริษัทตัวเองไว้ไม่ลง สามคือประสบการณ์ของเธอมีจำกัด กลัวว่าไปแล้วจะไม่เข้าพวก
แต่ว่าคำพูดของเคลลี่ เวสท์ มันทำให้เธอขจัดความไม่มั่นใจในด้านประสบการณ์ออกไปได้ เหลือก็แต่เรื่องบริษัทและครอบครัว
บริษัทยังดีหน่อยตรงที่การงานเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว เธอสามารถหยุดรับโปรเจ็คใหม่ชั่วคราวได้
แต่ว่าพ่อแม่กับสามีเธอนี่สิ
ถ้าจะพูดว่าพ่อแม่กับสามี อันที่จริงคนที่เซียวชูหรันไม่อยากอยู่ห่างเลยแม้แต่นิด ก็คือสามีคนเดียวเท่านั้น
เพราะถึงอย่างไร เธอกับเย่เฉินก็แต่งงานกันมานานแล้ว และไม่เคยแยกจากกันนานเท่านี้มาก่อน
อีกอย่าง ไม่ใช่แค่ต้องแยกจากเย่เฉินหนึ่งเดือน แต่ทั้งสองต้องอยู่ไกลกันหลายหมื่นกิโล ข้อนี้ยิ่งทำให้เซียวชูหรันตัดใจไม่ได้
มากไปกว่านั้น เธอไม่เคยไปอเมริกา ไม่คุ้นเคยกับประเทศที่อยู่อีกฟากมหาสมุทรเลยแม้แต่นิดเดียว
หลังจากชั่งน้ำหนักในใจ เธอก็หันไปพูดกับเฟ่ยเข่อซินและเคลลี่ เวสท์ว่า “ขอบคุณที่พวกคุณหวังดีนะคะ เรื่องนี้ฉันขอเก็บกลับไปคิดให้ดีๆก่อน กรุณาให้เวลาฉันหน่อยนะคะ ขอฉันกลับไปรึกษาสามีที่บ้าน…”
เฟ่ยเข่อซินเอ่ยพูดอย่างไม่ลังเลว่า “ไม่มีปัญหา เธอกลับไปคุยกับคุณเย่ก่อนก็ได้ ฉันเชื่อว่าเขาต้องสนับสนุนเธอแน่นอน”
เฟ่ยเข่อซินยักคิ้ว พร้อมกับพูดยิ้มๆว่า “ใช่สิชูหรัน ไม่งั้นเธอก็กลับไปคุยกับคุณเย่ ให้เขาตามเธอไปด้วยก็ได้นะ!”