ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3725
ตอนนี้เขารู้แล้ว ว่าตัวเองไม่มีความสามารถนั้น มีอย่างที่ไหนมาถูกสองมนุษย์ป้าใจหยาบสองคนด่าทอต่อหน้าคนอื่นอย่างนี้? นี่เขาแทบจะไม่มีโอกาสชนะเลย
ดังนั้น เขาจึงเอ่ยพูดอย่างฟึดฟัดว่า “ก็จริงที่ลูกเขยผมเป็นคนให้เงิน หม่าหลันจะไม่ทำกับข้าวให้ผมกินก็ไม่มีปัญหา แต่ว่าคุณไม่ทำให้ลูกเขยกินด้วยนี่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ?”
หม่าหลันเบ้ปาก “ถ้าลูกเขยคิดอย่างนั้น เขาคงพูดกับฉันไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาพูดปากเปียกปากแฉะอยู่นี่หรอก เป็นเดือดเป็นร้อนแทนคุณอื่นอยู่ได้!”
เซียวฉางควานกระหืดกระหอบ “หม่าหลัน ทำไมพูดหมาๆแบบนี้? ผมกับเย่เฉินเป็นพ่อตาลูกเขย ถ้าเป็นสมัยโบราณ ผมเป็นถึงพ่อตาฮ่องเต้เลยนะ ทำไมใช้คำว่าเป็นเดือดเป็นร้อนแทนคนอื่นมาเปรียบเปรยอย่างนี้ล่ะ?”
หม่าหลันมองมาที่เฉียนหงเย่น ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “พี่สะใภ้ เห็นหรือยัง พูดได้ไม่ทันไรก็ร้อนตัวแล้ว!”
เฉียนหงเย่นเบ้ปาก เอ่ยพูดอย่างดูแคลนว่า “พวกผู้ชายตระกูลเซียวนี่นิสัยแบบนี้กันหมดเลยหรือไง!ทั้งเอื่อยเฉื่อย อารมณ์ร้อน ความสามารถน้อย ขี้โวยวาย!”
หม่าหลันตบมือ เอ่ยพูดอย่างฮึกเหิม “พี่สะใภ้พูดถูก!พูดได้สวย แต่ละคำช่างโดนใจจริงๆ!”
หน้าของเซียวฉางควานร้อนปุดๆ เขาลุกพรวดขึ้นมา แล้วพูดกับเซียวชูหรันว่า “ชูหรัน พวกแกสั่งเดลิเวอรี่กินกันได้เลยนะ ไม่ต้องสั่งเผื่อฉัน”
เซียวชูหรันเอ่ยถาม “”พ่อ แล้วพ่อจะไปไหน?”
เซียวฉางควานทำหน้าเกรี้ยวกราดแล้วพูดอย่างฟึดฟัด “ฉันอิ่มน้ำโห จะกลับไปนอนย่อยที่ห้องสักหน่อย”
เซียวชูหรันจนใจ ทำได้เพียงหันไปพูดกับหม่าหลันว่า “แม่ แม่ก็หยุดพูดได้แล้ว”
เมื่อเฉียนหงเย่นเห็นว่าเซียวชูหรันเริ่มทนดูไม่ได้ จึงรีบพูดกับหม่าหลันอย่างรู้งานว่า “ใช่ๆหม่าหลัน ชูหรันพูดถูก เอาแค่พอเหมาะพอควร ไม่ต้องพูดเยอะ ให้ทางหนีทีไล่กับเขาบ้าง”
หม่าหลันรู้จักใช้สถานการณ์ข่มขู่ จึงเอ่ยพูดเสียงสูงว่า “ได้เลยพี่สะใภ้ ฉันจะถือว่าเห็นแก่หน้าพี่แล้วกัน!”
พูดจบ ก็โบกมือแล้วพูดว่า “เอาล่ะเซียวเฉิงควาน โตๆกันแล้วทั้งนั้น เอะอะก็เอาแต่โกรธเป็นเด็กๆไปได้ ฉันไม่ว่าคุณแล้วโอเคไหม?”
เซียวฉางควานนิ่งอยู่กับที่ จะไปหรืออยู่ก็ไม่ได้ รู้สึกอยากร้องไห้แต่น้ำตาก็ไม่มีจะไหล
ในตอนนี้เองเฉียนหงเย่นก็เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “หม่าหลัน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันไปก่อนนะ ไว้วันหลังเรานัดเจอกันใหม่”
หม่าหลันรีบเอ่ยพูด “ไม่เอาวันหลังสิ พรุ่งนี้เลย พรุ่งนี้ตอนบ่ายพี่มาหาฉันที่บ้าน เดี๋ยวฉันจะพาไปทำสปาที่คฤหาสน์ซ็องเซลีเซียนสปา วันนี้อยู่กินข้าวเย็นกันก่อนแล้วค่อยกลับ!”
เมื่อเฉียนหงเย่นได้ยินคำพูดนี้ ก็อดพูดอย่างตื่นเต้นไม่ได้ว่า “คุณพระ ถ้าไม่บอกว่าแกวาสนาดี ฉันก็คงไม่รู้ว่าแกมีคฤหาสน์ที่ซ็องเซลีเซียนสปาด้วยนะเนี่ย!ฉันได้ยินมาว่าคฤหาสน์ที่นั่นคนมีเงินเท่านั้นถึงจะซื้อมาได้!”
หม่าหลันยิ้มตาหยี “ก็ลูกสาวสุดที่รักหาลูกเขยดีๆมาให้นี่นา!”
เฉียนหงเย่นหันไปทางเย่เฉิน เอ่ยพูดอย่างถ่อมตน “เย่เฉิน……ดูไปดูมา แกก็สุดยอดเลยนะเนี่ย……”
เย่เฉินตอบกลับ “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ”
เฉียนหางเย่นเคยได้ยินลูกสาวอย่างเซียวเวยเวยพูดว่า ต้องมีสักวันที่เธอต้องพึ่งการช่วยเหลือจากเย่เฉิน ดังนั้นจึงกลัวว่าตัวเองจะพูดอะไรผิดต่อหน้าเย่เฉิน จึงหันมาพูดกับหม่าหลันว่า “หม่าหลัน ถ้าพรุ่งนี้จะไปจริงๆยังไงก็ส่งข้อความมาย้ำฉันอีกทีนะ”
“ได้!”
“ฉันจะรอข้อความจากเธอ”
พูดจบเฉียนหงเย่นก็เดินออกไปอย่างระริกระรี้
หม่าหลันเดินเข้ามาในห้องรับแขก ยิ้มตาหยีพร้อมกับบิดขี้เกียจ เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ว่าละทำไมนายหญิงใหญ่เซียวชอบเฉียนหงเย่น ที่แท้ก็เพราะว่าเฉียนหงเย่นเอาใจเก่งนี่เอง เธอพูดมาไม่กี่คำก็ทำให้สบายใจได้ แถมยังเป็นคำพูดที่ไม่รู้สึกว่าเสแสร้ง ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมาเธอเอาอกเอาใจฉัน จนแบบคุณพระ โดนใจสุดๆ……”
เซียวชูหรันส่ายหน้าอย่างจนใจ เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองยังมีเรื่องสำคัญต้องพูด จึงกระแอมไอ แล้วเอ่ยพูดด้วยใบหน้าจริงจังว่า “เย่เฉิน พ่อ แม่ ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอก และอยากขอคำปรึกษาด้วย!”