ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3726
เมื่อเย่เฉินเห็นเซียวชูหรันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก็เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ที่รัก มีเรื่องอะไรพูดมาได้เลย”
เซียวชูหรันมองคนในครอบครัวทั้งสามคน แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “ฉันมีโอกาสไปเข้าร่วมMaster Classที่โรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์ในอเมริกา ซึ่งต้องใช้เวลาอยู่ที่นั่นประมาณหนึ่งเดือน……”
“อะไรคือMaster Class?” หม่าหลันเอ่ยถามอย่างแปลกใจ “ไปทำอะไรเหรอ?”
เซียวชูหรันกำลังจะอธิบาย เย่เฉินที่อยู่ข้างๆก็พูดกับหม่าหลันว่า “แม่ Master Classของโรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์ เป็นที่เดียวกันกับที่ชูหรันอยากเข้ามากที่สุด และเป็นโรงเรียนออกแบบที่ดีที่สุดในโลก”
เซียวชูหรันคิดไม่ถึง ว่าเย่เฉินจะจดจำความใฝ่ฝันของเธอได้อย่างแม่นยำขนาดนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะซาบซึ่งในใจขึ้นมาไม่ได้
ในตอนนี้เอง เย่เฉินก็ถามเธอว่า “ชูหรัน ผมจำได้ว่าก่อนหน้านี้คุณเคยบอกว่า เกณฑ์ในการคัดเลือกผู้เข้าสมัครMaster Classสูงมาก คุณทำได้ยังไงกัน?”
เซียวชูหรันเอ่ยพูด “เคลลี่ เวสท์เป็นคนช่วยน่ะ เธอเป็นคนรับผิดชอบการจัดMaster Classในปีนี้ เลยมีโควตาพิเศษอยู่ในมือ เธอบอกว่าเธอจะเอาสิทธิ์นี้ไปให้ใครก็ได้ เลยเอามาให้ฉัน”
เย่เฉินเอ่ยถามอย่างสงสัย “ชูหรัน ถ้าว่ากันตามเหตุผลโควตานี้มีมูลค่าสูงมากเลยนะ คุณเองก็เพิ่งรู้จักกับเธอได้ไม่นาน ทำไมเธอถึงกล้าให้โควตากับคุณไวจังล่ะ?”
เซียวชูหรันเอ่ยพูดอย่างขัดเขิน “ฉันเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน วันนี้เธอนัดฉันกับคุณจานไปทานข้าว เธอถามฉันบนโต๊ะอาหารว่ายินยอมที่จะไม่อยู่เมืองจินหลิงเป็นเวลาหนึ่งเดือนไหม ตอนแรกฉันก็ไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร ต่อมาพวกเธอถึงได้บอกว่าอยากแนะนำให้ฉันไปเข้าร่วมMaster Classในปีนี้”
ขณะที่พูด เซียวชูหรันก็เอ่ยพูดอย่างสับสนว่า “แม้ว่าหลายวันมานี้ฉันจะเข้ากับพวกเธอได้เป็นอย่างดี แต่ลึกในใจ ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมเคลลี่ถึงได้ให้โควตานี้กับฉัน…..ฉันได้ยินมาว่าถ้าจะขายโควตานี้ราคาอย่างน้อยก็อยู่ที่สามล้านดอลล่า เพราะว่ามีนักออกแบบหลายคนอยากอาศัยMaster Classเพื่อสร้างเม็ดเงินให้ตัวเอง ทุกคนเลยยอมรับในตัวมูลค่าของมัน”
เย่เฉินพยักหน้า ได้คำตอบในใจแล้ว นี่ไม่น่าจะใช่เจตนาของเคลลี่ เวสท์ ต้องเป็นเจตนาของเฟ่ยเข่อซินแน่ๆ
คิดมาถึงตรงนี้ เย่เฉินก็นับถือความไม่ย่อท้อของเฟ่ยเข่อซิน นักบู๊หกดาวของตัวเองหายตัวไป คิดไม่ถึงเลยว่าจะยังกล้าอยู่ที่เมืองจินหลิงคนเดียวเพื่อตะล่อมภรรยาของเขา ความเด็ดขาดนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
ดังนั้น เขาจึงถามเซียวชูหรันว่า “ที่รัก เรื่องนี้คุณคิดว่ายังไง?”
เซียวชูหรันลังเลเล็กน้อย มองมาที่เย่เฉินแล้วเอ่ยพูดออกมาจากใจจริงว่า “ที่รัก…..จริงๆแล้วฉันอยากไปมากๆ….เพราะโอกาสแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะมาได้ง่ายๆ ถ้าครั้งนี้ไม่คว้าเอาไว้ บางทีชาตินี้ทั้งชาติอาจจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้วก็ได้นะ”
เย่เฉินพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่ก็อดที่จะทอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “ผมรู้ว่าคุณเลื่อมใสในMaster Classมาตลอด แต่ผมขอพูดอะไรจากใจหน่อยนะ อเมริกามันอยู่ไกลเกินไป อีกอย่างคุณก็ไปตั้งเดือนหนึ่ง ซึ่งมันค่อนข้างนาน”
เซียวชูหรันรีบเอ่ยขึ้น “อืม!ฉันก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน คิดว่ามันไกลบ้านมาก แบบนั้นเลยอยากปรึกษาคุณก่อน”
เธอมองมาที่เย่เฉินด้วยใบหน้าคาดหวัง เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆว่า “ที่รัก…..คุณไปกับฉันด้วยได้ไหม?”
เย่เฉินนิ่งไปเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “ชูหรัน คุณอยากให้ผมไปอเมริกาด้วยเหรอ?”
“ใช่…..” เซียวชูหรันพยักหน้าเบาๆ เอ่ยพูดด้วยใบหน้าอ้อนวอนว่า “ถ้าคุณปล่อยให้ฉันไปอเมริกาคนเดียวนานๆ ฉันต้องไม่มั่นใจแน่ๆ อีกอย่าง…..อีกอย่าง…..”
เซียวชูหรันพูดคำว่าอีกอย่างติดกัน แล้วก้มหน้าลงอย่างขวยเขิน เอ่ยพูดเสียงเบาว่า “อีกอย่างฉันไม่อยากอยู่ห่างจากคุณนานขนาดนี้……”