ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3730
หลังจากที่เย่เฉินกับเซียวชูหรันตกลงเรื่องไปอเมริกากันเสร็จ เซียวชูหรันก็รีบตอบกลับข้อความเพื่อยืนยันกับเคลลี่ เวสท์อีกที
การทำงานของเคลลี่ เวทส์รวดเร็วทันใจ ไม่นานก็นำข้อมูลที่เกี่ยวข้องของเซียวชูหรันยื่นให้ทางโรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์
เนื่องจากเวลานี้อเมริกายังฟ้าสว่าง ดังนั้นโรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์จึงตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว และส่งบัตรเชิญเข้าร่วมMaster Classให้เซียวชูหรันทางอีเมล
วินาทีที่เซียวชูหรันเห็นบัตรเชิญ ก็ตื่นเต้นจนน้ำตาแทบไหล
เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าหนึ่งในเป้าหมายที่เธอตั้งเอาไว้ในตอนแรก จะเป็นจริงขึ้นมาจริงๆ ทว่ามันกลับไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
นอกจากความตื่นเต้นดีใจแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดกับเย่เฉินว่า “ที่รัก ที่พวกเธอดีกับฉันขนาดนี้ เป็นเพราะคุณหรือเปล่า?”
เย่เฉินไม่คิดว่าภรรยาจะถามคำถามไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแบบนี้ จึงเอ่ยถามยิ้มๆว่า “ที่รัก ทำไมจู่ๆถามอย่างนี้ล่ะ?”
เซียวชูหรันเอ่ยพูดอย่างจริงจัง “ทั้งหวังตงเสวี่ยนแห่งตี้เหากรุ๊ป ทั้งซ่งหวั่นถิงแห่งซ่งซื่อกรุ๊ป แล้วไหนจะจานเฟยเอ๋อร์ ทุกคนต่างดูแลฉันดีเป็นพิเศษ สองคนหน้าไม่ใช่แค่หาโปรเจ็คมาให้ฉันทำ แต่ยังให้สิทธิพิเศษอื่นๆอีกด้วย สองคนหลังก็เหมือนกัน คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ใช้งบเยอะขนาดนั้น ไปจ้างนักออกแบบแนวหน้าก็ยังได้ แต่เธอกลับมอบโปรเจ็คนี้ให้ฉันดูแล พอรู้ว่าฉันชื่นชอบเคลลี่ เวสท์ ก็ยังลงทุนจ้างมาจากอเมริกา …..”
พูดมาถึงตรงนี้ เซียวชูหรันก็พูดต่อว่า “ฉันเชื่อว่า ที่เคลลี่มอบโควตาที่มีมูลค่าขนาดนี้ให้ฉัน ต้องเป็นเพราะเห็นแก่หน้าจานเฟยเอ๋อร์แน่ๆ….และคุณจานก็ไม่น่าจะดีกับฉันโดยไม่มีมูลเหตุ และนั่นต้องเป็นเพราะคุณแน่ๆ ใช่ไหม?”
เย่เฉินเอ่ยพูด “อาจเป็นเพราะผมช่วยดูฮวงจุ้ยให้ เธอเลยอยากขอบคุณผมด้วยการตอบแทนน้ำใจล่ะมั้ง ”
เซียวชูหรันอดที่จะถามไม่ได้ว่า “แต่ว่าปกติคุณดูฮวงจุ้ยก็ได้ค่าจ้างหลายล้าน คุณจานก็ส่งโรลส์-รอยซ์ คัลลิแนนให้พ่ออีก พอลองคำนวณดู แค่นี้ก็พอตอบแทนน้ำใจได้แล้ว ทำไมต้องดูแลฉันดีขนาดนี้อีกล่ะ?”
ขณะที่พูด จู่ๆเซียวชูหรันก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เอ่ยพูดอย่างอัตโนมัติว่า “ที่รัก คุณจานอาจจะมีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือจากคุณอีกหรือเปล่า?! ฉันจำได้คุณเคยบอกฉันว่า เรื่องที่เธอขอร้องมันใหญ่เกินไป ถ้าเป็นอย่างนั้น โปรเจ็คที่ฉันรับจากเธอมา กับโควตาพิเศษMaster Classนี้ มันจะทำให้คุณลำบากหรือเปล่า?”
เย่เฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย “ที่รัก เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมจะจัดการเอง”
เซียวชูหรันอดถามไม่ได้ว่า “ที่รัก คุณว่าเราเลี้ยงข้าวคุณจานสักมื้อเพื่อเป็นการขอบคุณดีไหม?”
เย่เฉินโบกมือ เอ่ยพูดว่า “ตอนนี้ยังก่อน คุณไปบอกเธอว่า ช่วงนี้ผมค่อนข้างยุ่ง รอให้ผมจัดการธุระเสร็จ เราสองคนค่อยเชิญเธอไปทานข้าวด้วยกันสักมื้อ”
เซียวชูหรันพยักหน้า “โอเค งั้นฉันแชทบอกเธอก่อนนะ”
พักใหญ่ต่อมา ณ โรงแรมสากลจินหลิง
เมื่อเฟ่ยเข่อซินห็นข้อความที่ส่งมาจากเซียวชูหรัน ก็ไม่สามารถปกปิดความตื่นเต้นเอาไว้ได้ ตะโกนอย่างลิงโลดว่า “เยี่ยม!”
เฉินอิ่งซานที่อยู่ข้างๆรีบถามว่า “คุณหนู มีเรื่องดีๆอะไรหรือเปล่า ทำไมดูดีใจขนาดนี้ล่ะ?”
เฟ่ยเข่อซินเอ่ยพูด “ชูหรันส่งข้อความมาบอกว่าสามีของเธออยากเลี้ยงข้าวฉัน แต่ว่าช่วงนี้สามีเธอค่อนข้างยุ่ง คงต้องรออีกสองสามวัน”
เฉินอิ่งซานพยักหน้า เอ่ยพูดว่า “ความหมายของเย่เฉินคือ หลังจากงานประมูลเสร็จสิ้นหรือเปล่า?”
“ใช่” เฟ่ยเข่อซินปกปิดความดีใจเอาไว้ไม่ได้ เอ่ยพูดว่า “ในเมื่อเขาพูดออกมาอย่างนี้ ก็พิสูจน์ได้ว่าความพยายามที่ผ่านมาของฉันไม่ได้เสียเปล่า!เย่เฉินต้องรู้สึกติดค้างน้ำใจฉันแน่ๆ ถึงได้อยากเลี้ยงข้าวฉันแบบนี้!”
เฉินอิ่งซานเอ่ยพูดอย่างเป็นห่วงว่า “คุณหนู ถ้าเกิดเย่เฉินแค่อยากเลี้ยงข้าวคุณเฉยๆ จะทำยังไงล่ะ?”