ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3749
ตอนนี้ เขารู้สึกกลัวแทบตาย อดคิดไม่ได้ว่า “อาจารย์เย่ กำลังทำอะไรกันนี่………ไอ้ของสับปะรังเคซื้อมายังไม่ถึงแปดหยวนด้วยซ้ำ แล้วเขาจะขายสิบแปดล้าน…..นี่…..นี่ไม่ใช่การหลอกลวงคน นี่มันเป็นการฆ่าให้ตายแล้ว….. ”
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์รู้สึกโมโห เขาโบกมืออย่างหงุดหงิดแล้วกล่าวว่า “เอาล่ะ เอาล่ะ ผมขอร้องคุณอย่าดูถูกไอคิวของผมอีกต่อไปแล้ว พวกคุณออกไปจากห้องผม และโปรดนำขยะพวกนี้ออกไปด้วย ผมไม่ต้องการอะไรสักอย่าง!”
“ไม่ต้องการ?” การแสดงออกของเย่เฉินเคร่งขรึมทันที และกล่าวเยาะเย้ยว่า “ต้องขอโทษคุณอาร์โนลต์ด้วย ถ้าคุณไม่ซื้อสินค้าจากพวกเรา คุณจะสูญเสียสิทธิ์ในการเข้าร่วมการประมูลครั้งนี้”
“อะไรนะ?!” เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ถามด้วยความโมโห “ผมผ่านการตรวจสอบการลงทะเบียนของพวกคุณแล้ว ผมได้ชำระค่าลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว และผมก็จ่ายค่าห้องพักไปหกล้านแล้ว คุณมีสิทธิ์อะไรมายกเลิกไม่ให้ผมเข้าร่วมการประมูล?”
เย่เฉินกล่าวด้วยท่าทางแน่วแน่ว่า “เพราะคุณไม่ได้ซื้อพ่วงสินค้า!”
“ซื้อพ่วงสินค้า?!” เมื่อเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ได้ยินประโยคนี้ ร่างกายแข็งทื่อทันที ผ่านไปครู่หนึ่งเขาถึงกลับมารู้สึกตัวและกล่าวโพล่งออกมาว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินว่าการเข้างานประมูลนั้นต้องซื้อพ่วงสินค้า ช่างเป็นเรื่องที่ไร้สาระจริง ๆ!”
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “การไปซื้อกระเป๋าที่ร้านของพวกคุณยังต้องซื้อพ่วงสินค้าเลย คุณมาซื้อยาอายุวัฒนะกับพวกเราแล้วไม่ต้องหรือ?”
หลังจากนั้น เขาหยิบใบเสร็จของตนเองออกมาแล้วกล่าวเยาะเย้ยว่า “คุณดูสิ การไปซื้อกระเป๋าราคาหนึ่งแสนกว่าหยวนที่ร้านของพวกคุณ ถูกบังคับให้ซื้อพ่วงสินค้าเป็นเงินจำนวนหนึ่งล้านหยวน และสินค้าที่ซื้อพ่วงทั้งหมดคือสินค้าขยะที่ไม่สามารถขายได้เป็นเวลาหลายปีแล้ว เจ้านายของพวกเราเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ แล้วนำไปใช้ทันที โดยเรียนรู้จากกลยุทธ์ทางธุรกิจของคุณอาร์โนลต์”
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์เหลือบมองที่ใบเสร็จรายการซื้อสินค้า ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ดูน่าเกลียดเป็นอย่างมาก
การซื้อพวงสินค้าเป็นกฎที่ได้รับการยอมรับเนื่องจากปฏิบัติมานานในอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย และเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์คุ้นเคยกับกฎนี้ กระทั่งอาศัยกฎนี้เขาสามารถหากำไรได้มหาศาล
แต่เขาคิดไม่ถึงว่าวันนี้เย่เฉินจะใช้กลยุทธ์นี้
นอกจากนี้ สถานการณ์การซื้อพ่วงสินค้าที่แสดงในรายการซื้อสินค้านี้หลอกลวงมากเกินไป
กระเป๋าหนึ่งใบ ต้องซื้อพ่วงสินค้าอีกหกเท่า ช่างบ้าคลั่งเสียจริง ๆ
ดังนั้น เขากล่าวด้วยความอึดอัดว่า “นี่…นี่…เท่าที่ผมรู้……การซื้อพ่วงสินค้าปกติสูงกว่าราคาสาธารณะสองสามเท่า สำหรับกระเป๋าที่มีมูลค่าหนึ่งแสนกว่าหยวน การซื้อพ่วงสองแสนหยวนก็พอแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมที่นี่ถึงต้องซื้อพ่วงสินค้าถึงหนึ่งล้านหยวน……มันอาจจะเป็นพฤติกรรมของร้านเองก็ได้…….”
เย่เฉินโบกมือ “คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายมาก ตอนนี้เจ้านายของพวกเรามีทางเลือกให้คุณสองทาง หากคุณต้องการเข้าร่วมการประมูลยาอายุวัฒนะ คุณต้องทำการซื้อพวงสินค้า มิฉะนั้น พวกเราจะจัดการให้คุณเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมทันที แล้วพวกเราจะคืนค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับคุณ!”
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์กล่าวอย่างรวดเร็วว่า “มีเพียงอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือยเท่านั้นที่มีกฎเกณฑ์ในการซื้อพ่วงสินค้า และการซื้อพ่วงสินค้าในอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือยก็เป็นเรื่องจำใจ การที่ราคาสินค้าที่สูงนั้นไม่ได้กำเนิดจากแบรนด์ของพวกเรา แต่เกิดจากนักเก็งกำไรภายนอก เช่นนาฬิกา Nautilus ของปาเต็ก ฟิลิปป์ เมื่อสิบปีที่แล้วราคาสาธารณะไม่ถึงสองหมื่นยูโร แต่ตอนนี้ราคาซื้อขายในตลาดเกินหกหมื่นยูโรไปแล้ว ซึ่งปรับขึ้นหลายเท่าตัว และผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ก็ถูกจำกัด ดังนั้นพวกเราจึงทำได้เพียงเติมเต็มช่องว่างระหว่างราคาสาธารณะกับราคาจริงผ่านการซื้อพ่วงสินค้าซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ!”
เย่เฉินถามด้วยรอยยิ้มว่า “ทำไมนาฬิกา Nautilus หนึ่งเรือนที่มีมูลค่าหลายแสนถึงได้ถูกมองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการซื้อ จำเป็นต้องมีการซื้อพ่วงสินค้า แล้วยาอายุวัฒนะของพวกเราล่ะ? มหาเศรษฐีสองร้อยคนที่มาลงทะเบียนประมูล แต่สามารถแย่งซื้อได้เพียงแค่สองเม็ดเท่านั้น เมื่อคำนวณแล้วมันเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการมากกว่า Nautilus เสียอีก ถ้างั้นยาอายุวัฒนะก็ต้องซื้อพ่วงสินค้าเหมือน Nautilus ก็เป็นหลักการที่ถูกต้องใช่ไหม?”