ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3752
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ไม่คิดว่าเย่เฉินบอกล้มโต๊ะก็ล้มโต๊ะทันที
เขาไม่กล้านำเรื่องการประมูลมาล้อเล่น แม้ว่าเขาจะมีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งล้านล้าน แต่ถ้าไม่มีชีวิตอยู่เสพสุข สามารถกล่าวได้ว่าทรัพย์สินเหล่านี้มันก็ไร้ค่า
ดังนั้น เขายอมแพ้ทันที และรีบขอร้องอ้อนวอนว่า “สุภาพบุรุษท่านนี้ อย่าเพิ่งโกรธ มีอะไรพูดกันดี ๆ!”
“ได้โปรดบอกผู้จัดการทั่วไปเฉินว่าผมยินดีที่จะซื้อพ่วงสินค้า!”
หลังจากกล่าวจบ เขายื่นมือที่สั่นเทาแล้วชี้ไปที่ราชลัญจกรจีนที่อยู่ในมือของจางเอ้อเหมากัดฟันและกล่าวว่า “นั่นคือราชลัญจกรจีนใช่ไหม? ผมซื้อแล้ว!”
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าคุณซื้อแค่ราชลัญจกรจีน มันอาจจะไม่เพียงพอ…..”
หัวใจของเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์กระตุก กำหมัดไว้แน่น และถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “แล้ว…แล้วต้องการให้ผมซื้ออะไรอีก!”
หลังจากล่าวจบ เขาเหลือบมองที่ห่อผ้าสินค้าปลอมของจางเอ้อเหมาและกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “ผมซื้อถ้วยเหล้าทองสัมฤทธิ์ด้วย แบบนี้ได้หรือยัง?”
เย่เฉินส่ายศีรษะ ดึงใบเสร็จรายการซื้อพ่วงสินค้าที่ตนเองไปซื้อตอนเที่ยง และกล่าวว่า “คุณดูเองสิ เจ้านายของพวกเราได้ซื้อพ่วงสินค้าหลายสิบรายการในร้านของคุณ และตอนนี้คุณซื้อพ่วงสินค้ากับพวกเราแค่สองชิ้น ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลใช่ไหม?”
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์กล่าวโพล่งออกมาว่า “แต่…แต่ในรายการของคุณนั้น สินค้าทั้งหมดในรายการรวมกันแล้วเพียงหนึ่งล้านหยวนเท่านั้น! นี่….นี่แค่ราชลัญจกรจีนชิ้นนี้ก็มีมูลค่าสามสี่ร้อยล้านหยวนแล้ว แพงกว่าหลายร้อยเท่าแล้ว ถึงแม้จะเป็นการแก้แค้น แต่ก็ไม่ควรโหดเหี้ยมขนาดนี้…….”
เย่เฉินกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ทุกคนล้วนเป็นนักธุรกิจ พวกเขาให้ความสำคัญกับการปฏิบัติต่อคนอื่นเสมือนคนอื่นปฏิบัติต่อตน หากคุณยืนกรานที่ว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการแก้แค้น มันก็จะไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว เมื่อสักครู่ผมพูดแล้วว่าพวกเราไม่บังคับซื้อขาย ถ้าคุณไม่พอใจ พวกเราจะไม่ทำธุรกิจนี้ต่อ”
“ขอโทษด้วย มันเป็นความผิดของผมเอง……” เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ตกใจกลัวโดยสิ้นเชิง เขารู้ว่าการซื้อพ่วงสินค้าหลายร้อยล้านหรือหลายพันล้านหยวนเป็นเรื่องเล็กน้อย สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือในกรณีในงานประมูล แล้วตนเองประสบความสำเร็จสามารถประมูลยาอายุวัฒนะมาได้ด้วยราคาหมื่นล้านดอลลาร์ และผู้จัดงานขอให้ตนเองซื้อพ่วงสินค้า ณ จุดประมูล มันจะเป็นตัวเลขที่สูงเสียดฟ้าจริง ๆ!
ดังนั้น เขาจึงรีบประสานมือทำความเคารพให้เย่เฉินและกล่าวว่า “สุขภาพบุรุษท่านนี้ เมื่อสักครู่ผมใช้คำพูดผิด โปรดอย่าได้ใส่ใจเลย… คุณบอกผมมาตามตรงว่าผมต้องซื้อพ่วงสินค้าเท่าไหร่ และสินค้าอะไรบ้าง ขอเพียงแค่อยู่ในขอบเขตที่ผมสามารถรับได้ ผมจะไม่พูดอะไรสักคำ!”
หลังจากนั้น เขากล่าวอ้อนวอนเล็กน้อย “นอกจากนี้ โปรดช่วยแจ้งเจ้านายของพวกคุณด้วย บอกว่าผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเขา นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าร้านค้าในเครือของผมจะผลิตสินค้ารุ่นใด ๆ ผมจะส่งสินค้ารุ่นนั้นให้เจ้านายของพวกคุณสองชิ้น ถึงแม้ว่ารุ่นนั้นจะมีหลายสี ผมก็จะส่งให้ครบทุกสี ซึ่งผมหวังเพียงแค่ต่อไปเขาได้โปรดเข้าใจ และปล่อยผมไปสักครั้ง”
เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เรื่องของอนาคตค่อยพูดกันทีหลัง ตอนนี้พวกเรามาพูดถึงการซื้อพ่วงสินค้าของคุณก่อน”
หลังจากนั้น เขาโบกมือให้จางเอ้อเหมาและสั่งว่า “เอ้อเหมา โปรดนำราชลัญจกรจีนและถ้วยเหล้าทองสัมฤทธิ์ออกมาให้คุณอาร์โนลต์ก่อน”
“ครับ” จางเอ้อเหมาพยักหน้าอย่างรวดเร็วและเอาโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมปลอมสองชิ้นออกมาแล้ววางลงบนโต๊ะ
เย่เฉินกล่าวต่อไปว่า “คุณดูสิว่ายังมีของดีอะไรบ้าง? แล้วค่อยให้คุณอาร์โนลต์อีกสองสามชิ้น”
จางเอ้อเหมาเปิดห่อผ้าอย่างรวดเร็ว ค้นหาภายในครู่หนึ่ง และพบม้วนภาพ จากนั้นส่งให้เย่เฉินและกล่าวว่า “อาจารย์เย่ นี่เป็นของดี คุณสามารถเปิดดูได้”
เย่เฉินหยิบม้วนภาพขึ้นมา และทันทีที่จับม้วนภาพเขาก็รู้สึกว่ามันเป็นกระดาษซวนจื่อ และแน่นอนว่ามันต้องเป็นภาพวาดสมัยใหม่
หลังจากนั้น เขาเปิดภาพวาดอย่างช้า ๆ และประหลาดใจเมื่อเห็นภาพทั้งหมด
นี่…..เป็นภาพวาดระดับโลก – โมนาลิซ่า
แถมยังเป็นภาพโมนาลิซ่าในแบบภาพวาดจีนอีกด้วย!