ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3756
เมื่อเห็นเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์จ่ายเงินเพื่อยอมรับสภาพ เย่เฉินกล่าวกับเขาด้วยความพึงพอใจว่า “คุณอาร์โนลต์ ตอนนี้การซื้อพ่วงสินค้าสิ้นสุดลงชั่วคราว แต่เจ้านายของพวกเรามีบางอย่างที่จะบอกคุณ”
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์กล่าวอย่างรวดเร็ว “โปรดพูดมาเถอะ……”
เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คุณต้องเก็บการซื้อพ่วงสินค้านี้เป็นความลับ และไม่บอกให้ใครรู้”
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์กล่าวโดยไม่ลังเล “ไม่ต้องกังวล ผมจะไม่เปิดเผยต่อสาธารณะอย่างแน่นอน”
“งั้นก็ดี” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ยังไงก็ตาม ยังมีอีกอย่างที่ผมต้องการให้คุณช่วยเหลือ”
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์รีบถาม “คุณมีเรื่องอะไรก็บอกผมมาเถอะ!”
เย่เฉินกล่าวว่า “เจ้านายของพวกเราไม่ชอบร้านของคุณในเมืองจินหลิงมาก ความหมายของเขาก็คือให้คุณจัดการปิดร้านโดยเร็วที่สุด แล้วไล่พนักงานในร้านออกไปให้หมด โดยเฉพาะค่าคอมมิชชั่นสำหรับการซื้อพวงสินค้านั้น อย่าให้พนักงานคนนั้นแม้แต่เหรียญเดียว”
เดิมเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์นั้นเกลียดร้านนี้ที่สุด เมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาตกลงโดยไม่ลังเล และกล่าวโพล่งออกมา “โปรดวางใจเถอะ วันนี้ผมจะปิดร้านแล้วไล่พนักงานทุกคนในร้านออกไปให้หมด!”
“โอเค” เย่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “งั้นคุณเก็บวัตถุโบราณล้ำค่าเหล่านี้ไว้ พวกเราขอตัวกลับไปก่อน”
หลังจากนั้น เย่เฉินยัดสิ่งของสามอย่างไว้ในอ้อมแขนของเขา แล้วบอกจางเอ้อเหมา และเดินออกไปจากห้องชุดพร้อมกัน
ทันทีที่เดินออกมาจากห้อง จางเอ้อเหมาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและกล่าวว่า “อาจารย์…..อาจารย์เย่…..คุณโหดเหี้ยมจริง ๆ…..ของสับปะรังเคนั้น ตอนขายอยู่ที่ตลาดของโบราณผมยังไม่กล้าขายสองแสนหยวนเลย แต่เมื่อสักครู่คุณขอเงินกับชายชราสองพันล้าน…..ซึ่งเป็นกำไรหลายสิบล้านเท่า……”
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “จางเอ้อเหมา วันนี้คุณทำได้ดี คุณวางใจเถอะ ผมไม่เอาเปรียบคุณแน่นอน ผมจะให้เฉินจื๋อข่ายเตรียมเงินสดสองล้านให้คุณภายหลัง”
เมื่อจางเอ้อเหมาได้ยินประโยคนี้ เขาโบกมืออย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “อาจารย์เย่ ผมไม่ได้หมายความเช่นนั้น….การที่คุณหาเงินได้นั้นมันมาจากความสามารถของคุณ และผมไม่อิจฉาเลยสักนิด……..”
เย่เฉินกล่าวว่า “นี่เป็นน้ำใจเล็กน้อยของผม อย่างไรเสียผมก็ไม่สามารถให้คุณไปช่วยเปล่า ๆ ได้หรอก”
จางเอ้อเหมารีบปฏิเสธ “อาจารย์เย่ สำหรับผมแล้วนี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น และราคาซื้อของรายการเหล่านั้นถูกมาก ผมมาที่นี่เพื่อช่วยคุณแสดงละคร แล้วผมจะรับเงินของคุณได้อย่างไร?”
เย่เฉินยิ้มราบเรียบและกล่าวว่า “จางเอ้อเหมา ผมให้คุณแล้วคุณก็รับไว้เถอะ ไม่จำเป็นต้องเกรงใจผม”
จางเอ้อเหมากล่าวโพล่งออกมา “อาจารย์เย่ หากคุณต้องการมอบเงินให้ผมจริง ๆ งั้นรบกวนคุณช่วยผมบริจาคเงินนั้นด้วยเถอะ!”
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะมองจางเอ้อเหมาด้วยมุมมองใหม่ และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “จางเอ้อเหมา คุณคิดไตร่ตรองให้รอบคอบน่ะ นี่ไม่ใช่เงินสองร้อยหยวน มันคือเงินสองล้านหยวนน่ะ!”
จางเอ้อเหมากล่าวอย่างหนักแน่น “ครับ อาจารย์เย่ ผมคิดรอบคอบแล้ว คุณยังสามารถบริจาคเงินถึงสองพันล้านบาท แล้วเงินสองล้านของผมจะถือเป็นอะไรได้ล่ะ”
เมื่อเห็นว่าทัศนคติของเขาแน่วแน่ เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวว่า “โอเค ไม่คิดว่าคุณจะมีจิตสำนึกนี้ คุณวางใจเถอะ ผมจะบริจาคเพิ่มอีกสองล้านในนามของคุณเอง”
จางเอ้อเหมากล่าวอย่างตื่นเต้น “ขอบคุณครับ อาจารย์เย่!”
เย่เฉินจำเรื่องไร้สาระที่จางเอ้อเหมากล่าวเมื่อสักครู่ ซึ่งมีทักษะอยู่ไม่น้อย ดังนั้นเขาจึงถามเขาว่า “จางเอ้อเหมา การที่คุณหลอกขายของอยู่ตลาดของโบราณนั้นมีรายได้ต่อปีเท่าไหร่?”
จางเอ้อเหมากล่าวด้วยความอึดอัดว่า “บอกตามตรง อาจารย์เย่ รายได้ของผมนั้นมันไม่แน่นอน บางเดือนก็ขายไม่ได้สักชิ้น แต่บางครั้งก็ขายได้มากมายในบิลเดียว จนไม่ต้องทำงานหลายเดือนเลย”