ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3792
“ใช่” เฉินจื๋อข่ายนำภาพหนึ่งในจอ สลับมาเป็นใบหน้าของหลี่ไท่หลายอย่างใกล้ๆ ยิ้มและพูดว่า: “คุณชายท่านว่า หลี่ไท่หลายคนนี้แม้ว่าจะเสนอราคาอย่างไม่คิด แต่ท่าทางเหมือนว่ายังดูเสียดายมาก”
เย่เฉินมอง และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา พยักหน้าและพูดว่า: “ที่จริง ในสองร้อยคนที่มาวันนี้ อย่างน้อยมีครึ่งหนึ่งยอมแพ้ตั้งแต่ประกาศราคาเริ่มต้น ที่พวกเขามากันอย่างยากลำบาก ไม่มีอะไรมากไปกว่าต้องการเห็นว่ายาอายุวัฒนะทรงพลังเพียงใดก็เท่านั้น อีกอย่างแม้ว่าพวกเขายินดีที่จะเรียกราคาตาม ด้วยกำลังของพวกเขาแล้ว ไม่กี่รอบหลังจากนั้นก็คาดว่าเรียกราคาไม่ไหวแล้ว”
ที่จริง แม้แต่หลี่ไท่หลายก็แปลกใจเล็กน้อยกับราคาประมูลเริ่มต้นที่ 100 ล้านดอลลาร์
คิดตามอัตราแลกเปลี่ยนในตอนนี้ 100 ล้านดอลลาร์ก็อยู่ที่ 600 ล้านกว่าหยวน
ครั้งก่อนเขาประมูลยาอายุวัฒนะเม็ดหนึ่ง ใช้เงินเพียง 2 พันล้านหยวน ตอนนี้หนึ่งในสี่ของเม็ดราคาเริ่มต้นประมูล คิดไม่ถึงว่าเป็นหนึ่งในสามของราคาครั้งก่อน!
แต่ หลี่ไท่หลายอดคิดคำนวณไม่ได้: “ยาอายุวัฒนะที่แบ่งออกเป็น 4 ส่วนในคืนนี้ ส่วนที่หนึ่งถูกที่สุด เพราะว่าคนส่วนใหญ่ในนี้ยังไม่รู้ว่ายาอายุวัฒนะนั้นมหัศจรรย์แค่ไหน แต่เมื่อส่วนแรกถูกคนประมูลไปแล้ว และหลังจากที่กินเข้าไปต่อหน้าผู้คน จะต้องทำให้คนเหล่านี้บ้าคลั่ง! ราคาหลังจากนี้จะต้องสูงขึ้นแน่นอน! ดังนั้นในส่วนแรก ฉันตั้งใจจะเอาให้ได้!”
ซ่งหวั่นถิงเห็นหลี่ไท่หลายเสนอราคา ก็พยักหน้า ยิ้มและพูดว่า: “ค่ะ หมายเลข 055 เสนอราคา 100 ล้านดอลลาร์ มีใครยินดีจะให้ 110 ล้านดอลลาร์ไหมคะ? ถ้ามียกมือขึ้น”
เมื่อพูดจบ ในฝูงชนมีชายชราผมหงอกคนหนึ่งยกมือขึ้นและพูดว่า: “ผมเสนอ 110 ล้าน!”
หลี่ไท่หลายยกมือต่อโดยไม่ลังเล: “ผมเสนอ 120ล้าน!”
ซ่งหวั่นถิงกำลังจะพูด ในตอนนี้ชายชราคนหนึ่งมีใบหน้าลักษณะตะวันออกกลาง ยกมือขึ้นและพูดว่า: “ผมให้ 200 ล้าน!”
ทันใดนั้นหลี่ไท่หลายก็ตกลึงตาค้างทันทีกับสิ่งที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น และคิดอยู่ในใจ: “หมอนี่เอ่ยปากเพิ่มจาก 120 ล้านเป็น 200 ล้านทันที ไม่รู้ว่าเขามีเงินจริงๆ หรือว่าตั้งใจจะเล่นสงครามทางจิตวิทยากันแน่ ใช้การเสนอราคาพุ่งแบบรวดเดียวทำให้คู่แข่งรายอื่นตกใจและถอนตัวไป!”
หลี่ไท่หลายยังไม่ทันได้สติกลับมา ก็เห็นอดีตควีน แห่งยุโรปที่นั่งวีไอพีแถวหน้าเอ่ยปากพูดว่า: “ฉันเสนอ 250 ล้าน!”
อดีตควีนไม่ถือว่ามีเงินเยอะ ทั้งตระกูลอีเลียด ทรัพย์สินที่รวมกันนั้นเพียงพอสำหรับราคาต่ำสุดของการประมูลในครั้งนี้
แต่ว่า สำหรับอดีตควีนที่ผ่านความตายมา เงินมากองอยู่ตรงหน้า ก็ไม่ได้มีค่าอะไร
ถ้าหาก 2-3 พันล้านดอลลาร์ เธอไม่มีปัญญาเอามาได้จริงๆ แต่ 2-3 ร้อยล้าน แม้กระทั่ง 3-5 ร้อยล้านดอลลาร์ ยังพอกัดฟันหามาได้
ความคิดของเธอตอนนี้ คล้ายๆกับหลี่ไท่หลาย ยังไงซะกำลังของตัวเองมีไม่พอ มีกระสุน(หมายถึงเงิน)จำกัด ดังนั้นต้องใช้วิธีที่รวดเร็วฉับไว จัดการทุกคนโดยที่รับมือไม่ทัน
ดังนั้น เมื่อเธอเอ่ยปากก็เพิ่มราคาสูงเลย
สูงขึ้นมา 50 ล้านดอลลาร์ แสดงถึงความตั้งใจที่จะต้องเอาชนะให้ได้ เพื่อให้ผู้ประมูลเหล่านั้นที่จะสู้ราคากับตนเองกลัวจนถอนตัวไป
หลี่ไท่หลายคิดไม่ถึงว่า พอมาถึงก็ได้เจอคู่แข่งที่ขึ้นราคาสูงรวดเดียวสองคน เพียงครู่หนึ่ง เขาถึงกับฮึกเหิม ต้องการตะโกน 300 ล้านดอลลาร์ และดูว่าใครจะทำให้ใครตกใจกลัวกันแน่
แต่ พอคิดดูอีกที ก็มีคู่ปรับที่เล่นเช่นนี้สองคนแล้ว ถ้าตัวเองเล่นแบบนี้ด้วยล่ะก็ ไม่แน่ว่าจะได้ผล
ครั้นแล้ว เขาก็ยกมือขึ้นอย่างเฉยเมย โพล่งพูดว่า: “ผมเสนอ 260 ล้าน!”