ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3813
ในเวลานี้ ต็อดที่อยู่บนเวที หลังจากที่ยืนนิ่งอยู่นานในความเงียบ จู่ๆ ก็หันหลังกลับมา มองไปที่ซ่งหวั่นถิง และกล่าวอย่างซาบซึ้งว่า “คุณซ่ง ขอบคุณคุณ และจี๋ชิ่งถังของคุณ ที่มอบชีวิตใหม่ให้แก่ผม!”
หลังพูดจบ เขาก็โค้งคำนับให้กับซ่งหวั่นถิงอย่างสุดซึ้ง และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมา น้ำตาก็ได้ไหลลงมาอาบใบหน้าของเขาแล้ว
ซ่งหวั่นถิงพูดอย่างจริงจังว่า “หมายเลข 027 คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉัน หรือจี๋ชิ่งถัง สิ่งที่มอบชีวิตใหม่ให้แก่คุณนั้น คือยาอายุวัฒนะ”
ต็อดกล่าวอย่างซาบซึ้งว่า “ใช่! ที่ผมสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง มันต้องขอบคุณยาอายุวัฒนะทั้งหมด…….”
ซ่งหวั่นถิงยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า “เอาล่ะหมายเลข 027 เชิญคุณกลับไปที่ที่นั่งของคุณเถอะ การประมูลของเรายังคงจะดำเนินต่อไป”
ต็อดพยักหน้าอย่างเร่งรีบ ปาดน้ำตา แล้วก็เดินลงจากเวที
ทุกคนที่มองเห็นต็อดเดินกลับไปที่ที่นั่งด้วยท่าเดินที่คล่องแคล่วด้วยตาของตัวเอง แต่ละคนต่างรู้สึกว่าเหมือนข้ามชาติไปเลยทีเดียว
เพราะว่า เมื่อกี้นี้ผู้ชายคนนี้ถูกคนอุ้มขึ้นไป และเป็นอัมพาตอย่างสมบูรณ์ ยกเว้นปากเหนือคอของเขา ดวงตาของเขาที่ยังสามารถขยับได้ และส้วนอื่นๆ ของเขาก็ได้เป็นอัมพาตไปอย่างสมบูรณ์
แต่ในพริบตา คนคนนี้ก็สามารถเดินลงจากเวทีด้วยตัวเขาเองได้แล้ว ซึ่งความเปรียบต่างอย่างใหญ่หลวงระหว่างก่อนและหลังเช่นนี้ ช่างมีแรงกระทบใจจริงๆ
ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนมากขึ้นเริ่มรู้สึกเสียใจ พวกเขาเสียใจที่พวกเขาไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อชิงยาอายุวัฒนะส่วนที่สองมาให้ได้
และซ่งหวั่นถิงที่อยู่บนเวที ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ในคืนนี้ยาอายุวัฒนะสี่ส่วนนั้น ได้ขายออกสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง และต่อไปนี้ยังมียาอายุวัฒนะที่แยกเป็นสองส่วน และยาอายุวัฒนะเต็มเม็ดอีกหนึ่ง หากพลาดครั้งนี้ไป ครั้งต่อไปก็อาจจะต้องรอเป็นเวลาหนึ่งปีขึ้นไป ดังนั้นขอความกรุณาคนที่อยู่ในที่นั่ง และคนที่ยังไม่ได้ชนะการประมูลยาอายุวัฒนะ ก็คว้าโอกาสสามครั้งสุดท้ายไว้ให้ดี”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา บรรดาผู้ที่จับจ้องยาอายุวัฒนะที่อยู่ในสถานที่นั้น ต่างคนก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะผู้ที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะแข่งขันเพื่อชิงยาอายุวัฒนะเม็ดสุดท้ายนั้น ในเวลานี้พวกเขารู้อยู่แก่ใจอย่างมากว่า โอกาสที่แท้จริงของตัวเอง เหลือเพียงสองครั้งแล้วเท่านั้น!
ทันทีหลังจากนั้น ซ่งหวั่นถิงก็กล่าวเสริมว่า “สินค้าล็อตต่อไปที่จะประมูลนั้นมันค่อนข้างพิเศษ มันไม่ได้ปรากฏอยู่ในเอกสารการประมูลและแค็ตตาล็อกของเรามาก่อน มันเป็นของดีที่เราจงใจเก็บเป็นความลับ และพึ่งนำออกมาแบ่งปันให้กับทุกคนในตอนนี้”
พูดจบ เธอก็ขอให้พนักงานนำของที่ประมูลขึ้นมา
พนักงานนำจานสีเงินขึ้นเวทีอีกครั้ง เพียงแต่สิ่งที่ในจานสีเงินบรรจุอยู่นั้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเปลือกหอยหลากสี ขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือสี่ชิ้น
ซ่งหวั่นถิงเอ่ยปากแนะนำอย่างจริงจังในเวลานี้ว่า “ยันต์ขลังทั้งสี่ดวงนี้ เป็นสิ่งที่ทำจากวงศ์ย่อยหอยมือเสือคุณภาพสูงสุด จากมืออาจารย์ฮวงจุ้ยในเมืองจินหลิง และมีผลในการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและขจัดภัยพิบัติ ราคาเริ่มต้นคือสิบล้านเหรียญสหรัฐต่อหนึ่งดวง ผู้เข้าประมูลที่สนใจ เริ่มประมูลได้เลย”
ก่อนที่ซ่งหวั่นถิงจะพูดจบ กลุ่มคนที่อยู่ด้านล่างก็เย้ยหยัน
ราคาเริ่มต้นการประมูลของยาอายุวัฒนะเป็นหนึ่งร้อยล้านเหรียญสหรัฐยังไม่ว่า และแม้แต่ยันต์ขลังแค่นี้ก็ยังกล้าที่จะเรียกราคาเริ่มต้นที่สิบล้านเหรียญงั้นเหรอ?! นี่มันต่างกับโจรตรงไหน?
แม้ว่ายันต์ขลังนี้จะทำจากมือของอาจารย์ฮวงจุ้ยชั้นนำ แต่อยู่ในสายตาของพวกเขานั้น มันก็ไม่คุ้มค่ากับเงินจำนวนมากขนาดนี้หรอก
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ล่ายชิงหวาและเย่โจงฉวนที่ได้รับเชิญให้เป็นแขกวีไอพี กลับยกมือขึ้น และพูดพร้อมกันว่า “ผมให้สิบล้าน!”
ทุกคนต่างตกตะลึง
ชาวจีนหลายคนที่อยู่ในสถานนี่เคยได้ยินชื่อเสียงของล่ายชิงหวามาก่อน และรู้ว่าล่ายชิงหวาถึงเป็นอาจารย์ฮวงจุ้ยที่แท้จริง แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่า ล่ายชิงหวาจะประมูลยันต์ขลังที่ทำจากอาจารย์ฮวงจุ้ยที่ไม่รู้จักชื่อ นี่มันค่อนข้างอุกอาจไปมั้ย?
นอกจากนี้ยังมีเย่โจงฉวนหัวหน้าตระกูลเย่ ที่ไม่เคยเสนอราคาใดๆ มาเป็นเวลานาน ในเวลานี้จู่ๆ เขาก็ประมูลยันต์ขลัง ซึ่งทำให้คนดูเข้าใจได้ยากเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ล่ายชิงหวาและเย่โจงฉวนผู้รู้เหตุการณ์คู่นี้ต่างรู้ดีอยู่ในใจว่า ยันต์ขลังนี้เย่เฉินทำด้วยมือของเขาเอง ดังนั้นจึงต้องมีบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน!
และราคาเริ่มต้นเพียงสิบล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นสินค้าคุณภาพสูงและราคาต่ำ ยังไม่รีบลงมือแล้วจะรออะไรอยู่ล่ะ?