ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3840
เย่เฉินมองชายชราที่ใกล้จะตายแล้วตรงหน้าเขา ยิ้มเล็กน้อย และพูดนิ่งๆว่า:”สวัสดีครับ คุณเฟ่ย ผมชื่อเย่เฉิน”
เฟ่ยเจี้ยนจงรู้สึกว่าร่างกายของเขาแข็งแรงกว่าก่อนหน้านี้เล็กน้อย ดังนั้นจึงพยายามลุกขึ้น และอยากคำนับเย่เฉิน แต่เย่เฉินกลับยื่นมือออกมาห้าม และพูดว่า:”คุณเฟ่ย ตอนนี้ร่างกายของคุณยังอ่อนแออยู่ ไม่ต้องคำนับหรอกครับ”
เฟ่ยเจี้ยนจงกล่าวขอบคุณ:”คุณเย่…… ผมได้ยินชื่อคุณมานานแล้ว ในที่สุดวันนี้ผมก็ได้เจอคุณแล้ว…… ขอบคุณที่ช่วยชีวิตไว้ ถ้าไม่ใช่ว่าคุณยื่นมือมาช่วย ผมอาจจะตายไปแล้วก็ได้……”
เย่เฉินโบกมือ เหลือบมองเฟ่ยเข่อซินข้างๆ แล้วพูดว่า:”ถ้าคุณอยากจะขอบคุณ ก็ขอบคุณหลานสาวของคุณเถอะ ผมจะไม่เข้ามายุ่งเรื่องนี้ ถ้าผมไม่เป็นหนี้บุญคุณกับเธอ”
เมื่อพูดอย่างนั้น เย่เฉินก็พูดต่อ:”จริงสิ ยังต้องขอบคุณท่านล่ายที่ขอร้องให้คุณด้วย”
เฟ่ยเจี้ยนจงพยักหน้าเบา ๆ และมองเฟ่ยเข่อซินด้วยน้ำตา
ปู่กับหลานมองหน้ากัน เฟ่ยเข่อซินก็น้ำตาไหล และสะอื้นไม่หยุด
หลังจากนั้น เฟ่ยเจี้ยนจงก็มองล่ายชิงหวาอีกครั้ง และถอนหายใจเบา ๆ:”พี่ล่าย เรื่องแค่นี้ของผม ต้องทำให้พี่ต้องหนักใจไปด้วย!”
ล่ายชิงหวารีบพูดว่า:”จะมาเกรงใจอะไรกับฉัน อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ที่สำคัญคือคุณเย่ และเฟ่ยเข่อซินที่ช่วยนาย”
เฟ่ยเจี้ยนจงพยักหน้าเล็กน้อย มองไปที่เย่เฉินอีกครั้ง และพูดอย่างซาบซึ้งว่า:”คุณเย่ ความเมตตาอย่างยิ่งของคุณ ผมจะเก็บไว้ในใจแน่นอน แต่ตอนนี้ผมตกทุกข์อยู่ อาจจะไม่มีความสามารถตอบแทนน้ำใจคุณจริงๆ ได้โปรดอย่าต่อว่าเลย……”
เฟ่ยเจี้ยนจงรู้ดีว่า ตั้งแต่นี้ไป เขาแทบจะไม่เหลืออะไรเลย
แม้ว่าจะมีเงินอยู่ในบัญชีส่วนตัว แต่เมื่อเทียบกับทั้งตระกูลเฟ่ยแล้ว ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของตระกูลเฟ่ย จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา
ทันใดนั้นเย่เฉินพูดนิ่ง ๆ :”เอาล่ะ ที่ผมช่วยคุณนั้น ไม่ได้ต้องการให้คุณมาตอบแทน อีกอย่างสภาพร่างกายปัจจุบันของคุณยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ หากคุณสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกปีหรือสองปีในอนาคต หรืออีกเดือนสองเดือน นั้นขึ้นอยู่กับคุณ ต้องค่อยๆ ฟื้นตัวและค่อยๆ ปรับตัว”
เฟ่ยเจี้ยนจงพยักหน้าและกล่าวขอบคุณ:”ขอบคุณครับคุณเย่! ขอบคุณครับ!”
เฟ่ยเข่อซินก็กล่าวด้วยความเคารพว่า:”คุณเย่ ขอบคุณนะคะ!”
เย่เฉินโบกมือและพูดว่า:”คุณเฟ่ย ผมมีคำถามอยากจะถามคุณ และขอความกรุณาอย่าปิดบังกัน”
แม้ว่าเฟ่ยเจี้ยนจงไม่รู้ว่าเย่เฉินต้องการจะถามอะไร แต่ก็ยังพูดอย่างหนักแน่นว่า:”คุณเย่วางใจได้ ผมจะพูดทุกอย่างที่รู้ และจะไม่เก็บไว้แน่นอน”
เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย และถามเขา:”คุณเฟ่ย ผมอยากรู้ว่า หมายเลข 099 ฮั่วหย่วนเจิงที่ประมูลแข่งกับคุณในงานประมูล คือใครกันแน่ครับ?”
“ฮั่วหย่วนเจิง?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฟ่ยเจี้ยนจงส่ายหัว และยิ้มอย่างขมขื่น:”ชื่อของเขาไม่ใช่ฮั่วหย่วนเจิง แต่ตอนเขาอยู่ข้างนอก ไม่ค่อยได้ใช้ตัวตนที่แท้จริงของเขา”
พูดจบ เฟ่ยเจี้ยนจงก็พูดต่อ:”ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือลูกชายคนโตของตระกูลอาน อานโฉงชิว”
“อานโฉงชิว? ! ”
เย่เฉินตกตะลึงเมื่อได้ยินคำสามคำนี้!
ในความทรงจำของเย่เฉิน เขามีน้าชายสามคน น้าชายใหญ่อานโฉงชิว น้าชายรองอานข่ายเฟิง และน้าชายเล็กอานจาวหนาน
นอกจากนี้ยังมีน้าสาว ชื่ออานโยวโยว
อันที่จริง น้าชายทั้งสามและน้าสาวคนหนึ่ง พบกันไม่กี่ครั้ง
แต่เหตุผลที่จำชื่อของพวกเขาได้อย่างชัดเจนนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะชื่อของพวกเขาเหมือนกับชื่อแม่อานเฉิงซี ที่มาจากวรรณกรรมคลาสสิกของหัวเซี่ย
ในบรรดาพวกเขา ชื่อของมารดาอานเฉิงซีนั้น ถูกนำมาจากวลี “คนจริงใจดึงดูดให้คนชื่นชม” ใน “สื่อจี้แม่ทัพหลี่เลี่ยจ้วน”
ชื่อของน้าชายใหญ่อานโฉงชิว มาจากชื่อบทใน”คัมภีร์ซือจิงเสี่ยวหย่า”
ชื่อของน้าชายรองอานข่ายเฟิง มาจาก”คัมภีร์ซือจิงกั๋วเฟิง บทลมของเป้ยตี้ข่ายเฟิง” ใน”คัมภีร์”
ชื่อของน้าชายเล็กอานจาวหนาน มาจากหนึ่งใน15กั๋วเฟิงของ “คัมภีร์”
ชื่อของน้าสาวอานโยวโยว มาจากบทเปิดของ”คัมภีร์ซือจิงเสี่ยวหย่า บทกวางร้อง” หนังสือ”แว่วแว่วเสียงเก้งกวาง ร้องเสียงกร่างดังอึงมี่โย่”