ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3842
นาทีที่มองทะลุตัวตนของเย่เฉิน เฟ่ยเข่อซินดูเหมือนจะจับความหวังสุดท้ายที่แท้จริงได้
ทันใดนั้น เธอก็คุกเข่าลงอีกครั้ง พูดอ้อนวอนเสียงสะอื้นว่า:”คุณชายเย่ ได้โปรดช่วยปู่ของฉันด้วย ช่วยเขาทวงอำนาจของตระกูลเฟ่ยกลับมา……”
ทันทีที่เฟ่ยเข่อซินพูดคำเหล่านี้ออกมา เฟ่ยเจี้ยนจงก็ตกตะลึงทันที
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเฟ่ยเข่อซิน ถึงขอให้เย่เฉินช่วยให้เขาทวงอำนาจกลับมา
ยังไงซะ แม้ว่าเย่เฉินจะมียาอายุวัฒนะ แม้ว่าเขาจะมอบยาอายุวัฒนะให้กับตน ตนก็ทำได้แค่อยู่รอดได้
การอยู่รอดไม่ได้หมายความว่าจะสามารถทวงอำนาจของตระกูลเฟ่ยกลับมาได้
เพราะลูกชายคนโตของเขาเท่ากับว่ากำจัดตนทิ้ง และตนไม่มีทางสู้กับเขาได้เลย
และถึงขั้น ตนอาจจะไม่สามารถกลับอเมริกาได้เลย
เพราะเมื่อเขากลับมาที่ประเทศจีนอย่างประมาท ลูกชายคนโตจะเห็นเขาเป็นหนามยอกอกอย่างแน่นอน และจะไม่มีวันให้เขารอดกลับไป
และล่ายชิงหวาที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกแปลกใจและดีใจ
ที่แปลกใจคือ เฟ่ยเข่อซินกลับสามารถมองทะลุตัวตนที่แท้จริงของเย่เฉินได้
ที่ดีใจก็คือ เฟ่ยเข่อซินขอร้องถูกคนแล้วจริงๆ ตอนนี้นอกจากเย่เฉินแล้ว เกรงว่าจะไม่มีใครสามารถช่วยเฟ่ยเจี้ยนจงให้กลับมาควบคุมอำนาจตระกูลเฟ่ยได้อีก
เย่เฉินก็รู้สึกประหลาดใจมาก
เขารู้ว่าเฟ่ยเข่อซินฉลาด แต่ไม่นึกเลยว่าเธอจะฉลาดขนาดนี้
คงเป็นเพราะว่าเมื่อกี้เขาได้ยินชื่อของน้าชายใหญ่ และไม่ทันได้ควบคุมสีหน้า ถูกเฟ่ยเข่อซินก็จับได้
โชคดีที่ข้างๆ นอกจากล่ายชิงหวาแล้ว ก็มีแต่ทหารของสำนักว่านหลง พวกเขาล้วนรู้ว่าเขาเป็นคุณชายตระกูลเย่ เฟ่ยเข่อซินพูดแบบนี้ ก็ไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเขาออกไป
ดังนั้นเย่เฉินไม่คิดที่จะปฏิเสธ เพียงแค่มองไปที่เฟ่ยเข่อซิน แล้วพูดนิ่งๆ ว่า:”ขอโทษนะ เรื่องนี้ผมคงช่วยไม่ได้”
เฟ่ยเข่อซินใจร้อน จึงโพล่งออกมา:”มันจะเป็นไปได้อย่างไรคุณชายเย่ ด้วยความสามารถของคุณ ถ้าคุณยอมช่วย จะต้องมีวิธีแน่นอน สำหรับเงื่อนไข คุณว่ามาได้เลย ฉันเชื่อว่าคุณปู่จะตอบตกลงคุณแน่นอน…..”
เฟ่ยเจี้ยนจงรู้สึกประหลาดใจมาก มองไปทางเฟ่ยเข่อซิน และถามเสียงเบาว่า:”เข่อซิน……นี่หนู……”
เมื่อเย่เฉินเห็นว่าเฟ่ยเข่อซินมองตัวตนของเขาออกแล้ว ก็พูดกับทหารของสำนักว่านหลงข้างๆ ว่า:”พวกคุณออกไปก่อน”
“ขอรับคุณเย่!”ทหารหลายนายของสำนักว่านหลงหันหลังเดินออกไปทันที
จากนั้นเย่เฉินมองไปทางหยวนจื่อซู และกล่าวว่า:”คุณครับ รบกวนเชิญออกไปก่อนนะครับ”
หยวนจื่อซูเหลือบมองเฟ่ยเจี้ยนจง และเห็นว่าเฟ่ยเจี้ยนจงพยักหน้า จากนั้นจึงคารวะเย่เฉิน และเดินออกไป
ตอนนี้ในห้อง เหลือเพียงเย่เฉิน ล่ายชิงหวา และปู่หลานเฟ่ยเจี้ยนจง เฟ่ยเข่อซินสองคน
ทันใดนั้นเย่เฉินก็มองเฟ่ยเจี้ยนจง และพูดอย่างจริงจังว่า:”คุณท่านเฟ่ย ผมเป็นหลานชายของตระกูลเย่แห่งเย่นจิง แม่ของผมคือลูกสาวคนโตของตระกูลอาน อานเฉิงซี ซึ่งอานโฉงชิวที่แข่งขันกับคุณเมื่อกี้ คือน้าชายใหญ่ของผม”
เฟ่ยเจี้ยนจงได้ยินเช่นนี้ ตกตะลึงอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูก
เขาเบิกตากว้าง และพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว:”คุณ……คุณเป็นลูกชายของอานเฉิงซี? ! อานเฉิงซีทั้งครอบครัวเสียไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เย่เฉินถอนหายใจ และพูดอย่างจริงจังว่า:”พ่อแม่ของผมเสียชีวิต แต่ผมรอดมาได้”
พูดจบ เย่เฉินก็ถามเขาว่า:”สาเหตุที่พ่อแม่ของผมเสียชีวิต ไม่ทราบว่าคุณรู้เบื้องหลังอะไรรึเปล่า?”
เฟ่ยเจี้ยนจงส่ายหัวแล้วพูดว่า:”คุณชายเย่ ข่าวการตายของแม่คุณอานเฉิงซีในหัวเซี่ย มีผลกระทบอย่างมากต่อชนชั้นสูงในสหรัฐอเมริกา มีหลายคนบอกว่าเธอถูกคนอื่นทำร้าย แต่ไม่มีใครรู้ว่าเธอถูกใครทำร้ายกันแน่ ว่ากันว่าตระกูลอานก็สืบมาตลอด แต่ยังสืบอะไรไม่พบเลย และคนนอกอย่างเรา ก็ยิ่งไม่รู้……”
ในเวลานี้ เฟ่ยเข่อซินที่อยู่ข้างๆ ก็พูดว่า:”คุณชายเย่ หลังจากที่แม่ของคุณเสียไป ศิษย์เก่าของเธอหลายคนที่สแตนฟอร์ด รวมถึงบรรดาคนใหญ่โตในซิลิคอนแวลลียที่เคยยอมรับการลงทุนของเธอ จนกลายเป็นผู้ประกอบการชั้นนำ ต่างก็หาทุกวิถีทางที่ค้นหาความจริงการตายของเธอมาโดยตลอด แต่ก็ไม่พบเบาะแสที่ชัดเจนจนถึงวันนี้”